หลังจากที่นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมาประกาศเรื่องการจัดรัฐพิธีศพให้แก่นายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ถูกลอบสังหารระหว่างเข้าร่วมแคมเปญหาเสียงของพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะจัดขึ้นที่สนามกีฬาในกรุงโตเกียว วันที่ 27 กันยายนที่จะถึงนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำจากชาติต่างๆ ทั่วโลก ได้มีโอกาสร่วมไว้อาลัย และยังเป็นการแสดงให้เห็นด้วยว่าญี่ปุ่นจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ความรุนแรง
แต่เมื่อมีการประกาศเรื่องนี้ขึ้นก็มีชาวญี่ปุ่นไม่น้อยที่ออกมาคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้บางคนถึงขั้นจุดไฟเผาตัวเองเพื่อประท้วงเลยทีเดียว หลายคนมองว่าไม่สมควรที่จะจัดรัฐพิธีศพ เนื่องจากต้องใช้เงินภาษีจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า รัฐพิธีศพของนายอาเบะ น่าจะต้องใช้เงินราวๆ 1,700 ล้านเยน หรือประมาณ 440 ล้านบาท สูงกว่าตัวเลขที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ตอนแรกอย่างมาก และว่ากันว่าสูงกว่างบประมาณในการจัดรัฐพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปอีกต่างหาก โดยค่าใช้จ่ายรัฐพิธีพระบรมศพ อยู่ที่ราว8 ล้านปอนด์ หรือราว 1,300ล้านเยน ขณะที่ค่าใช้จ่ายรัฐพิธีศพนายอาเบะ ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาความปลอดภัย รวมถึงค่ารับรองแขกคนสำคัญจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาร่วมพิธีราว 700 คน จาก 217 ประเทศ ภูมิภาคและองค์การระหว่างประเทศ ในจำนวนนี้จะเป็นผู้นำหรืออดีตผู้นำ 49 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา, นายกรัฐมนตรีฮันด็อกซู ของเกาหลีใต้, ประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม, นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย, นายกรัฐมนตรีแอโธนีอัลบาเนซี ของออสเตรเลีย และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริสของสหรัฐฯ
เดอะ สเตรตไทม์ส รายงานว่า มีสาเหตุหลักๆ อยู่ 2 ประการ ที่ทำให้ผู้คนชาวญี่ปุ่นออกมาคัดค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องแรกก็คือ การตัดสินใจที่ไม่เหมาะสมของนายกรัฐมนตรีคิชิดะ และเรื่องที่สองเกี่ยวกับกรณีที่สมาชิกพรรคแอลดีพี จำนวนมากเกี่ยวข้องกับลัทธิโบสถ์แห่งความสามัคคี
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารนายอาเบะ ซึ่งผู้ก่อเหตุสารภาพในเวลาต่อมาว่า ลงมือเพราะเข้าใจว่านายอาเบะ เกี่ยวข้องกับลัทธิโบสถ์แห่งความสามัคคี อันเป็นตัวการที่ทำให้มารดาของเขาต้องล้มละลายและครอบครัวแตกสลาย ต่อมานายคิชิดะ ก็ประกาศตัดความสัมพันธ์กับลัทธิดังกล่าวในทันที แต่หลังจากที่ผลการตรวจสอบโบสถ์ออกมา กลับพบว่า พรรคแอลดีพี ที่นายอาเบะยังมีอิทธิพลอยู่มาก มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิโบสถ์แห่งความสามัคคี ขณะที่ผลสืบสวนขั้นต้นของทางพรรคเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน พบว่า มีสมาชิกพรรคเกือบครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 379 คน ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับลัทธิโบสถ์แห่งความสามัคคี ทำให้คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีคิชิดะร่วงต่ำสุดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ไมนิจิ เดลี ของญี่ปุ่น ระบุว่า นายกรัฐมนตรีคิชิดะมีคะแนนนิยมเหลือเพียงร้อยละ 29 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 6 จากผลสำรวจในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
แม้ว่านายอาเบะ จะเป็นนายกรัฐมนตรีนาน 2 สมัย กินระยะเวลานานถึง 8 ปี และยังเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่ว่าความนิยมในประเทศของเขาก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับว่าสมควรจัดงานรัฐพิธีศพให้ นอกจากนี้การจัดรัฐพิธีศพให้แก่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆซึ่งหากย้อนกลับไปครั้งล่าสุด ก็คือในปี 1967 ที่มีการจัดรัฐพิธีศพให้แก่นายชิเงรุ โยชิดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่มีศักดิ์เป็นพระอัยกาฝ่ายพระชนนีในเจ้าหญิงโนบูโกะ พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะ แต่ในครั้งนั้น งบประมาณที่ใช้จัดรัฐพิธีศพ อยู่ที่เพียง 18 ล้านเยนหรือเทียบกับในปัจจุบัน ก็ราวๆ 70 ล้านเยนเท่านั้น
นายกรัฐมนตรีคิชิดะ บอกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทราบถึงความไม่พอใจเรื่องการจัดรัฐพิธีศพจากประชาชนจำนวนมากแล้วอย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการยกเลิกงานไม่ใช่ทางออกที่ดีเนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ดำเนินการเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงส่งคำเชิญไปยังประเทศต่างๆ เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ถือเป็นสิ่งน่ากังวลไม่น้อย จากตัวเลขงบประมาณการจัดงานที่สูงลิ่วท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญเหมือนกับทั่วโลกจนอัตราเงินเฟ้อในประเทศพุ่งทะยานสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ควรนำเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายจัดรัฐพิธีศพ ไปให้อุดหนุนครัวเรือนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อในประเทศมากกว่า
หลายคนทราบกันดีว่า ด้วยแนวคิดความเป็นชาตินิยมของนายอาเบะ ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากประชาชนชาวญี่ปุ่น บางคนถึงกับพูดว่า การถูกลอบสังหารครั้งนี้ เป็นเหมือนกับกรรมตามสนอง
สมัยยังมีชีวิตอยู่ นโยบายของอาเบะตอนเป็นนายกรัฐมนตรี เคยสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์และทำให้ญี่ปุ่นแบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่ายมาแล้ว แต่ถึงตอนนี้ แม้ตัวจะจากไป แต่เสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตัวเขาก็ยังคงสะท้อนดังก้อง วนเวียนอยู่ในชีวิตผู้คนชาวญี่ปุ่นต่อไป...ไม่เปลี่ยนแปลง
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี