ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ชุมชนบ้านเชียง’ ภูมิวิถีไทพวนและแหล่งมรดกโลก

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ชุมชนบ้านเชียง’ ภูมิวิถีไทพวนและแหล่งมรดกโลก

วันอาทิตย์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบ้านเชียง

ด้วยชื่อเสียงของ “บ้านเชียง” จากเครื่องปั้นดินเผาที่มีรูปแบบและลวดลายงดงามเฉพาะ คือเป็น ภาชนะดินเผาที่มีรูปทรงของการปั้นหลายแบบและมีการเขียนลายเป็นเส้นโค้ง ลายเชือกทาบ ลายก้านขดก้นหอย ลายรูปเรขาคณิต ซึ่งเป็นลายเขียนแบบแรกได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกและได้ขึ้นทะเบียน “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” Geographical Indication (GI)โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้น ทำให้เกิดความสนใจชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ขึ้น ด้วยเป็นชุมชนของกลุ่มชาติพันธุ์พวน ที่อพยพจากเมืองเชียงขวาง ของประเทศลาวมาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้ง พ.ศ.๒๓๒๒-๒๓๓๕ สมัยหลังปรากฏชื่อผู้นำครอบครัว ๔ คน คือ ท้าวเชียงใหญ่ (เฒ่าดอนบุญมา) ท้าวเชียงบุญมา (ท้าวศรีสุวรรณช่างคำ) ท้าวเชียงคะ และ ท้าวเชียงพิณ นำผู้คนมาตั้งบ้านเรือนที่ดงตาว จึงเป็นเหตุให้ถูกเรียกว่าบ้านเชียง (ทั้งสี่) และทำให้ชาติพันธุ์พวนรุ่นหลังต่างพากันมาอยู่มากขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๓ ช่วง พ.ศ. ๒๓๖๙-๒๓๗๑ การสร้างบ้านแปงเมืองครั้งแรกได้มีการถากถางดงตาลและป่าละเมาะจัดเป็นคุ้มต่างๆ ๑๐ คุ้มได้แก่ คุ้มดอนดู่ คุ้มส้างโพธิ์ คุ้มเดิ่นตาเสือ คุ้มนาดำ คุ้มโนนสองสลึง คุ้มป่าติ้ว คุ้มนอก คุ้มโนนสุดซา(คุ้มศรีเชียงใหม่) คุ้มบึง (คุ้มหัวบึง)และคุ้มใต้ปัจจุบันได้เป็นหมู่บ้าน ๑๐ หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ ๑, ๒, ๔, ๖,๘, ๙, ๑๑, ๑๒, ๑๓, ๑๕ โดยเฉพาะมีศูนย์กลางบริหารจัดการของชุมชนอยู่ที่หมู่ ๙ บ้านศรีเชียงใหม่เป็นเทศบาลตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๕ ได้มีการค้นพบภาชนะดินเผาลายบ้านเชียงขึ้นที่วัดโพธิ์ศรี ซึ่งต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยองค์การยูเนสโก

พิธีเปิดชุมชนต้นแบบยลวิถี


ดังนั้น การมีชื่อเสียงของบ้านเชียง จึงทำให้ทุกคนในชุมชนได้ร่วมกันสร้างกิจกรรมนำ “บวร”มารักษาวัฒนธรรมประเพณีของตน โดยจัดงานพิธีทางศาสนาใส่บาตรยามเช้า ถนนสายบุญ ทุกวันอาทิตย์ที่ ๑ และที่ ๓ ของเดือน ณ ลานวัฒนธรรม มีการรวมกลุ่มอาชีพต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ความช่วยเหลือต่อกันจนสามารถสร้างรายได้ของชุมชนอย่างต่อเนื่อง จากการเริ่มต้นปั้นหม้อดินเผาเขียนลายบ้านเชียง ซึ่งมีงานเฉลิมฉลองมรดกโลกบ้านเชียงทุกปีแล้ว ยังฟื้นฟูอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จากวิถีไทพวนบ้านเชียงให้เกิดขึ้น คือภาษาใช้ไทพวนการแต่งกายแบบโบราณด้วยผ้าฝ้ายย้อมและทอขึ้นเอง ซึ่งนิยมใช้สีครามหรือสีดำ เป็นเสื้อผ้าฝ้ายคอกลม ผ่าหน้า ผูกเชือก แขนสามส่วน นุ่งกางเกงครึ่งแข้ง(เรียกว่า “โซ่ง”) ยาวปิดเข่าเล็กน้อย มีผ้าขาวม้าพาดบ่าและคาดเอว ส่วนผู้หญิง สวมใส่ผ้าถุงและเสื้อแขนยาวผ้าฝ้ายย้อมครามเช่นเดียวกัน ต่อมาได้มีการพัฒนาลวดลายโดยใช้ลายจากภาชนะบ้านเชียง และมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มปั้นหม้อเขียนสี กลุ่มโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม กลุ่มฟ้อนรำ กลุ่มอาหารแปรรูปกลุ่มทอผ้าย้อมคราม กลุ่มจักสาน กลุ่มมัคคุเทศก์กลุ่มเลี้ยงปลา กลุ่มเพาะเห็ด กลุ่มทำเกษตรผสมผสานไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกลุ่มต่างๆ โดยนำองค์ความรู้จากทุนทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น และความเป็นวิถีลาวพวนมาสร้างอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตน เช่น รำฟ้อนไทพวนแต่งกายด้วยชุดผ้าฝ้ายย้อมครามเสื้อแขนกระบอก ผ้าถุงยาวห่มสไบสีแดงและกลองยาวไทพวนชื่อวงสิบสามแสนที่สร้างความสนุกสนานแบบอีสานนอกจากนี้ยังมี “บ้านไทพวน” ดั้งเดิม และการจัดเมนูอาหาร “ข้าวผัดข่าแจ่วหอมหวานบ้านเชียง”ให้เป็นอาหารพื้นบ้านและการทอผ้าที่พัฒนาแบบลายสู่สายตาโลก เป็นต้น นับว่าเป็นชุมชนที่มีการจัดเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างสรรค์วัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทำให้ชุมชนบ้านเชียงนั้นได้รับการคัดเลือกเป็นชุมชนต้นแบบของกระทรวงวัฒนธรรม โดย นางยุพาทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและคณะได้ไปทำพิธีเปิดชุมชนแห่งนี้ และสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนเพื่อส่งเสริมแหล่งมรดกโลกที่มี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จัดแสดงวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ที่ขุดค้นพบเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๕ พร้อมนิทรรศการทางประวัติศาสตร์หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีในที่เป็น พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของไทย ด้วย

พิพิธภัณฑ์ไทพวนบ้านเชียง
พิพิธภัณฑ์ไทพวนบ้านเชียง
ผังชุมชนบ้านเชียง
ผังชุมชนบ้านเชียง
ลายบ้านเชียง
ลายบ้านเชียง
ข้าวผัดข่าแจ่วหอมหวาน
ข้าวผัดข่าแจ่วหอมหวาน
ภาชนะลายบ้านเชียง
ภาชนะลายบ้านเชียง
หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน
หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน
เสื้อลายบ้านเชียง
เสื้อลายบ้านเชียง
ศูนย์ปั้นหม้อเขียนสี
ศูนย์ปั้นหม้อเขียนสี
วัดสันติวนาราม
วัดสันติวนาราม
เรียนรู้การร้อยลูกปัดดิน
เรียนรู้การร้อยลูกปัดดิน
เรียนรู้การปั้้นหม้อบ้านเชียง
เรียนรู้การปั้้นหม้อบ้านเชียง
เรียนรู้การเขียนลาย
เรียนรู้การเขียนลาย
รถเที่ยวชุมชนบ้านเชียง
รถเที่ยวชุมชนบ้านเชียง
ฟ้อนรำไทพวน
ฟ้อนรำไทพวน
ถนนสายบุญใส่บาตรเช้า
ถนนสายบุญใส่บาตรเช้า

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top