อย่าหงุดหงิดเลยนะคะ เมื่อเภสัชกรถามไถ่รายละเอียดก่อนจะจ่ายยาให้คนไข้ เพราะมันคือความห่วงใยในสวัสดิภาพของผู้ใช้ยา และเป็นความรับผิดชอบของเภสัชกร
เภสัชกร (ตัวจริง) ที่ไม่ซักไม่ถามประวัติการแพ้ยา หรือการใช้ยาใดๆ จากคนไข้เลยแม้แต่น้อย ถือว่าทำผิดจรรยาบรรณเภสัชกรอย่างมาก
เมื่อเร็วๆ นี้ มีประเด็นจากละครทีวีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการบริการของเภสัชกร เมื่อพระเอกไปขอซื้อยาป้องกันการตั้งครรภ์ที่ร้านยา แล้วคนขายยาก็หยิบยาให้โดยพลัน ไม่ถามไม่ไถ่อะไรทั้งสิ้น เรื่องแบบนี้เกิดได้ในละคร และในร้านขายยาที่ไม่มีเภสัชกรตัวจริงปฏิบัติหน้าที่
ขอย้ำว่าในความเป็นจริง สถานการณ์แบบในละครไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในร้านยาที่มีเภสัชกรวิชาชีพปฏิบัติงาน
ตามปกติเมื่อมีผู้ซื้อยาที่ร้านยา ต่อให้จดชื่อยา เอาตัวอย่างยามาด้วย แล้วยื่นให้เภสัชกรดู เภสัชกรจะไม่จัดยาให้ตามสั่งแล้วคิดเงินโดยไม่ถามอะไรสักคำ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นยาสำหรับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เภสัชกรต้องถามว่าใครเป็นผู้ใช้ยา ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินว่าต้องปรับเปลี่ยนยาครั้งล่าสุดเมื่อไร ที่บ้านมีเครื่องวัดความดันหรือที่ตรวจน้ำตาลหรือไม่ เพราะผู้ป่วยบางรายไปหาหมอมาหนเดียวแล้วก็กินยาสูตรเดิมที่หมอสั่งต่อเนื่องเป็นปี ซึ่งไม่เหมาะสมกับการดำเนินไปของโรค แม้จะจ่ายยาให้ตามที่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ผู้ป่วยฝากมาซื้อเภสัชกรก็จะบอกเสมอว่าต้องไปพบแพทย์ตามนัดด้วยโดยเฉพาะกรณีโรคเรื้อรัง
ส่วนโรคเฉียบพลัน เช่น ไข้หวัด ท้องเสีย ก็ต้องซักประวัติก่อนจ่ายยาเช่นกัน ยิ่งปัจจุบันนั้นยิ่งง่ายมากเพราะเภสัชกรสามารถซักประวัติผู้ป่วยทางโทรศัพท์ได้ แม้ผู้ใช้ยาไม่ได้ไปพบเภสัชกรเอง เพราะเภสัชกรต้องทราบอาการเจ็บป่วยปัจจุบัน โรคประจำตัวหรือยาที่กำลังใช้ ประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร หรือแพ้สารเคมีต่างๆ ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้มีความสำคัญกับการตัดสินใจเลือกการรักษา
ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยหญิงปวดประจำเดือนมากจนนอนซม ให้เพื่อนไปซื้อยาให้ เภสัชกรไม่มีทางหยิบยาแก้ปวดประจำเดือนตัวฮิตๆ ส่งให้โดยไม่ถามคนซื้ออย่างแน่นอนอย่างน้อยที่สุดต้องถามว่าผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยาอะไรหรือไม่ เคยกินยาแก้ปวดประจำเดือนตัวไหนบ้าง เคยเป็นหรือกำลังเป็นโรคกระเพาะหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจว่าจะหยิบยาตัวไหนให้ผู้ป่วย
แล้วยิ่งเป็นกรณียาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งมีรายละเอียดต้องซักประวัติกันใหญ่โต เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันมาแล้วกี่ชั่วโมง ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามใช้ยาคุมกำเนิด เช่น มะเร็งเต้านม มีลิ่มเลือดอุดตัน ป่วยเป็นโรคตับหรือไม่ ข้อมูลแบบนี้ผู้ซื้อยาแทนไม่มีทางทราบได้ และเมื่อไม่ทราบ เภสัชกรก็ไม่จ่ายยาให้
ถึงตรงนี้ เชื่อว่าผู้เคยใช้บริการร้านยาหลายคนอาจเห็นแย้งว่า หลายครั้งก็ซื้อยาได้โดยง่าย ไม่มีการซักถามอะไรเลย หากเป็นแบบนี้ ก็ขอให้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่า ผู้ขายยาให้ไม่น่าจะเป็นเภสัชกรตัวจริง หรือหากเป็นเภสัชกรจริงก็ถือว่าละเลยหลักปฏิบัติของวิชาชีพ
ดังนั้นผู้ซื้อยา ควรจะต้องตั้งคำถามในเรื่องนี้ทุกครั้ง หากซื้อยาแล้วคนขายไม่ซักถามประวัติการใช้ยาแม้แต่น้อย แนะนำว่าต้องไม่ซื้อยาจากร้านที่ไม่มีเภสัชกรปฏิบัติงาน แล้วถ้ายิ่งพบเจอเภสัชกรไม่ซักถามอะไรเลย แต่หยิบยาให้โดยไม่มีคำถาม แบบนี้ก็ต้องไม่ไปใช้บริการที่ร้านยานั้นอีกต่อไป เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้ใช้ยามาก
ในปัจจุบันผู้ใช้บริการจากร้านขายยาสามารถค้นข้อมูลได้จากอินเตอร์เนต เช่น วัยรุ่นเป็นสิวแล้วอ่านรีวิวยารักษาสิว จดชื่อยาหรือบันทึกรูปไปซื้อยาที่ร้าน ด้วยความรำคาญหรือกลัวเภสัชกรไม่ยอมขายยาให้ จึงไม่บอกว่าใช้ยาด้วยตัวเอง อ้างว่ามีผู้ฝากซื้อ แต่หารู้ไม่ว่าบางอย่างเป็นยาที่ไม่ตรงกับลักษณะและความรุนแรงของสิวที่ตนเองกำลังเป็น ถ้าไปซื้อร้านยาที่จ่ายให้ง่ายๆ โดยไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร ก็อาจมีผลเสียในระยะยาว
ดังนั้น การที่เภสัชกรซักประวัติอย่างละเอียด จนเหมือนถามซอกแซก ผู้รับบริการก็ไม่ควรรำคาญใจจนเกินไป เพราะอย่างน้อยโอกาสเกิดผลเสียจากการใช้ยาก็จะน้อยกว่าทดลองใช้ตามตัวเองไม่รู้และไม่เข้าใจ
โดยสรุป ควรไปซื้อหายาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรปฏิบัติหน้าที่ และไม่ต้องรำคาญเมื่อเภสัชกรซักถามประวัติการเจ็บป่วยและการใช้ยา เพราะเป็นหน้าที่ของเภสัชกร และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้ยา และอาจจะมีบางครั้งที่เภสัชกรไม่จ่ายยาให้ตามที่ขอซื้อ เนื่องจากเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยหากใช้ยานั้น ขอบอกว่าการจ่ายยาตามคำขอซื้อโดยไม่ถามอะไรเลย นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก แต่เภสัชกรจริงๆ จะไม่ทำเช่นนั้น แล้วถ้าหากผู้ไปรับบริการเจอร้านยาที่ขายยาให้โดยไม่ถามอะไรแม้แต่น้อย ก็แนะนำว่าอย่าไปใช้บริการซ้ำอีก เพราะผิดมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม
รศ. ภญ. ดร. ณัฏฐดา อารีเปี่ยม
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี