นับเป็นโค้งสุดท้ายอีกเพียงไม่กี่วัน ก่อนประเทศไทยจะเข้าสู่ “การเลือกตั้ง’66” ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางบรรยากาศ การเรียกคะแนนเสียงของทุกพรรค ที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลนโยบายเพื่อนำเสนอให้ประชาชนได้เลือกสรรมากมาย ซึ่งอีกหนึ่งมุมมองที่น่ารับฟังจากตัวแทนภาคธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่าง คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ หรือ เจ้าสัวประจักษ์ แห่งอาณาจักร TOA นับว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครและผู้ใช้สิทธิ์เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ
คุณประจักษ์ เล่าย้อนถึงประสบการณ์จากการก่อตั้ง “มูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียวฯ” ขึ้นมาเป็นเวลากว่า 15 ปี ในฐานะองค์กร สาธารณกุศล ที่นำเงินทุกบาททุกสตางค์กลับไปแบ่งปันช่วยเหลือสังคมแบบ 100% บนเจตนารมณ์ความตั้งใจ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์บูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ที่ได้ทรงเสียสละสร้างชาติบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นปึกแผ่น จนทำให้ประชาชนคนไทย รวมถึงครอบครัว ตั้งคารวคุณ ได้มีโอกาสทำมาหากินใต้ร่มพระบารมี ทำให้สร้างธุรกิจเติบโตจนแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จได้ถึงปัจจุบัน
ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของ คุณประจักษ์ ในการเป็นสะพานบุญ เจือจุนคนยากไร้ ช่วยเหลือสังคม และมุ่งมั่นให้โอกาสด้าน “การศึกษา” โดยเฉพาะการมอบทุนการศึกษาที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทุนนักศึกษาแพทย์สตรีชนบท เพื่อกลับไปเป็นแพทย์ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ภูมิลำเนาบ้านเกิด และทุนในสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข รวมกว่า 60 ทุนทุนนักเรียนยากไร้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทุกระดับชั้น ทั้งเรียนดี และเรียนปานกลาง แม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ยังได้มอบทุนการศึกษาและค่าครองชีพ เพื่อช่วยเหลือนักเรียนและนักศึกษาแพทย์ที่พ่อแม่ประสบปัญหา ทำให้ต้องหยุดเรียนกลางคัน ซึ่งเป็นทุนแบบให้เปล่า โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ รวมทั้งยังได้ มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้ง 50 เขตในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศ ติดต่อกัน 3 ปีแล้ว
แน่นอนว่าผลจากการลงมือทำ จึงทำให้ คุณประจักษ์ ได้ “ประจักษ์” กับข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่สำคัญ นั่นคือ
“ปัญหาด้านการศึกษา” ซึ่งพบว่า ปัจจุบันยังมีเยาวชนไทยที่ขาดโอกาสทางการศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเยาวชนที่ครอบครัว มีฐานะยากจน มีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก ส่งผลให้ไม่ได้เรียนหนังสือ บ้างก็ต้องออกจากการเรียนกลางคัน เพราะไม่มีเงินไปโรงเรียน ต้องออกมาช่วยที่บ้านทำมาหากิน จนทำให้ขาดโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระบบไปอย่างอัตโนมัติ ปัญหาดังกล่าวยังทำให้เกิดผลพวงตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสังคม การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ปัญหาอาชญากรรม คดีปล้นฆ่าชิงทรัพย์ ตลอดจนปัญหายาเสพติด ทั้งหมดล้วนเป็นตัวฉุดถ่วงให้ประชาชนขาดคุณภาพ ความยากจนเพิ่มสูงขึ้น จนเป็นโดมิโน่ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมประเทศโดยรวมไม่พัฒนา
ดังนั้นข้อเรียกร้องของ คุณประจักษ์ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จึงส่งเสียงไปถึงภาคการเมือง ให้มุ่งแก้ไขไปที่ต้นเหตุของปัญหา นั่นคือเรื่อง “การศึกษา” ซึ่งจะเป็นแนวทางป้องกันและจัดการอุปสรรคต่างๆ ไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้
“สิ่งที่ผมอยากเสนอถึงทุกพรรคที่ลงสมัคร ไม่ว่าจะคุณจะสังกัดพรรคใดก็ตาม หากมีโอกาสได้เข้าไปนั่งในสภา บริหารประเทศ นั่นถือว่า คุณคือผู้ที่จะต้องเสียสละ ทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมให้กับพี่น้องประชาชน และควรเร่งแก้ไขระบบการศึกษาไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะหากเยาวชนไทยได้รับการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ นำพาตนเองไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน สร้างฐานะ สร้างครอบครัวให้มีความร่ำรวย มีคู่ครองชีวิตที่ดี ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งตั้งแต่ฐานรากในระดับครอบครัว เพราะเมื่อครอบครัวดี สังคมดีก็จะส่งผลให้คนในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ถือเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างแท้จริง” คุณประจักษ์ ให้มุมมอง
คุณประจักษ์ ยังเน้นย้ำว่าประเทศชาติจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากประชาชนไม่ออกไปใช้สิทธิ์ ลงเสียง กำหนดทิศทางอนาคตของประเทศด้วยมือของตน พร้อมฝากแนวคิดถึงการใช้สิทธิ์อย่างมีสติ คิดรอบคอบ ภายใต้ความสามัคคี ปรองดอง ไม่เกิดการแตกแยก หรือทะเลาะ เบาะแว้งด้วยเรื่องการเมือง
ขณะเดียวกันยังฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่จะต้องไม่หลงลืมคุณแผ่นดินไทยที่เราเกิด รัก เคารพ และเทิดทูนในสถาบันหลักของชาติ อันมี “ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์”ที่ทำให้พวกเราประชาชนได้มีกิน มีใช้ และอยู่อย่างเป็นสุขมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ อันนำไปสู่การมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ มาจากเสียงข้างมากของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย เข้าไปทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง บริหารประเทศ เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสของคนไทยทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี