ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘พระราชวังจันทรเกษม’ภูมิวิถีอยุธยาเมืองมรดกโลก

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘พระราชวังจันทรเกษม’ภูมิวิถีอยุธยาเมืองมรดกโลก

วันอาทิตย์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2567, 06.10 น.

พระราชวังจันทรเกษมในอดีต

การส่งเสริมให้ชุมชนมองเห็นต้นทุนทางวัฒนธรรมนั้น นอกจากจะส่งเสริมการ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” แล้ว กระทรวงวัฒนธรรมยังได้จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทยอีก ๔ ภาคภาคกลางนั้นได้จัดงานนี้ขึ้นโดยเน้น “ศาสตร์ศิลป์ตระการตา เลอค่ามรดกวัฒนธรรม” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยเหตุที่เมืองนี้เป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก ดังนั้นการจัดงานจึงมีการแสดงมหรสพมากมาย เช่นโขน ละคร ลิเก หนังใหญ่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากศิลปินพื้นบ้าน การสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะวิถีชาววัง เช่น การทำหัวโขนงานช่างดอกไม้สด งานช่างแกะสลัก งานช่างแทงหยวก รวมทั้งขนม อาหารที่สืบรสชาติดั้งเดิมแต่งตัวย้อนอดีตสมัยอยุธยา เที่ยววัดชมวังในยามค่ำคืน (Night Museum) การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัฒนธรรมไทย และผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาจากกลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ๒๕ จังหวัด สำหรับพระราชวังจันทร์เกษม หรือวังหน้านั้น เป็นวังที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก (คลองคูขื่อหน้า) ตำบลหัวรอ มีหลักฐานจากพระราชพงศาวดารสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.๒๑๒๐ สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยามเสด็จจากเมืองพิษณุโลก และประทับในยามมาเฝ้าพระราชบิดาที่กรุงศรีอยุธยา พระราชวังแห่งนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงใช้เป็นกองบัญชาการรับศึกหงสาวดีเมื่อปี พ.ศ.๒๑๒๙ ด้วย นอกจากนี้ได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระมหาอุปราชที่สำคัญถึง ๘ พระองค์ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระเอกาทศรถ,เจ้าฟ้าสุทัศน์, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช,ขุนหลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ), สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ, สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ,กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์

พระราชวังจันทรเกษมปัจจุบัน


ภายหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ พระราชวังจันทรเกษมได้ถูกทิ้งร้างจากภัยสงคราม จนกระทั่งสมัยกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ทรงโปรดฯให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชิดเชื้อพงศ์ เป็นแม่กองในการดูแลก่อสร้างพระตำหนักและพลับพลาที่ประทับเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๔เพื่อใช้สำหรับเป็นที่ประทับในเวลาที่พระองค์เสด็จประพาสพระนครศรีอยุธยา และโปรดพระราชทานนามว่า พระราชวังจันทรเกษมเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๖ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ได้พระราชทานพระราชวังจันทรเกษมให้เป็นที่ทำการของมณฑลกรุงเก่า โดยใช้พระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ และพระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่าได้สร้างอาคารที่ทำการโดยย้ายที่ว่าการมณฑลจากพระที่นั่งพิมานรัตยามาตั้งที่อาคารที่ทำการภาค พระยาโบราณราชธานินทร์นั้นได้รวบรวมวัตถุสิ่งของสำคัญในบริเวณกรุงเก่าและบริเวณใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมาก มาเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังจันทรเกษม จนในปี พ.ศ.๒๔๔๕ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงแนะนำให้พระยาโบราณราชธานินทร์ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่เรียกว่า โบราณพิพิธภัณฑ์ โดยใช้ตึกโรงม้าพระที่นั่งเป็นที่เก็บรวบรวม ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๔๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้ย้ายวัตถุต่างๆ จากโรงม้าพระที่นั่งเข้ามาเก็บรักษาและตั้งแสดงที่บริเวณอาคารพลับพลาจตุรมุข และต่อเติมระเบียงตามแนวอาคารด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก เพื่อจัดตั้งวัตถุ ศิลาจารึก และประติมากรรมต่างๆ ใช้ชื่อพิพิธภัณฑ์ว่า อยุธยาพิพิธภัณฑ์ ต่อมาในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๙ กรมศิลปากรได้ประกาศให้อยุธยาพิพิธภัณฑ์ เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในนาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ด้วยความสำคัญขอสถานที่และบรรยากาศราชสำนักอยุธยา-รัตนโกสินทร์ ชาวอยุธยาได้พากันแต่งองค์ทรงเครื่องย้อนอดีตมาร่วมงานพิธีเปิด โดย ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีร่วมกับคณะและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่างยินดีกับงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ ที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีคนอยุธยาในราชสำนักวังหน้า และซื้อของกันตลอดงาน

พระราชวังจันทน์เกษมยามค่ำ
พระราชวังจันทน์เกษมยามค่ำ
แต่งตัวย้อนอดีต
แต่งตัวย้อนอดีต
ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ประธานพิธี
ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ประธานพิธี
พิธีเปิดงานมหกรรม
พิธีเปิดงานมหกรรม
การแสดงโขนกรมศิลปากร
การแสดงโขนกรมศิลปากร
การแสดงประวัติศาสตร์อยุธยา
การแสดงประวัติศาสตร์อยุธยา
สาธิตปักลายผ้า
สาธิตปักลายผ้า
สาธิตกวนขนม
สาธิตกวนขนม
ผู้ร่วมงานจากเครือข่าย
ผู้ร่วมงานจากเครือข่าย
โบราณวัตถุ
โบราณวัตถุ
ตลาดย้อนอดีต
ตลาดย้อนอดีต

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top