เจดีย์วัดแหลมสัก
อาทิตย์นี้ได้ตามรอยสยามไปยังทะเลภาคใต้เพื่อตามหาชุมชนต้นแบบที่ บ้านแหลมสักอยู่ในอ่าวลึกของทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่เป็นชุมชนที่เกิดขึ้นมากว่า ๑๐๐ ปีแล้ว เดิมนั้นได้มีผู้คนจากโพ้นทะเลจีนเดินทางเรือเข้ามาอาศัยอยู่และสร้างชุมชนของตนเป็นห้องแถวไม้อยู่ ๒ ฝั่งโดยมีถนนผ่านกลาง ด้วยเหตุที่เป็นชุมชนชายฝั่งทะเลที่อุดมไปด้วยป่าไม้โกงกาง ไม้ตะบูน ไม้แสมจึงเป็นแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เกิดอาชีพตัดไม้โกงกาง การประมง และผลิตภัณฑ์จากการทำปลาเค็ม ปลาแห้ง ขาย สำหรับอาชีพตัดไม้โกงกางขายเป็นฟืน เดิมใช้เส้นทางเรือ แม้ภายหลังมีถนนใช้แล้ว การเดินทางติดต่อหาสู่ตัวจังหวัดกระบี่ยังคงต้องนั่งเรือข้ามฝั่งไปขึ้นที่อ่าวลึกก่อน แล้วนั่งรถยนต์ไปกระบี่ ซึ่งใช้เวลานาน ไม่สะดวกทำให้ชาวแหลมสักส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปภูเก็ตเพื่อติดต่อค้าขาย ทำธุรกิจ และซื้อข้าวของเครื่องใช้มากกว่าตัวเมืองกระบี่ แม้ในยามป่วยเจ็บไข้ก็นั่งเรือไปหาหมอรักษาที่ภูเก็ต จนภาษาสำเนียงของชาวแหลมสักคล้ายชาวภูเก็ตมากกว่ากระบี่
กระชังกลางทะเล
ช่วงมีกิจการทำถ่านไม้โกงกางนั้น คนแหลมสักมักใช้เรือแจวบรรทุกไม้โกงกางไปขายที่พังงา ภูเก็ต แล้วแวะพักไปตามเกาะต่างๆ ใช้เวลาหลายวันในช่วงเกิดอุตสาหกรรมถ่านไม้โกงกาง ก็ใช้เรือสำเภาหรือเรือใบสามหลัก ส่งไม้โกงกางออกไปขายถึงปีนัง สิงคโปร์ ทำให้ชุมชนบ้านแหลมสักแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับจอดเรือและขนถ่ายสินค้าไปขายยังที่ต่างๆ จนเมื่อมีเรือยนต์ขึ้นจึงได้บรรทุกข้าวสาร กุ้งแห้ง กะปิ ปลาเค็ม ไปขายที่ภูเก็ตด้วย ปัจจุบันมีการทำสะพานข้ามคลองให้มีการติดต่อกับภายนอกสะดวกและรวดเร็วกว่าทางเรือแล้ว การสัญจรทางน้ำโดยทางเรือจึงลดน้อยลง ด้วยความเป็นชุมชนเก่าจึงยังคงมีร้านขายของชำที่ซื้อขายกันเองในชุมชน แม้ว่าจะมีลูกหลานออกจากชุมชนไปเรียนสูงก็ชอบจะทำงานที่อื่น ดังนั้น การฟื้นฟูชุมชนให้น่าอยู่นั้นจึงเป็นแรงผลักดันให้ผู้ที่อยู่ได้ร่วมกันสร้างให้เป็นชุมชนต้นแบบทางวัฒนธรรม ด้วยบริบทและสิ่งแวดล้อมเป็นต้นทุน ซึ่งไม่เหมือนใคร กล่าวคือ ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับทะเล ๓ ด้าน และมีวิถีวัฒนธรรมจากศาสนา ทั้งพุทธ มุสลิม และประเพณีดั้งเดิมของชาวจีนฮกเกี้ยนจากโพ้นทะเล ที่มีวัด สุเหร่า ศาลเจ้า เป็นศูนย์รวมวิถีชาวแหลมสักอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สร้างสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม ทำอาหารรสชาติเดิมจากทรัพยากรทางทะเลที่มีกุ้งมังกร ปลากะพง สาหร่ายพวงองุ่น กะปิเคย จนชุมชนบ้านแหลมสักนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม โอบล้อมด้วยทะเลในที่มีภูเขากลางทะเลเป็นแนวยาว ทำให้เที่ยวทางทะเลได้ทั้งปีเวิ้งอ่าวนั้นแวดล้อมด้วยเกาะแก่งและภูผา ที่ภายในมีถ้ำ มีหินงอกหินย้อยและภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภาพคน สัตว์ และรูปทรงเรขาคณิตหลายแห่ง ท้องทะเลนี้สามารถเดินทางไปเกาะแก่งต่างๆ ของกระบี่ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ ของพังงา ที่เชื่อมกับเส้นทางรถไปชุมชนอื่นๆ ด้วยโดยเฉพาะวัฒนธรรมย่าหยา การแต่งกายพื้นถิ่นของไทยเชื้อสายจีนฮกเกี๋ยน ที่แต่งงานกับชนพื้นเมือง เรียกกันว่า บาบ๋าย่าหยา นั้นเป็นชุดลำลอง ตัวเสื้อตัดด้วยผ้าลูกไม้หรือผ้าป่านรูเบีย แขนยาว เข้าเอวรัดรูป ปักลายฉลุทั้งที่คอเสื้อ ชายเสื้อ และปลายแขน ตัวเสื้อด้านหน้าปลายแหลมยาว ความยาวตัวเสื้อจะอยู่ระดับสะโพกบน ปกเสื้อด้านหน้าแบะออกสำหรับติดโกสังหรือกระดุมทองฝังเพชรที่ร้อยเชื่อมด้วยสร้อยทอง ส่วนผ้านุ่งปัจจุบันนิยมใช้ผ้าปาเต๊ะ และผ้าปาเต๊ะที่นี่ได้มีการพัฒนาต่อยอดมาตัดเย็บเป็นกางเกง และกระเป๋าผ้า สำหรับผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของพื้นที่นั้นมี กะปิกุ้งตักบ้านอ่าวน้ำ เวชสำอางจากสาหร่ายพวงองุ่น ที่เลี้ยงไว้ในกระชัง และ ปลาแดดเดียวซึ่งใช้ปลาบ้าสีหรือปลามกคกมีเนื้อค่อนข้างนิ่ม ไม่แข็ง นำมาแปรรูปโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้เพียงเกลือกับขั้นตอนการทำให้ได้ปลาแดดเดียวที่ไม่ได้เจือสารเคมีใดๆ เป็นต้นขอบคุณ กระทรวงวัฒนธรรม ที่ยกย่องชุมชนบ้านแหลมสักเป็นต้นแบบทางวัฒนธรรมและส่งเสริมให้ร่วมกิจกรรม Thailand Biennale,Krabi ๒๐๑๘ และพัฒนาการท่องเที่ยวตามโครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน (บวร On Tour) นับเป็นกำลังใจให้ชุมชนแห่งนี้ได้พัฒนาต้นทุนของท้องถิ่นให้ก้าวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี