แม่น้ำสงคราม
อาทิตย์นี้ได้เดินทางตามเส้นทางสายเกลือสินเธาว์จากการที่กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการสร้าง “Soft Power” วิถีอย่างไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CreativeEconomy) ไปสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่น งานเทศกาลและประเพณีจากพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในไทยและนานาชาตินั้น จึงทำให้เกิดโครงการเผยแพร่วัฒนธรรมบนเส้นทางสายเกลือใน ๓ จังหวัด ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน สกลนคร บึงกาฬ และนครพนม ขึ้น โดยใช้แหล่งวัฒนธรรมเกลือบนแม่น้ำสงคราม ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาสายหลักของแม่น้ำโขง ซึ่งเป็น ๑ ใน ๓๗ แห่งของลุ่มน้ำสาขาของลุ่มแม่น้ำโขง ที่แบ่งเป็นลุ่มน้ำสงครามตอนบน และลุ่มน้ำสงครามตอนล่างมีพื้นที่ลุ่มน้ำรวมกันประมาณ ๖,๔๗๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔,๐๔๕,๐๐๐ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ใน๕ จังหวัด คือ สกลนคร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม แม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาภูพาน บริเวณภูผาหัก ภูผาเพลิน และภูผาเหล็กในท้องที่ตำบลท่าศิลา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร และตำบลคำเลาะ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี บริเวณต้นน้ำมีลำห้วยสาขาต่างๆ อาทิ ห้วยหวด และห้วยหมากซ่อม ไหลลงห้วยสงคราม, ห้วยอีสาว ไหลลงห้วยสงคราม ห้วยคำเมย-ห้วยคำแคนในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ไหลลงห้วยสงครามต่อจากนั้นไหลผ่านอำเภอไชยวาน (อุดรธานี) อำเภอส่องดาว (สกลนคร) อำเภอทุ่งฝน (อุดรธานี) อำเภอเจริญศิลป์ (สกลนคร) อำเภอบ้านดุง (อุดรธานี) อำเภอบ้านม่วง (สกลนคร) อำเภอเฝ้าไร่ (หนองคาย)ไหลขึ้นเหนือไปจนถึงอำเภอโซ่พิสัย (บึงกาฬ) ผ่านอำเภอพรเจริญ (บึงกาฬ) อำเภอคำตากล้า (สกลนคร)อำเภอเซกา (บึงกาฬ) อำเภอนาทม (นครพนม) อำเภออากาศอำนวย (สกลนคร) อำเภอศรีสงคราม ไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่บ้านไชยบุรีและบ้านตาลปากน้ำ ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีความยาวโดยประมาณ ๔๒๐ กิโลเมตร นับว่าเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่มีความยาวที่สุดในเขตอีสานตอนบน
แพพักริมแม่น้ำ
ดังนั้น บนเส้นทางสายเกลือสินเธาว์ของลุ่มน้ำสงครามนี้ คุณยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ คุณธานี แสงรัตน์อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศได้นำคณะตามเส้นทางสายเกลือในแม่น้ำสงครามซึ่งมีลำน้ำสาขาสำคัญคือ น้ำอูน น้ำยาม ห้วยโนดห้วยชาง ห้วยน้ำเย็น ห้วยน้ำอุ่น ห้วยสามยอดห้วยคำแก้ว ห้วยคอง ห้วยชี ห้วยฮี้ และน้ำเมา ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำสงคราม ทำให้ลำน้ำสายนี้มีขนาดใหญ่โดยเฉพาะในช่วงปลายลำน้ำก่อนไหลลงแม่น้ำสงคราม แม่น้ำสงครามเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยว มีตลิ่งค่อนข้างสูงชัน ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะสูงขึ้น ปริมาณน้ำมหาศาลจะไหลย้อนเข้ามาในแม่น้ำสงครามถึง ๒๐๐ กิโลเมตร โดยในช่วงฤดูน้ำหลากพื้นที่ลุ่มน้ำสงครามจะมีพื้นที่น้ำขังประมาณ ๙๖๐ ตารางกิโลเมตร หรือ ๖ แสนไร่ ประเด็นสำคัญนั้นบนเส้นทางสายเกลือในภาคอีสานนี้ได้มีบทบาทของมนุษยชาติมามากกว่า ๑,๐๐๐ ปี จากการพบแหล่งเกลืออยู่ในลุ่มน้ำสำคัญแม้กระทั่งบนเขาในจังหวัดน่าน ด้วยเหตุที่ลุ่มน้ำสงครามเป็นแหล่งเกลือสินเธาว์จากคราบเกลือริมแม่น้ำและเกลือใต้ดินแล้ว ยังเป็นแหล่งที่มีต้นครามหรือต้นคาม ที่อดีตนั้นนำใบและต้นจากไม้พุ่มนี้มาทำเป็นครามสำหรับย้อมสีครามบนผ้าที่ทอมือด้วย หากศึกษาแหล่งทรัพยากรในลุ่มแม่น้ำนี้ต่อมาก็พบว่ามีบริเวณป่าบุ่งป่าทามมากมายด้วยพรรณพืชในป่าทามที่ใช้ประโยชน์ได้จำนวนถึง ๒๐๘ ชนิด และยังมีความหลากหลายของระบบนิเวศย่อย ถึง ๒๘ ระบบ ทำให้เกิด กุด แก้ง ดง ดอน ทาม บุ่ง โพน วัง โสก ฯลฯ ที่มีความเหมาะสมต่อการเป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์ปลามากกว่า ๑๒๔ ชนิด กับมีชนิดพันธุ์นกชนิดต่างๆ ในป่าทามไม่ต่ำกว่า ๑๓๖ ชนิด จึงทำให้วิถีชีวิตคนลุ่มน้ำสงครามได้ผูกพันกับแม่น้ำสงครามและป่าบุ่งป่าทามอย่างแยกกันไม่ออกมายาวนาน โดยชาวบ้านได้พึ่งพาทรัพยากรในป่าบุ่งป่าทามและเกลือจาก ลุ่มน้ำสงคราม มาสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและประเพณีขึ้นบนเส้นทางเกลือสินเธาว์สายนี้ ทำให้มีชุมชนทางวัฒนธรรมขึ้นหลายแห่งที่น่าสนใจ...ที่ต้องติดตามเรียนรู้กันมาถึงวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี