ในโลกการเมืองกัมพูชา ที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ซับซ้อนและการต่อรองอันแยบยล สมเด็จฮุน เซน ผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรและจัดการศัตรูรอบตัวอย่างแยบคายตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
การรู้จักมิตรและศัตรูของผู้ที่เราจะต้องเกี่ยวข้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะศัตรูของมิตร คือศัตรู มิตรของศัตรูคือศัตรู ศัตรูของศัตรูคือมิตร มิตรของมิตร คือ มิตร
มิตรแท้หรือแค่ผลประโยชน์?
จีน : พี่ใหญ่ผู้ไม่ตั้งคำถาม….จีนคือพันธมิตรที่ฮุน เซนพึ่งพาอย่างแน่นแฟ้น เพราะจีนมองกัมพูชาเป็นประตูสู่อาเซียน และเส้นทางสำคัญตามนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Belt and Road Initiative โดยเฉพาะหลังปี 2017 เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับสหรัฐอเมริกา สั่นคลอน จีนให้ทั้งเงินลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนทางการทหาร การลงทุนจากจีนหลั่งไหลเข้ากัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้า ท่าเรือ คาสิโน ไปจนถึงโครงการพัฒนาเมือง ในขณะเดียวกัน จีนก็ให้การสนับสนุนทางการเมืองแก่รัฐบาลฮุน เซนในเวทีระหว่างประเทศ
เวียดนาม : ผู้ปลดปล่อยและผู้ปกครองเงา....เวียดนามคือผู้พาฮุน เซนขึ้นสู่อำนาจหลังโค่นล้มเขมรแดงในปี 1979 ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นนี้ยังคงอยู่ แม้จะมีแรงต้านจากชาวเขมรบางส่วนที่มองว่าเวียดนามคือ “ผู้ครอบงำ” และมีประเด็นขัดแย้งบางเรื่อง เช่น เขตแดนและประมงในอ่าวไทย แต่โดยรวมแล้วยังคงเป็นพันธมิตรสำคัญ
รัสเซีย : มิตรเชิงยุทธศาสตร์.....แม้จะไม่โดดเด่นเท่าจีนหรือเวียดนาม รัสเซียยังคงเป็นพันธมิตรในด้านการทหารและการทูต โดยเฉพาะในเวทีระหว่างประเทศที่กัมพูชาต้องการเสียงสนับสนุน รัสเซียมองกัมพูชาเป็นพันธมิตรใหม่ในการต่อต้านอิทธิพลตะวันตกในภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา : มิตรที่ไม่น่าไว้ใจ ....ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ขึ้นลงตามอารมณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐ และการเมืองภายในกัมพูชา ฮุนเซนเคยพยายาม “อวยทรัมป์” เพื่อฟื้นสัมพันธ์หลังสงครามชายแดนกับไทย ปัจจุบัน สหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชาหลายคน และวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์สิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฮุน เซนหันไปพึ่งพาจีนและรัสเซียมากขึ้น
ไทย : เพื่อนบ้านที่มีทั้งความร่วมมือและต่อสู้
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชามีประเด็นทั้งความร่วมมือและความขัดแย้ง การค้าชายแดน การลงทุน และการท่องเที่ยวเป็นด้านบวก แต่ก็มีประเด็นพิพาทเขตแดน การอพยพแรงงาน และอิทธิพลทางการเมืองที่ทำให้ความสัมพันธ์ซับซ้อน ข้อพิพาทเรื่องชายแดนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 จนมีการปะทะกันด้วยปืนใหญ่และเครื่องบินทิ้งระเบิด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาลดต่ำลงมาก
ศัตรูทางการเมือง
เจ้านโรดม รณฤทธิ์ (Prince Norodom Ranariddh) และ กลุ่มฟุนซินเปค (Funcinpec) เจ้านโรดมรณรณฤทธิ์ โอรสของเจ้านโรดมสีหนุ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับฮุนเซนในพ.ศ.2546 ต่อมาถูกฮุนเซนปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาล เมื่อ พ.ศ. 2550 ทำให้เจ้ารณฤทธิ์กลายเป็นผู้นำที่ไร้อำนาจ การล่มสลายของพรรคฟุนซินเปคที่นิยมเจ้าสีหนุ คือจุดเริ่มต้นของการรวมศูนย์อำนาจของฮุน เซน
สม รังสี Sam Rainsy คือผู้นำฝ่ายค้านของพรรคCNRP (Cambodia National Rescue Party) ที่ถูกถอนสัญชาติและลี้ภัยในฝรั่งเศส เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของฮุน เซน เขาเคยวิจารณ์กองทัพกัมพูชาว่ายิงมั่วใส่พลเรือนไทย ขณะที่ยกย่องทหารไทยยิงแม่นยำ ทำให้ฮุน เซนโกรธจัดและตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กอย่างรุนแรง
มู โซซัว Mu Sochua และ เกอ โซคา Kem Sokka สองนักการเมืองหญิงจากพรรค CNRP ที่ถูกจับกุมฐานกบฏ และสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ถูกจำกัดสิทธิการเมือง พวกเธอเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในกัมพูชา
พวกเขมรแดงเก่า แม้ฮุน เซนจะเคยเป็นสมาชิกเขมรแดง แต่เขาก็ใช้การต่อต้านเขมรแดงเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมในการขึ้นสู่อำนาจ และกำจัดอดีตผู้นำเขมรแดงที่ยังคงมีอิทธิพลในบางพื้นที่ ทั้งวิธีเจรจาและใช้กำลัง
สนธิ ลิ้มทองกุล และจตุพร พรหมพันธุ์ นักเคลื่อนไหวการเมืองไทยที่เคยวิจารณ์ฮุน เซนอย่างเสียหาย โดยเฉพาะในช่วงความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
ทักษิณ และแพทองธาร ชินวัตร ทักษิณเคยมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดี และมีธุรกิจในกัมพูชาหลายอย่าง ฮุน เซนเคยให้การสนับสนุนทักษิณในช่วงที่ถูกโค่นล้ม โดยให้รับตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจ แต่ต่อมามีการประกาศตัดญาติขาดมิตรกัน เพราะเรื่องอะไรไม่แน่ชัด
โดย สุริยพงศ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี