ความขัดแย้งทางทหารรอบใหม่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กำลังสร้างความแตกร้าวระหว่างชาติตะวันตก กับมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ตามรายงานของ ด็อยท์เชอ เว็ลเลอ(Deutsche Welle) สื่อของเยอรมนี ที่ชี้ว่า อินโดนีเซียและมาเลเซีย เป็นชาติในอาเซียน ที่อยู่ในกลุ่มประเทศ ที่ความขุ่นเคืองต่อการที่ตะวันตกสนับสนุนอิสราเอล
นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ปฏิเสธประณามกลุ่มติดอาวุธฮามาส ที่บุกโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ระบุว่าการที่อิสราเอลยึดครองดินแดนของปาเลสไตน์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน คือ รากเหง้าของความขัดแย้งวิโดโดยังเรียกร้องประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระหว่างพบหน้ากันนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกในเดือนนี้ ขอให้ไบเดนลงมือทำมากกว่านี้ เพื่อหยุดความโหดร้ายในฉนวนกาซา
ขณะที่ผ่านมา มีประชาชนหลายหมื่นคนเข้าร่วมการประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ในทั้ง 2 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดังกล่าว เพราะทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซียไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล มาเลเซียยังมักจะต้อนรับเจ้าหน้าที่ฮามาสที่มาเยือน แม้สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป หรืออียู ต่างประณามฮามาสเป็นองค์กรก่อการร้าย
แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า หลายประเทศในโลกใต้ หรือ Global South ที่ใช้เรียกรวมกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั้งในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา มองว่า ความลังเลของตะวันตกในการประณามการโจมตีกาซาของอิสราเอล เป็นความ “สองมาตรฐาน” ของตะวันตกเพราะในขณะที่ตะวันตกลังเลประณามอิสราเอล แต่ก่อนหน้านั้น สหรัฐฯ กลับพยายามกดดันให้ประเทศในโลกใต้ ประณามปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และประเทศโลกใต้มองว่า ก็ไม่ต่างกับที่อิสราเอลทำกับกาซา
ตนกู โมฮาร์ มอห์ตาร์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยมุสลิมแห่งมาเลเซีย ระบุว่า ก็เหมือนกับชาวมุสลิมในส่วนอื่นของโลก ชาวมุสลิมในมาเลเซียคิดว่า ตะวันตกสองมาตรฐาน เมื่อเกี่ยวข้องกับทางแก้ปัญหาความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม มาเลเซียยังประณามปฏิบัติการรัสเซียในยูเครน ส่วนอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในกลุ่มโลกใต้ ไม่สนใจการเรียกร้องของตะวันตกในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดน พยายามระบุว่า 2 ความขัดแย้งนี้ยูเครน-รัสเซีย กับ อิสราเอล-ปาเลสไตน์ มีความคล้ายกัน คืออิสราเอลกับยูเครนต่างเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สู้รบกับศัตรู ที่มุ่งมั่นจะทำลายล้างพวกเขาให้สิ้นซาก แต่ โจเซป บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู กลับเห็นว่าความขัดแย้งทั้งสองนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง พร้อมเตือนว่า หลายประเทศในโลกใต้จะใช้ประโยชน์จากวิกฤตนี้ เน้นย้ำความย้อนแย้งในจุดยืนของชาติตะวันตก และความขัดแย้งกันเองในหมู่ประเทศยุโรป
บอร์เรลเตือนต่อไปว่า การสนับสนุนของนานาประเทศต่อยูเครนอาจลดน้อยถอยลง เป็นผลกระทบจากการที่ตะวันตกถูกมองว่า มีพฤติการณ์สองมาตรฐาน อีกทั้งยังถูกตำหนิว่า พยายามปิดปากผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ และไม่ยอมจัดการปัญหาการเกลียดกลัวอิสลาม โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทูตอินโดนีเซียประจำสหประชาชาติ เรียกร้องเยอรมนีให้ยึดมั่นในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก หลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติต่อนักเคลื่อนไหว โดยเฉพาะต่อผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ที่ชุมนุมอย่างสันติ หลังจากเยอรมนีไม่ยอมอนุญาตให้หลายกลุ่มชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์
ความขัดแย้งร้าวฉานระหว่างบางประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตะวันตก ยังเกิดจากความรู้สึกต่อต้านตะวันตกโดยรวม เห็นได้จากผลสำรวจของ Pew Research Center ในปี 2002 ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 61 ยังมีความเห็นเป็นบวกกับสหรัฐฯ แต่เพียงปีถัดมา ความชมชอบนี้กลับตกฮวบลงเหลือเพียงร้อยละ 16 หลังจากสงครามอิรักเริ่มขึ้น และต้องใช้เวลานานหลายปีหลังจากนั้น กว่าสัมพันธ์สองชาติจะฟื้นคืนมา ขณะที่ความนิยมต่ออียูในอินโดนีเซียและมาเลเซียตกต่ำอยู่แล้ว สาเหตุจากอียูมีกฎเกณฑ์เข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลกระทบแรงต่อเศรษฐกิจของ 2 ประเทศนี้ ซึ่งกำลังพยายามชักชวนประเทศอื่นๆ เช่น ไทยเข้าร่วมในความพยายามต่อต้านนโยบายของอียูดังกล่าวด้วย
บริดเจ็ต เวลช์ นักวิจัยจาก สถาบันวิจัยเอเชียแห่งมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมชี้ว่า เกิดความ “ร้าวลึก”ในการรับรู้ของบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีต่อตะวันตกโดยเฉพาะจากการที่ประเทศเหล่านั้นรู้สึกว่า ตะวันตกขาดการสนับสนุนด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการหยุดยิงในกาซา
ยิ่งภาพที่ผู้นำสหรัฐฯ และอียู สนับสนุนนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล มีผลกระทบอย่างมาก และกำลังก่อรูปสร้างคนรุ่นใหม่ ในห้วงเวลาที่ความชอบธรรมทางด้านศีลธรรมของตะวันตก กำลังจางหายไป
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี