ใกล้ถึงวันสงกรานต์แล้ว หลายคนไปทำบุญวันปีใหม่ไทย และหลายคนก็จัดชุดสังฆทานไปถวายพระสงฆ์ ทุกคนตั้งใจทำบุญ แต่บางคนก็ได้บุญไม่เต็มที่ เพราะถวายชุดสังฆทานที่มีของหมดอายุ หรือใกล้หมดอายุมาก โดยเฉพาะยา เพราะการถวายยาใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้ว เป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ
ทุกคนรู้ดีว่ายามีคุณอนันต์แต่ก็มีโทษมหันต์ โดยเฉพาะการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง วันนี้จึงขอพูดถึงการเลือกชุดสังฆทานยาที่เหมาะสมและปลอดภัยกับพระภิกษุผู้ได้รับการถวาย
การถวายชุดสังฆทานยาสามัญประจำบ้าน ทั้งแผนปัจจุบันและแผนโบราณ ต้องพิจารณาให้ดีว่ามียาอะไรบ้าง ผลิตเมื่อไร หมดอายุวันไหน การถวายยาที่ดีที่สุดคือต้องเลือกยาที่จะหมดอายุอย่างน้อยคืออีก 12 เดือนขึ้นไป ต้องไม่ถวายยาที่ใกล้หมดอายุ เช่น อีก 1 เดือนก็หมดอายุแล้ว แบบนี้น่าจะให้โทษมากกว่า
อีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึง นอกจากเรื่องวันหมดอายุยาคือ การเก็บรักษายา ก่อนนำมาจำหน่าย อย่าลืมว่าต้องเก็บรักษายาในอุณหภูมิที่เหมาะสม และไม่ถูกแสงแดงส่องเป็นเวลานานมากเกินไป การเก็บรักษายาในที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป เป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการเสื่อมคุณภาพของยา เพราะฉะนั้น ต้องพิถีพิถันการเลือกซื้อยาจากร้านที่ไว้ใจได้และมีคุณภาพดี ต้องไม่เลือกซื้อยาที่ถูกแสงแดดส่องถึงเป็นเวลานาน ร้านที่จำหน่ายยาควรจะต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม การซื้อยาที่เก็บรักษาในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี แม้ยาจะยังมีอายุอีกนาน แต่ก็เสี่ยงกับการได้ยาเสื่อมคุณภาพ โดยเฉพาะจากความร้อนที่สูงเกินไป
หลายคนคงตระหนักถึงปัญหาที่กล่าวในข้างต้นเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงไม่ควรซื้อชุดสังฆทานยาที่จัดสำเร็จรูป แต่เลือกซื้อยาสามัญประจำบ้านไปถวายแทน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องระวังคือ ต้องไม่ใส่ยาอันตรายลงไปในชุดสังฆทาน ตัวอย่างยาอันตราย เช่นยาปฏิชีวนะ ยาบรรเทาปวดกลุ่มไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่ายาแก้ปวดคลายเส้น ยา 2 ชนิดนี้เป็นต้นเหตุการแพ้ยาบ่อยๆ ในอัตราที่สูงมาก นอกจากทำให้แพ้แล้ว ยาบรรเทาปวดกลุ่ม NSAIDS ยังระคายเคืองกระเพาะอาหาร และอาจเป็นพิษต่อไตหรือตับได้ด้วย หากพระสงฆ์ท่านมีอายุมาก และมีโรคประจำตัวบางอย่าง
จะทำให้เกิดอันตรายจากการใช้ยากลุ่มดังกล่าว และอาจเกิดปัญหารุนแรงมากจนเป็นเหตุให้มรณภาพ
เพราะฉะนั้น ต้องเลือกยาสามัญประจำบ้านที่เหมาะสมกับการบรรจุในกล่องสังฆทาน แม้เราอาจจะคิดว่ายาบางชนิดไม่ใช่ยาอันตราย เช่น ยาแก้แพ้กลุ่มคลอเฟนิรามีน ซึ่งคนทั่วไปอาจบอกว่าใช้แล้วตนเองไม่มีปัญหาอะไร แค่ทำให้ง่วงนอนเท่านั้น แต่หากพระสงฆ์ที่เราถวายยาจำพวกนี้ไปมีโรคประจำตัว เช่น ต้อหิน หรือมีปัญหาต่อมลูกหมากโตก็จะทำให้เป็นอันตรายกับท่านได้ ดังนั้น หากต้องจัดยาในชุดสังฆทานก็ต้องเลือกยาที่ปลอดภัยกับพระสงฆ์ให้มากที่สุด โดยแทนที่จะถวายยากลุ่มคลอเฟนิรามีนก็เปลี่ยนเป็นยากลุ่มลอราทาดีน เป็นต้น เพราะนอกจากไม่ทำให้ง่วงแล้ว ยังไม่มีผลกระทบต่อโรคต้อหิน ต่อมลูกหมากโต
อีกสิ่งที่ต้องมีในชุดสังฆทานยาคือ ยาใช้สำหรับภายนอกที่คนมักจะลืมไปแต่มีประโยชน์ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นชุดทำแผล ยาโพวิโดน-ไอโอดีน สำลี ผ้าก๊อซ พลาสเตอร์ปิดแผลยาดม ยาหม่อง ก็เป็นประโยชน์ไม่น้อย ผงน้ำตาลเกลือแร่ หรือเรียกว่า ORS สำหรับทดแทนการสูญเสียเกลือแร่อาการท้องเสีย และอาเจียน อีกอย่างหนึ่งคือยาอมที่ทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ เช่น ยาอมมะขามป้อม เป็นต้น
และควรจัดยาที่บรรจุแผงดีกว่าบรรจุขวด หรือกระปุก เพราะเก็บรักษาได้ง่าย และสามารถแบ่งปันกันได้ง่าย
สำหรับญาติโยมที่ใกล้ชิดกับพระสงฆ์ โดยเฉพาะโยมอุปัฏฐาก หากคุณมีโอกาสไปกราบพระ สนทนาธรรมกับท่านเสร็จแล้ว ขอให้ช่วยตรวจกล่องยาที่โยมรายอื่นๆ นำไปถวายด้วย เพราะอาจจะมียาใกล้หมดอายุ หรือยาหมดอายุแล้วอยู่ในกล่องสังฆทานได้ หากพบยาใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้ว ขอให้นำไปทิ้งในที่เหมาะสมทันที
ขอย้ำว่าการถวายยาใดๆ กับพระสงฆ์ ขอให้ดูวันหมดอายุให้ดีทุกครั้ง และต้องเลือกยาที่ได้คุณภาพ ทั้งการเก็บรักษาก่อนจะนำไปถวายพระสงฆ์ และต้องเรียนนมัสการแจ้งให้ท่านเก็บรักษายาให้เหมาะสมด้วย เพื่อรักษาคุณภาพยา และเพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์
ผศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ และ รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี