สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารี รัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ในงาน เทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) ซึ่งจัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ผ้าไทยโดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย, สุทธิพงษ์จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ,อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และคณะกรรมการจัดงานเฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการอนุรักษ์ผ้าไทย รวมทั้งโซนออกบูธร้านค้า OTOP Luxury ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญาซึ่งได้รับเหรียญพระราชทานต่างๆ รวมทั้งร้านค้าของศิลปินโอท็อปที่มีชื่อเสียง และทอดพระเนตรแฟชั่นโชว์ผลงาน 10 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดังซึ่งรังสรรค์ผลงานสุดประณีตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยนำผ้าไทยมาตัดเย็บเป็นชุดดีไซน์ทันสมัย
โดย 10 แบรนด์ไทย ได้แก่ SIRIVANNAVARI Couture, KAI, TIRAPAN, PICHITA, PISIT, THEATRE, ASAVA, ISSUE, VATIT ITTHI และ WISHARAWISH โดยนำผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค มาตัดเย็บเป็นชุดที่มีดีไซน์ทันสมัย อาทิ ผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมยกดอก ผ้าปักชาวเขา ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าบาติก ผ้าฝ้ายย้อมคราม ผ้าขาวม้า ผ้าหางกระรอก สะท้อนมุมมองของผ้าไทยในอีกมิติหนึ่ง และเห็นถึงศักยภาพของการพัฒนาลายผ้าทอให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทยไว้อย่างสมบูรณ์
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงที่มาและแนวคิดการจัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระราชปณิธานในการ สืบสาน รักษาและต่อยอดงานด้านผ้าไทยของสมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยรูปธรรมที่ชัดเจน ประการที่ 1 คือ การเสด็จไปหัวเมืองต่างๆ ด้วยพระองค์เองครบทุกภูมิภาค เปิดโอกาสให้พี่น้องที่มีภูมิปัญญาเรื่องของงานหัตถศิลป์ งานผ้าไทย งานหัตถกรรม ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ และพระราชทานพระราชวินิจฉัยคำแนะนำในการพัฒนางานที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงริเริ่มและประกอบพระราชกรณียกิจมายาวนานกว่า 70 ปี อีกสิ่งที่เป็นเครื่องมือปลุกเร้าคือ “การจัดประกวด” โดยปีนี้จำลองลานคำหอม พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนครที่สมเด็จพระพันปีหลวงใช้เป็นพื้นที่ทอดพระเนตรชิ้นงานของพสกนิกรคนที่ผลงานดีเยี่ยมจะได้รับพระราชทานเหรียญทองคำและสร้อยคอทองคำ ปัจจุบันทุกคนยังคงหวงแหนและเก็บรักษาไว้ นอกจากทรงสืบสานงานการประกวดผ้าไทย ยังทรงต่อยอดฝ่าทะลวงปัญหาของผ้าไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา
ประการที่ 2 ได้พระราชทานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่าคนรุ่นใหม่คิดว่าผ้าไทยเหมาะสมกับคนสูงอายุ จึงพระราชทานโครงการฯรูปแบบแนวทางและทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า มาแสดงโชว์ให้เห็นว่าผ้าไทยสามารถตัดได้หลายรูปแบบ สามารถใช้ได้ทุกวัย ทุกโอกาส เพียงแต่รู้จักนำเอามาออกแบบตัดเย็บให้ถูกใจตัวเอง ประการที่ 3 พระองค์ท่านมาพร้อมวิทยากรสมัยใหม่ตามที่ทรงศึกษาเล่าเรียนด้านแฟชั่น เช่น การผลิตชิ้นงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีธรรมชาติ รู้จักการตลาดว่าอนาคตจะนิยมสีอะไร (Pantone) เป็นต้น ทำให้ชาวบ้านสามารถมีรายได้จากการทอผ้าเพิ่มขึ้น สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม จากพระปณิธานแน่วแน่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จย่าของพระองค์ท่าน นับเป็นพระกรุณาธิคุณและเป็นที่มาที่พวกเราทุกคนจะช่วยกันเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ชุบชีวิตเส้นไหม เส้นฝ้าย ให้กลับมาโลดแล่นมีชีวิตรับใช้พี่น้องคนไทยให้มีรายได้เสริม มีคุณภาพชีวิตที่ดี”
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้สนองงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ทุกปีมีการส่งประกวดผ้าและหัตถกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้น โดยปี 2565 มีชาวบ้านส่งผลงานผ้าทอมาถึง 2,946 ผืน จากทั่วประเทศ ผลงานหัตถกรรม 298 ชิ้นคณะกรรมการทำการตัดสินมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยคัดเลือกผลงานผ้าทอเหลือ 61 ชิ้น ผลงานหัตถกรรม 10 ชิ้น
และสำหรับผู้ชนะรางวัลพิเศษ 4 รางวัลในการประกวด “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับประเทศ ประกอบด้วย
รางวัล Best of The Best ได้แก่ นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทยกลุ่มจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้ายก ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น), รางวัลสีธรรมชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ นายวิทวัส โสภารักษ์ กลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ประเภทแพรวา, รางวัลลวดลายตามแบบพระราชทานยอดเยี่ยม ได้แก่ นายวันเฉลิม ศรีภุยเดช เฮือนไหมมนัสวรรณ ไหมแท้ที่แม่ทอ จังหวัดอุดรธานี ประเภทผ้าขิด และ รางวัล Young OTOP ได้แก่ นายศุภกิจ บุญมีเลี้ยง กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ผ้าไหมปูมโบราณบ้านโนนสง่า จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้าไหมมัดหมี่ 3 ตะกอ และผู้ชนะเลิศรางวัลประเภทต่างๆ รวม 13 ประเภทด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี