กรมการท่องเที่ยวจัดอบรมให้ผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.นนทบุรี มุ่งยกระดับการให้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน ภายใต้โครงการท่องเที่ยวสีขาว (White Tourism)“ท่องเที่ยวสะอาด ปลอดภัยและเป็นธรรม” โดยอธิบดีกรมการท่องเที่ยวมอบหมายให้ วิภารัตน์ธาราธีรภาพ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดโครงการกิจกรรมการส่งเสริมและยกระดับการให้บริการของผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวสู่การท่องเที่ยวสีขาวและการอบรมในหัวข้อ “Quality Tourismalong The Chao Phraya River : ท่องเที่ยวคุณภาพแห่งสายน้ำเจ้าพระยา” ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเข้าร่วมอบรมกว่า 400 คน
วิภารัตน์ ธาราธีรภาพ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งฟื้นฟูและส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเริ่มจากการสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแนวทางการให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างถูกสุขอนามัย ปลอดภัยและเป็นธรรม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสร้างความเชื่อมั่น และพัฒนาคุณภาพในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยวในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงได้ดำเนิน “โครงการท่องเที่ยวสีขาว” ตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในการให้บริการด้วยความสะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม ซื่อสัตย์ และมีความเป็นเจ้าบ้านที่ดี รวมทั้งให้ความรู้ด้านการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยที่ผ่านมา กรมการท่องเที่ยวได้ดำเนินการจัดอบรมให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวแล้ว จำนวน 2,357 คน
สำหรับการดำเนินโครงการท่องเที่ยวสีขาวในปี 2566 นี้ กรมการท่องเที่ยวมีแผนดำเนินการจัดอบรมในพื้นที่ 16 จังหวัด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมไม่น้อยกว่า 1,700 คนดำเนินการจัดอบรมแบ่งเป็น 5 รูปแบบดังนี้ Quality Tourism along the Chao Phraya River : ท่องเที่ยวคุณภาพแห่งสายน้ำเจ้าพระยา มุ่งเน้นกลุ่มผู้ประกอบการที่ให้บริการริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะดำเนินการทั้งสิ้น 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และ จ.พระนครศรีอยุธยา, WE ARE READY for Travel Campaigns : การยกระดับการบริการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้พร้อมต้อนรับกับทุกแคมเปญ โดยจะดำเนินโครงการในกลุ่มพื้นที่จังหวัดที่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวผ่านกิจกรรม และเทศกาลทางการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งการจัดงานภายในประเทศและระดับสากล จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จ.พังงา จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.บึงกาฬ และจ.อุบลราชธานี,ท่องเที่ยวสีขาว 3x (Explore, Expand and Exclusive) : การเพิ่มทักษะให้กับกลุ่มเป้าหมายเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน โดยขยายกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ที่เคยดำเนินการจัดอบรมแล้ว ไปยังผู้ประกอบการอื่นเพิ่มเติม ประกอบด้วย4 จังหวัด ได้แก่ กทม. จ.ชลบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.เชียงใหม่ , Popular Tourism Trends : Yummy& Balance : สร้าง-รักษา-เพิ่มโอกาสกลุ่มนักท่องเที่ยว ด้วยบริการด้านอาหารและสุขภาพ เป็นการดำเนินโครงการภายใต้กรอบของพื้นที่ที่มีจุดเด่นด้านอาหารและสมดุลของสุขภาพผ่านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.ตรัง และ จ.สงขลา, Iconic White Tourism : ต้นฉบับผู้ประกอบการการท่องเที่ยวสีขาว เป็นการดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นศักยภาพระดับบุคลากร โดยการออกแบบหลักสูตรการอบรม เพื่อสร้างบุคลากรต้นแบบภายใต้โครงการท่องเที่ยวสีขาว ให้มีความพร้อมในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการอบรมโครงการท่องเที่ยวสีขาวจะได้รับเข็มกลัด Sticker และ Smart Kit ท่องเที่ยวสีขาว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าผ่านการอบรมโครงการท่องเที่ยวสีขาว และพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความสะอาด ปลอดภัย และเป็นธรรม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถวางใจได้ โอกาสนี้ กรมการท่องเที่ยวขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมกับโครงการท่องเที่ยวสีขาว (White Tourism) ติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ของกรมการท่องเที่ยว https://www.dot.go.th และเฟซบุ๊กเพจท่องเที่ยวสีขาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี