เมืองพะเยาปัจจุบัน
การประชุมคณะรัฐมนตรีที่เมืองพะเยาที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗ในภาคเหนือนั้น ทำให้หลายคนสนใจถึงความสำคัญในมิติต่างๆ ที่รัฐบาลได้นำหารือว่าเมืองนี้ควรมีท่าอากาศยานพะเยา บนพื้นที่ ๒,๘๐๐ ไร่ ที่ดอกคำใต้เพื่อการพัฒนาเมืองและการขนส่งให้มีความสำคัญยิ่งขึ้น สำหรับด้านประวัติศาสตร์นั้นเมืองพะเยานับเป็นเมืองเก่าที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ก่อนพ.ศ.๑๗๐๐ หรือพุทธศตวรรษที่ ๑๘ มีสถานที่รู้จักกันดีก็คือ กว๊านพะเยา คำว่า พะเยา ในชื่อจังหวัดพะเยา และเมืองพะเยา สะกดแบบเก่าสุดว่า พยาวมาจากชื่อ ทิวเขาภูยาว หรือ ภูกามยาว เป็นทิวเขาประจำเมือง ตัวเมืองตั้งอยู่ตอนปลายของทิวเขาชื่อเมืองพะเยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ โดยกษัตริย์องค์แรกคือ พญาจอมธรรมราชบุตรจากเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสน และเป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์เมืองพยาวอีกหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็น พญาเจือง วีรบุรุษแห่งเผ่าไท-ลาวในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง และ พญางำเมือง ที่ได้มีการกระทำสัตย์สาบานเป็นไมตรีกับ พญามังราย แห่งนครพิงค์ เชียงใหม่ และพญาร่วงรามคำแหง แห่งสุโขทัย
ชื่อเมืองพะเยานั้นปรากฏในศิลาจารึกศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ ๒ วัดศรีชุม สมัยสุโขทัย จารึกราวหลัง พ.ศ.๑๘๐๐ เขียนไว้ว่า พยาว และในสมุทรโฆษคำฉันท์ วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้นก็เขียนว่า พยาว อยู่ในตอนเล่นเบิกโรงหนังใหญ่เรื่องลาวกับไทยฟันดาบว่า “๏กูนี้เนื้อลาว แต่ยัง พยาวบมีผู้ปาน เขาขึ้นชื่อกู ชื่อเสียงไกรหาญ ปานปล้นเมืองมาร ขุนมารหักหัน” ต่อมานั้นเมืองพะเยาเติบโตเป็นศูนย์กลางของแคว้นพะเยา เป็นรัฐอิสระร่วมสมัยกับแคว้นสุโขทัย และแคว้นเชียงแสน-เชียงราย ภายหลัง พ.ศ.๑๘๐๐ หรือพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เมืองพะเยาตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำอิงหรือแม่น้ำสายตา โดยมีทิวเขาภูกามยาว หรือดอยชมภูหรือดอยด้วน ซึ่งเป็นทิวเขาที่ทอดยาวจากทิศเหนือลงไปทิศใต้ เริ่มจากบริเวณที่ราบเขตอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย อันเป็นเขตติดต่ออำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา หัวดอยที่อำเภอพานมีลักษณะตั้งชันคล้ายถูกตัดให้ด้วน ซึ่งแตกต่างจากดอยลูกอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน ชาวบ้านจึงเรียกดอยด้วน ส่วนการที่เรียกชื่อ จอมเขา ว่า ภู นั้นน่าจะประเพณีล้านช้าง ซึ่งในยุคแรกเมื่อราวก่อน พ.ศ.๑๗๐๐ นั้นผู้คนน่าจะเป็นชาติพันธุ์เดียวกับชาวล้านช้าง หรือไม่ก็นับถือวัฒนธรรมล้านช้าง
พญางำเมือง
เมื่อถูกผนวกเป็นล้านนาราวหลัง พ.ศ.๒๐๐๐ จึงเปลี่ยนมาเรียก จอมเขา ว่าดอย ตามประเพณีล้านนา แทนตรงปลายดอยด้วนนั้น มี หนองเอี้ยงเป็นแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันคือ กว๊านพะเยา
ภายหลังเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจขึ้น ทำให้เมืองพะเยาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านนา ในสมัยของพญาคำฟู พอถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๓ พ.ศ.๒๓๘๖นั้น เมืองพะเยา ก็ถูกตั้งขึ้นใหม่พร้อมกับเมืองเชียงรายและเมืองงาว เพื่อใช้เป็นเมืองหน้าด่านในการรบกับกองทัพพม่าที่ตั้งอยู่ในเมืองเชียงแสน โดยเมืองพะเยานั้นขึ้นตรงต่อนครลำปาง ก่อนหน้านี้พะเยาเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย และวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๐ อำเภอพะเยาก็ได้ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดพะเยาและมีคำขวัญจังหวัดว่า “กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง งามลือเลื่องดอยบุษราคัม” ซึ่งเน้นให้รู้ว่า กว๊านพะเยา นั้นเป็นแหล่งทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ ๑ในภาคเหนือ และอันดับ ๔ ของประเทศไทย โดยเฉพาะพระเจ้าตนหลวง พระประธานอยู่ในวิหาร วัดศรีโคมคำจังหวัดพะเยา สร้าง พ.ศ.๒๐๓๔ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ตกแต่งศิลปะแบบสกุลช่างเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในดินแดนล้านนา พ่อขุนงำเมือง เป็นกษัตริย์แห่งแคว้นพะเยาที่ได้รับการยกย่องนับถืออย่างมาก และ วัดอนาลโยทิพยาราม หรือ ดอยบุษราคัม เป็นอุทยานพระพุทธศาสนา ที่มีพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยองค์ใหญ่และพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ นับเป็นเมืองเก่าที่ยังน่าเที่ยวและเปิดประตูด้านการเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนืออีกแห่งหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี