อนุสารีย์ร.๑ พระปฐมราชงศ์จีกรี
กรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชอาณาจักรของสยาม โดยเริ่มย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี มายังฝั่งบางกอกตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง) ได้ทรงปราบดาภิเษกเป็น พระเจ้าแผ่นดินต้น ภายหลังทรงพระนามใหม่ว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ.๒๓๒๕ หลังเหตุการณ์จลาจล แต่ด้วยเหตุพระนครยังไม่ได้สร้างขึ้นจึงกำหนดแบบพระราชวังเดิมของกรุงศรีอยุธยา และเร่งการก่อสร้างจนแล้วเสร็จจึงมีพิธีพระบรมราชาภิเษกครั้งแรกในวันที่ ๑๐-๑๓ มิถุนายน ๒๓๒๕ ในระยะแรกนั้นพระนครใหม่ต้องแก้ปัญหาจากพม่า เวียดนามและลาว และเผชิญกับประเทศเจ้าอาณานิคม อังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งกษัตริย์แต่ละรัชกาลได้ทรงแก้ไขปัญหาจนทำให้สยามเป็นเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคมของตะวันตกและผลกระทบจากภัยคุกคามนั้น นำให้พระนครนาม “กรุงเทพรัตนโกสินทร์” สามารถพัฒนาไปสู่รัฐชาติ สมัยใหม่ที่รวมอำนาจเป็นศูนย์กลาง โดยมีพรมแดนที่กำหนดร่วมกับชาติตะวันตก สมัยนี้มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ด้วยการเพิ่มการค้ากับต่างประเทศ การเลิกทาส และสร้างระบบการศึกษาให้แก่ไพร่ฟ้าชนชั้นกลาง ปฏิรูปแผ่นดินโดยมีกระทรวงรับผิดชอบงานราชการแม้จะไม่มีการปฏิรูปทางการเมืองอย่างแท้จริงแต่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบราชาธิปไตยโดยมีรัฐธรรมนูญจากประชาชนที่เลือกตั้งผู้แทนจากผลการ “อภิวัฒน์สยามพ.ศ.๒๔๗๕ แต่ความเป็นพระนครกรุงรัตนโกสินทร์” ยังดำรงอยู่ “ใต้ร่มพระบารมีมาตลอดถึงรัชกาลปัจจุบัน มา ๒๔๒ ปี”ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๕ เมษายน ๒๕๖๗ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โรงละครแห่งชาติ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน บริเวณพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรีและพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
อนุสาวรีย์ พระปฐมกษัตริย์ผู้สร้างกรุง
วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดพิธีบวงสรวงเทพยดา ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชและพิธีตักบาตรพระสงฆ์ ๙๙ รูป ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และจัดพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ณ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร นายเสริมศักดิ์พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ได้ร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายวัฒนธรรมกว่า ๒๐ หน่วยงาน ร่วมกันจัดงานใต้ร่มพระบารมี ๒๔๒ ปี กรุงรัตนโกสินทร์และเพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ต่อยอดสร้างรายได้สู่ประชาชนและชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โดยแบ่งเป็นพื้นที่หลัก๒ พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่แรก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และโรงละครแห่งชาติ มีกิจกรรม อาทิ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ส่วนพื้นที่ที่สอง กิจกรรม ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ส่วนพื้นที่ที่สอง มีกิจกรรม ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินและมีพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ๕ แห่งเข้าร่วมการจัดงานโดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศาลาว่าการกลาโหม พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวันพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์, พิพิธบางลำพู มิวเซียมสยามพิพิธภัณฑ์ใต้ดินณ ลานปฏิมากรรมรุ้ง และ MRT สนามไชย นอกจากนี้ วธ.ได้ร่วมกับ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร จัดงานวัดพัฒนาประชาคม ไหว้พระรับพรย้อนวันวาน สารพันอาหารย่านกะดีจีน-คลองสาน ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๙-๒๓ เมษายน๒๕๖๗ เรียกว่าครึกครื้นกันเต็มเมืองหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี