ความคาดหวังของวงการแพทย์ไทยที่อยากให้ประเทศไทยไปสู่ MEDICAL HUB อาจไม่ไกลเกินฝัน เมื่อในเวทีทางการแพทย์ระดับโลก เรามักจะพบเห็นแพทย์ไทยในหลากหลายวงการได้เข้าร่วมวงเสวนาทางการแพทย์และได้รับเกียรติบรรยายเทคนิคใหม่ๆ สู่สายตาแพทย์ต่างชาติ
ล่าสุด นายแพทย์เมธี ภัคเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เป็นหนึ่งในแพทย์ไทยที่ได้รับเกียรติให้ร่วมงานเสวนาวิชาการ The 4th ISMISS Asia-Japan combined with The14th MISS Summit Forum ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อแลกเปลี่ยนงานวิจัยและประสบการณ์การรักษากระดูกสันหลังระดับโลก โดยงานเสวนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ผ่านประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังด้วยเทคโนโลยีการรักษาแบบ Endoscope จากสุดยอดศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังชื่อดังจากทั่วโลกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน
นพ.เมธี ภัคเวช
นายแพทย์เมธี เป็นหนึ่งในผู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอทับเส้นประสาทในหัวข้อ Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression/Discectomy (PSCD) พร้อมอธิบายเทคนิคการรักษาด้วยวิธีเจาะรูส่องกล้องเพื่อขยายช่องกระดูกสันหลังส่วนคอที่ตีบ และเทคนิคการนำหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทออกมา โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าแผลขนาดใหญ่อีกต่อไป โดยเปิดเผยว่า การรักษาด้วยเทคนิคนี้ทางโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ได้นำมารักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังส่วนคอตั้งแต่ปี 2018 โดยมีผู้เข้ารับการรักษามากกว่า 200 ราย จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการรักษาด้วยเทคนิค PSCD สามารถตอบโจทย์ของผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังส่วนคอได้
เทคนิค PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) คือ การรักษาด้วยการเจาะรูส่องกล้องบริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอ ทางด้านหลัง ด้วยเทคนิค PSCD ซึ่งเป็นเทคนิคที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ฯ นำมาใช้ และถือเป็นรายแรกที่ทำการผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนคอทางด้านหลัง เพื่อขยายช่องกระดูกสันหลังส่วนคอ โดยแพทย์จะนำกล้องเอ็นโดสโคปที่มีความละเอียดสูงเข้าไปในช่องว่างภายในกระดูกคอ เพื่อนำหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทออกมา สำหรับทางเลือกการรักษาด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.5 เซนติเมตร สูญเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวเร็ว นอนโรงพยาบาลเพียง1 คืน ก็สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งต่างจากเทคนิคเดิมที่มีแผลขนาดใหญ่และต้องมีการเชื่อมกระดูก ทำให้คอหันได้ลำบาก
นายแพทย์เมธี ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจาก PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) ถือเป็นเทคนิคใหม่ที่นำมารักษาผู้ป่วยที่มีภาวะกระดูกคอเสื่อม โดยแพทย์ชาวต่างชาติได้ให้ความสนใจในเทคนิคนี้อย่างมาก ซึ่งในวงเสวนาดังกล่าว นายแพทย์เมธีได้ยกตัวอย่างเคสที่ทำการรักษาด้วยเทคนิค PSCD เช่น เคสแรกคนไข้มาด้วยอาการหมอนรองกระดูกคอแตก ซึ่งโดยทั่วไปต้องเปลี่ยนหมอนรองกระดูกคอและใส่หมอนรองกระดูกเข้าไปใหม่ โดยเลาะเอาหมอนรองที่แตกออก แต่ด้วยเทคนิค PSCD เราสามารถเจาะรูส่องกล้องเข้าไป และผ่าตัดนำเฉพาะหมอนรองที่แตกออกมาได้ โดยที่คนไข้ไม่ต้องเชื่อมข้อ ส่วนเคสที่ 2 คนไข้มีอาการหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทคอ โดยอยู่ตำแหน่งใกล้กับบริเวณไหปลาร้า การใช้เทคนิค PSCD ไม่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัดหมอนรองในตำแหน่งคอส่วนล่าง การส่องกล้องจากด้านหลังสามารถผ่าตัดบริเวณไหปลาร้าได้ แต่ถ้าเป็นในอดีตจะยุ่งยากและเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ซึ่งการผ่าตัดด้วยเทคนิค PSCD นี้จะทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดต้องใช้ความเชี่ยวชาญและชำนาญของแพทย์สูงมาก
แม้ว่าเวทีนี้จะมีแพทย์ไทยหลายท่านได้รับเกียรติเข้าร่วมวงเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง แต่ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังช่วงเอว แต่ นายแพทย์เมธี เป็นแพทย์ไทยหนึ่งเดียวที่ได้บรรยายในหัวข้อเทคนิค PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) ทำให้ได้รับความสนใจจากต่างชาติเป็นอย่างมาก
“ทุกคนที่เปิดใจและรับฟังเทคนิคใหม่เท่านั้นถึงจะได้รับประโยชน์ และไปพัฒนาเทคนิคการแพทย์ของประเทศตัวเองได้ ส่วนตัวเองนอกจากจะได้เผยแพร่ความรู้ให้ชาวต่างชาติแล้ว ในทางกลับกันยังได้ความรู้กลับมาเพื่อพัฒนาและต่อยอดเทคนิคการผ่าตัดได้อีก และแม้ว่าต่างชาติบางประเทศจะมีเทคนิคที่ใกล้เคียงกับเรา แต่สิ่งที่ต่างกันคือ แพทย์ไทยมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญและเป็นประเทศที่ใช้เทคโนโลยีที่เก่ง สำหรับ โรงพยาบาลเอส สไปน์แอนด์ เนิร์ฟ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาทแห่งแรกในประเทศไทย ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ เรามุ่งมั่นเสาะแสวงหาเทคนิคที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดมาตอบโจทย์คนไข้เสมอ ที่ผ่านมาเราได้ติดตามงานวิชาการต่างๆ และเพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อต่อยอดเทคนิคการรักษาที่ทันสมัยและดีที่สุด” นายแพทย์เมธี กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์เมธี ยังให้ความเห็นว่า บริการทางการแพทย์ของไทยมีความพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมการเป็น Medical Hub สะท้อนจากความมีชื่อเสียงด้านคุณภาพการรักษาจนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ซึ่งหากผนวกเข้ากับเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ จะยิ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นด้านคุณภาพการรักษาของไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่มีวิทยาการด้านการแพทย์ชั้นนำอย่างอเมริกาและยุโรปแน่นอน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังและระบบประสาทที่ต้องการข้อมูลการรักษาสามารถโทรปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โทร.02-0340808
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี