คนไทยเท่านั้นที่จะช่วยกันดูแล แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยได่อย่างเป็นรูปธรรม ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเพียงตัวช่วยเสริมให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น เพราะฉะนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับผู้คนของเราเป็นอันดับแรก ต้องเน้นให้ตลาดในบ้านของเราดำเนินต่อไปด้วยแรงสนับสนุนของคนไทยด้วยกันเอง
วันนี้ Mr. Flower ชวนคุณ ๆ ไปเที่ยว ไปชม ไปช้อป ไปชิม และไปประทับใจกับความงดงาม และมนต์เสน่ห์ของสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในบ้านเมืองของเราด้วยกัน โดยเราจะเน้นการเดินทอดน่อง แล้วค่อย ๆ ละเลียดความงดงามของศิลปวัฒนธรรมในบ้านเมืองของเรา แม้ศิลปวัฒนธรรมบางอย่างจะไม่ใช่ของไทยแท้แต่ดั่งเดิม เพราะว่ามีรากเหง้ามาจากชนเชื้อชาติอื่นที่เข้ามาดำเนิดชีวิตบนแผ่นดินสยาม (ไทย) ตั้งแต่โบราณกาลแล้ว แต่คนไทย (สยาม) ก็สามารถผสมกลมกลืนศิลปวัฒนธรรมของต่างชาติให้ผสมผสานไปกับของไทยได้อย่างงดงามและลงตัว ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกแตกแยกแปลกประหลาด
วันนี้ เราไปกราบไหว้นมัสการพระพุทธรูป และเที่ยวชมวัดเครือวัลย์ วัดกัลยาณมิตร และไปกราบมมัสการพระเยซูเจ้า และเที่ยวชมวัดซางตาครูส กราบไหว้ศาลเจ้าเกียงอันเกง แล้วเดินเที่ยวชมชิมช้อปย่านกุฎีจีน อันที่จริงหากจะให้ครบรสชาติของการผสมกลมกลืนกันระหว่างพุทธ คริสต์ อิสลาม และศาลเจ้าจีน ก็ต้องไปเจริญพาสน์ด้วย แต่เพียงแค่มีเวลาจำกัด ดังนั้น ทริปนี้จึงไม่ได้พาไปเที่ยวเจริญพาสน์
เริ่มจากวัดเครือวัลย์ วรวิหาร วัดที่สร้างในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยผู้สร้างวัดคือเจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย บุณยรัตพันธุ์) และพระธิดาคือเจ้าจอมเครือวัลย์ ในรัชกาลที่ 3
ภายในพระอุโบสถของวัดเครือวัลย์มีความแตกต่างจากพระอุโบสถอื่น ๆ คือพระประธานเป็นปางห้ามพยาธิ ประทับยืน ยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสมอพระอุระ หงายพระหัตถ์ขาวออก ส่วนพระกรซ้ายทอดยาววางแนบพระวรกาย ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังพระเจ้า 500 พระชาติ และที่สำคัญคือยังมีภาพจิตรกรรมบนบานประดูและหน้าต่างเป็นภาพฉัตร โดยที่บานประตูคือภาพฉัตร 5 ชั้น ส่วนที่หน้าต่างคือฉัตร 7 ชั้น
พระประธานในพระอุโบสถวัดกัลยาณมิตรคือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต ซำปอกง พระพุทธรูปปางมารวิชัย
ไม่ไกลจากวัดกัลยาฯ คือที่ตั้งของอาสนวิหารวัดซางตาครูส หรือวัดกุฎีจีน ของคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาธอลิค โบสถ์คริสต์แห่งนี้สร้างในสมัยกรุงธนบุรี แต่เดิมโบสถ์นี้สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง แต่ถูกไฟไหม้ จึงต้องสร้างใหม่แบบก่ออิฐถือปูน เป็นสถาปัตยกรรมแบบนิโอคลาสสิคผสมเรเนอซองส์ โดยโดมของโบสถ์ถอนแบบมาจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ แคว้นทัสคานี อิตาลี
และยังมีชุมชนกุฏีจีนอยู่ใกล้ ๆ กับโบสถ์ซางตาครูส วัดกัลยาฯ ศาลเจ้าเกียนอันเกง ชุมชนกุฏีจีนคือที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายจีนผสมกับโปรตุเกส ที่อพยพหนีภัยสงครามเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่สอง แล้วมาตั้งรกราก ณ บริเวณนี้ ในชุมชนยังคงมีบ้านเรือนเก่าที่แสนคลาสสิคหลงเหลืออยู่ แต่บางหลังก็ทรุดโทรมมาก คงแค่เพียงรอยอดีตที่แสนงดงาม แต่เมื่อมาชุมชนกุฎีจีนแล้ว สิ่งที่ต้องซื้อหามากินคือขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็นลูกผสมระหว่างขนมของโปรตุเกสกับจีน
หมายเหตุ ขอบคุณภาพประกอบจากกลุ่มเที่ยว อิ่ม บุญ
by Mr. Flower
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี