เทคนิค XLIF ผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลังผ่านช่องท้องแบบแผลเล็ก บาดเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็วลดภาวะแทรกซ้อน ไม่ทำลายโครงสร้างกระดูกสันหลัง
กระดูกสันหลัง เป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายในการรับน้ำหนักแกนกลางและสรีระของลำตัว หากกระดูกสันหลังเกิดความผิดปกติ เช่น กระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด จึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก
นายแพทย์ปิลันธน์ ใจปัญญา ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า การรักษาความผิดปกติของโรคกระดูกสันหลังมีหลายวิธี ตั้งแต่รับประทานยา กายภาพบำบัด ฉีดยาและผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยในอดีตนั้นสามารถผ่าตัดกระดูกสันหลังได้จากด้านหลังเท่านั้นเนื่องจากกระดูกสันหลังอยู่ในตำแหน่งลึกจึงต้องเลาะกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ ก่อนที่จะเข้าถึงกระดูกสันหลังและแก้ไขความผิดปกติ ทำให้เกิดการบาดเจ็บมากและผู้ป่วยต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
ปัจจุบันทางการแพทย์จึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้การผ่าตัดกระดูกสันหลังมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการผ่าตัดเทคนิคใหม่เพื่อเชื่อมกระดูกสันหลังส่วนเอวผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณด้านข้างลำตัว หรือ Extreme Lateral Interbody Fusion (XLIF) โดยสามารถลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังและเนื้อเยื่อต่างๆ จากการผ่าตัดได้ดี
“ในการผ่าตัดแบบ XLIF ศัลยแพทย์จะเจาะกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวและเข้าสู่บริเวณกระดูกสันหลังผ่านช่องว่างหลังช่องท้อง (retroperitoneal space) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีกลุ่มเส้นประสาทส่วนเอวพาดผ่าน จึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบตำแหน่งและการทำงานของเส้นประสาท (Neuromonitoring) ระหว่างการผ่าตัด เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของเส้นประสาทและเพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัด โดยจุดเด่นของการผ่าตัดเทคนิคนี้คือสามารถใส่อุปกรณ์ถ่างขยายช่องหมอนรองกระดูกได้กว้างและมั่นคงกว่าการผ่าตัดจากด้านหลังแบบดั้งเดิม ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถแก้ไขความผิดรูปของกระดูกสันหลังและขยายโพรงประสาทสันหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการเชื่อมข้อต่อกระดูกสันได้อีกด้วย นอกจากนี้ การผ่าตัดแบบ XLIF ยังช่วยหลีกเลี่ยงการทำลายกล้ามเนื้อหลังจากการผ่าตัดและลดการเสียเลือดส่งผลให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็วขึ้น ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน ลดการเกิดพังผืดบริเวณเส้นประสาทเนื่องจากกล้ามเนื้อหลังและเนื้อเยื่ออื่น ๆ เกิดการบาดเจ็บน้อย ตลอดจนช่วยชะลอความเสื่อมของข้อกระดูกที่ยังไม่ได้ผ่าตัด เนื่องจากเทคนิคนี้ไม่ทำลายโครงสร้างกระดูกสันหลัง” นายแพทย์ปิลันธน์กล่าว
การผ่าตัดด้วยเทคนิค XLIF เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกสันหลังเคลื่อน กระดูกสันหลังคดที่องศาความคดยังไม่มากนัก ผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาหรือการทำกายภาพบำบัด ตลอดจนผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายโรคหรือสูงอายุก็สามารถผ่าตัดด้วยเทคนิค XLIF ได้ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแบบบาดเจ็บน้อย ทั้งนี้ เทคนิค XLIF ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของกระดูกสันหลังข้อที่อยู่ต่ำกว่าเชิงกราน กระดูกสันหลังเคลื่อนรุนแรง ผู้ป่วย
ที่มีประวัติการผ่าตัดที่ช่องท้องหรือมีพังผืดตำแหน่งเดียวกับที่จะผ่าตัดกระดูกสันหลัง ในกรณีเหล่านี้ ศัลยแพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดด้วยวิธีอื่น หรือผ่าตัดด้วยวิธีอื่นร่วมกับการผ่าตัดแบบ XLIF แทน
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านทางด้านข้างลำตัว ผ่านช่องว่างหลังท้อง มีความเสี่ยงเกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะสำคัญในช่องท้องได้ เช่น ลำไส้ ทางเดินปัสสาวะ เส้นเลือด เส้นประสาท จึงจำเป็นต้องใช้ศัลยแพทย์เฉพาะทางและมีประสบการณ์สูง รวมถึงเลือกผ่าตัดในโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่เพียบพร้อม เพื่อความปลอดภัยและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี