กระชับความสัมพันธ์ไทย-โปรตุเกส เสริมสร้างความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ

กระชับความสัมพันธ์ไทย-โปรตุเกส เสริมสร้างความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ

วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.59 น.
Tag :

นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้แทน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดงความยินดีร่วมงานเลี้ยงรับรอง เนื่องในโอกาสวันชาติโปรตุเกส โดยมี นายลูวิช มานูแวล ดือ มากาไญช์ ดือ อัลบูแกร์ก วือโลซู (H.E. Mr. Luís Manuel de Magalhães de Albuquerque Veloso) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำประเทศไทย และคณะ ให้การต้อนรับ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำประเทศไทย เจริญกรุง กรุงเทพฯ ทั้งนี้ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งแขกผู้มีเกียรติระดับสูง นักการทูต นักธุรกิจ ข้าราชการ รวมทั้งผู้แทนทางการทูตของประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 500 คน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะ เดินทางเยือนโปรตุเกสอย่างเป็นทางการ พร้อมกับกล่าวชื่นชมโปรตุเกสโมเดล ซึ่งประเทศไทยได้ศึกษาและนำมาเป็นพื้นฐานของการยกร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดของไทย โดยยึดหลักการผู้เสพเป็นผู้ป่วย และได้รับการบำบัดโดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นนี้อยู่ จึงอยากศึกษาแนวทางของโปรตุเกส ทั้งการบำบัดผู้ติดยาเสพติดที่เป็นกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ และกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ


ในครั้งนั้น คณะผู้แทนไทย จากกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติภายใต้โปรตุเกสโมเดล ซึ่งยึดผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ติดยาเสพติดจะได้รับการบำบัดโดยกระทรวงสาธารณสุข ส่วนผู้ค้ายาเสพติดจะถูกดำเนินคดีโดยกระทรวงยุติธรรม 

สำหรับแนวทางการบำบัดผู้ติดยาเสพติดของโปรตุเกส จะให้ความสำคัญกับ (1) การวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคล เพื่อประเมินว่าต้องการความช่วยเหลือด้านใด เช่น ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย การสร้างอาชีพ การบำบัด (2) การบำบัดที่เหมาะสม เช่น การใช้สารทดแทน การจัดห้องเสพยาเสพติด การจัดโปรแกรมสุขภาพ ฯลฯ และ (3) การติดตาม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ติดยาเสพติดสามารถกลับคืนสู่สังคมได้

นอกจากน้้น โปรตุเกส ได้เน้นย้ำความสำคัญของการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดทั้งกระบวนการบำบัดรักษา การลดการใช้ยาเสพติด และการเตรียมความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม โดยการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สำเร็จได้ จะต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

โดยการหารือข้อราชการในครั้งนั้น นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปรตุเกสให้มีความแน่นแฟ้น โดยกระทรวงยุติธรรมของไทยและโปรตุเกสมีความร่วมมือด้านงานยุติธรรมในมิติต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องมาโดยตลอด

-(016)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top