แพทย์เผยงานวิจัยพบ‘บุหรี่ไฟฟ้า’  สูบแล้วเสี่ยง‘สภาวะสมองล้า’ทุกวัย

แพทย์เผยงานวิจัยพบ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ สูบแล้วเสี่ยง‘สภาวะสมองล้า’ทุกวัย

วันจันทร์ ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :

เมื่อต้นเดือน ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา พญ.เริงฤดี ปธานวนิชอาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชมคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Rochester สหรัฐอเมริกา ที่รายงานความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับสภาวะสมองล้า โดยพบว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเกิดสภาวะสมองล้า คือมีปัญหาในการจดจ่อ จดจำ หรือตัดสินใจ มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

ซึ่งจากข้อมูลกรมสุขภาพจิต สภาวะสมองล้า หรือ brain fog เกิดจากการทำงานอย่างหนักจนทำให้รู้สึกมึนหัว รู้สึกตื้อ หรือฟุ้งๆ ความจำสั้น ไม่สามารถโฟกัสกับอะไรได้ รวมไปถึงการบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานในระยะยาว ไปจนถึงเป็นตัวเริ่มต้นของโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างโรคเครียด หรืออาจถึงขั้นเกิดสภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยอันควรได้


“งานวิจัยชุดนี้ทำให้ทราบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของสภาวะสมองล้า ซึ่งงานวิจัยยังปรากฏว่าเด็กๆ มีแนวโน้มที่จะเกิดสภาวะสมองล้ามากขึ้น หากเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนอายุ 14 ปี โดยเด็กที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า พบว่ามีแนวโน้มเกิดสมองล้าสูงกว่าเด็กที่ไม่เคยสูบ 3-4 เท่า ส่วนกรณีผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าพบมีแนวโน้มเกิดสมองล้าสูงกว่าคนที่ไม่เคยสูบ 2 เท่า ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ต้องถือว่าเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่รายงานผลของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อสมองในคน ซึ่งก่อนหน้ามีการศึกษาเฉพาะในสัตว์ทดลอง” ดร.พญ.เริงฤดี กล่าว

ในงานวิจัยฉบับนี้ ตงเม่ย หลี่ (Dongmei Li) หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่าการศึกษาครั้งนี้ได้เพิ่มหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ควรถูกพิจารณาว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับการสูบบุหรี่ โดยใช้ข้อมูลสำรวจขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา 2 ชุดข้อมูล ได้แก่ การสำรวจการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชน (the National Youth Tobacco Survey) ที่เก็บข้อมูลจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 18,000 คน

และการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ (the Behavioral Risk Factor Surveillance System) ที่เก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่ จำนวน 886,000 คน ซึ่งจากข้อมูลสำรวจทั้งสองชุดนี้ ให้ผลตรงกันว่า ผู้ที่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าโดยไม่คำนึงถึงอายุมักจะรายงานว่ามีปัญหาสภาวะสมองล้า นอกจากนี้ ยังพบว่าคนที่สูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดสภาวะสมองล้าในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสูงกว่ากลุ่มคนที่ไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ

หลี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การศึกษาในกลุ่มเยาวชนยังพบว่า นักเรียนที่เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุระหว่าง 8-13 ปีมีแนวโน้มที่จะปัญหาด้านสมาธิ ความจำ หรือตัดสินใจได้ยากกว่าผู้ที่เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเมื่ออายุ 14 ปีขึ้นไป ซึ่งการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของวัยรุ่นที่เพิ่มขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก และแสดงให้เห็นว่าจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งการป้องกันที่เริ่มต้นในโรงเรียนมัธยมต้นหรือมัธยมปลายอาจจะสายเกินไปแล้ว

“วัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานของสมองระดับสูง ซึ่งหมายความว่าวัยรุ่นอาจมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสมองที่เกิดจากนิโคติน แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะพบสารอันตรายบางอย่างน้อยกว่าที่พบในบุหรี่ แต่ก็นิโคตินยังคงมีปริมาณที่เท่ากันหรืออาจมากกว่า” หลี่ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top