วันเด็กแห่งชาติ จัดขึ้นทุกปีในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็กที่หลายประเทศทั่วโลกให้คำมั่นร่วมมือกันคุ้มครองและปกป้องสิทธิเด็ก ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกหลานของแรงงานข้ามชาติจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้ จึงมีความเสี่ยงในการใช้ชีวิตและเข้าสู่วงจรการใช้แรงงานเด็กอย่างผิดกฎหมาย ซีพีเอฟ ชู “ห้องเรียนรู้เพื่อเด็กและครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน” ของศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา หรือ ศูนย์ FLEC เป็นต้นแบบการบูรณาการที่สนับสนุนให้ลูกหลานของแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในภาคการประมง ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ตอกย้ำเป็นองค์กรที่มุ่งมั่น
สนับสนุนและคุ้มครองสิทธิเด็กทั้งในองค์กร รวมทั้งในชุมชนและสังคมรอบข้าง
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมจัดตั้งขึ้นศูนย์ FLEC ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เพื่อบูรณาการความร่วมมือและผนึกองค์ความรู้ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ประกอบด้วย ซีพีเอฟองค์การสะพานปลา กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา (บ้านสุขสันต์) บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท จีอีพีพี สะอาด จำกัด เพื่อจัดการและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์และการทำประมงที่ฝ่าฝืนและละเมิดกฎหมาย (Illegal Unreportedand Unregulated Fishing หรือ IUU Fishing) ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติและครอบครัวแบบครบวงจรครอบคลุมถึงมิติต่างๆ รวมถึงโอกาสทางการศึกษาของ “เด็กข้ามชาติ” ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการเคารพสิทธิเด็ก และร่วมยกระดับอุตสาหกรรมอาหารทะเลและประมงไทยปลอดการใช้แรงงานเด็ก
นาตยา เพชรรัตน์ ผจก.ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา กก.ศูนย์ FLEC
นาตยา เพชรรัตน์ ผู้จัดการศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา ในฐานะกรรมการศูนย์ FLEC กล่าวว่หนึ่งในการดำเนินงานหลักของศูนย์ FLEC คือ “ห้องเรียนรู้เพื่อเด็กและครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน” เป็นความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ช่วยให้เด็กมีความรู้อ่านออกเขียนได้ และมีทักษะอาชีพ เพื่อสนับสนุนให้เด็กข้ามชาติได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบ ตกเป็นเหยื่อของการแรงงานเด็กผิดกฎหมาย ห้องเรียนรู้ฯ ตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคารสำนักงานท่าเทียบเรือประมงสงขลา (ท่าสะอ้าน)อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมี คุณครู “พาตีเมาะ หะแว”เป็นครูประจำห้องเรียนรู้ฯ เปิดการเรียนการสอนทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ จัดการเรียนการสอนที่เป็นระบบและเหมาะสมกับวัยของเด็ก ได้แก่ วัยเด็กเล็ก การเรียนการสอนแบบบูรณาการเพื่อเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กโตจะได้เรียนรู้วิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมความพร้อมเด็กเข้าเรียนในระบบการศึกษาของไทย นอกจากนี้ น้องๆ ยังได้เรียนภาษากัมพูชาจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์ FLEC และมีการเรียนรู้นอกห้องเรียน เสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิตและการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ การสอนให้เด็กปลูกพืชผักสวนครัวใช้เป็นอาหาร การปรุงอาหารที่ปลอดภัย การคัดแยกขยะ เป็นต้น
นับตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ศูนย์ FLEC มีส่วนช่วยลูกหลานแรงงานข้ามชาติรวม 263 คน ได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้เรียนรู้ทักษะการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและมากกว่าร้อยละ 80 สามารถสอบผ่านเกณฑ์ประเมินของศูนย์การเรียนรู้ฯ นอกจากนี้ มีลูกหลานแรงงานข้ามชาติ 34 คน กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเทศบาล 1 อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา อีกด้วย
“ซีพีเอฟและศูนย์ FLEC ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็กข้ามชาติอย่างต่อเนื่องโดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ และป้องกันปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก เพื่อให้ “เด็กข้ามชาติ”ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป” นาตยา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี