เปิดแนวคิด 3 ผู้บริหารธุรกิจ 3 เจเนอเรชัน สร้างธุรกิจยั่งยืน เริ่มต้นที่ Mindset

เปิดแนวคิด 3 ผู้บริหารธุรกิจ 3 เจเนอเรชัน สร้างธุรกิจยั่งยืน เริ่มต้นที่ Mindset

วันเสาร์ ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 07.00 น.

เมื่อกล่าวถึงความยั่งยืน คนส่วนมากจะนึกถึงสิ่งแวดล้อม โลก สังคม แต่มักจะมีอีกด้านหนึ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยนึกถึงคือ ความยั่งยืนของธุรกิจ ที่จะนำมาซึ่งความยั่งยืนในมิติของเศรษฐกิจ เพราะหากธุรกิจไม่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ย่อมไม่สามารถดูแลพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า หรือแม้แต่ยื่นมือไปช่วยเหลือสังคม สิ่งแวดล้อมได้  ปีนี้ Sustainability Expo 2025 งานมหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ชวนผู้นำธุรกิจของไทยที่ประสบความสำเร็จมาเผยความลับขั้นแรกของการสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน นั่นก็คือ Mindset หรือทัศนคติของผู้ประกอบการ

3 ผู้บริหารธุรกิจ 3 เจเนอเรชัน ที่มาขึ้นเวทีในครั้งนี้ ได้แก่ ธีระพงษ์ ระบือธรรม ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง หงษ์ไทย ยาดมสมุนไพรที่คนไทยและต่างชาติรู้จักกันดี  กศม ชูดอกไม้ เจ้าของ Fishmonger และผู้ร่วมก่อตั้งlantaplathai.com ร้านอาหารและเว็บไซต์แหล่งรวมอาหารทะเลสดจากประมงพื้นบ้าน และ ทัพไทย ฤทธาพรม ซีอีโอและผู้รวมก่อตั้ง Haab, Layers, Haroy และ YogurBara Thailand แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารและขนมที่คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวชื่นชอบ โดยมี สินธ์โต วาณิชย์กิตติ์  Head, SME Future Readiness, Brandi and Companies เป็นผู้ดำเนินการเสวนา


ธีระพงษ์ ระบือธรรม ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง หงษ์ไทย

 

เป้าหมายต้องชัดเจน

เป้าหมายและความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจ คือรากฐานสำคัญอันดับแรก  ผู้ประกอบการที่จะประสบความสำเร็จและสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน ต้องยึดมั่นในเป้าหมายของตัวเองอย่างมั่นคง

ทัพไทยแชร์มุมมองว่าความยากของการเริ่มต้นธุรกิจคือ การตกหลุมพราง เพราะในการทำธุรกิจจริง ตอนเริ่มลงทุน จะยังไม่เห็นผล และดูเหมือนว่าลงทุนเท่าไหร่ก็ยิ่งขาดทุน ตรงจุดนี้หลายคนมักท้อ คิดว่าคงไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง และตัดสินใจไม่ไปต่อ นี่คือการ “ตกหลุมพราง” ใหญ่

“ผมเริ่มลงทุนน้อยๆ ก่อนแล้วดูว่ามีแนวโน้มจะขึ้นไหม  ต้องทำแผนปานกลางและทำให้เล็กที่สุด พอเห็นแนวโน้มที่ดี จึงค่อยเดินหน้า ลงทุนเพิ่ม ต้องกล้าที่จะลองผิดลองถูก เวลาไม่ประสบความสำเร็จให้มองเป็นเรื่องเล็ก เวลาประสบความสำเร็จค่อยมองเป็นเรื่องใหญ่และเดินหน้าต่อ” ทัพไทย กล่าว

การมีเป้าหมายชัดเจน ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถหาพนักงานที่มีคุณภาพ มีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่ตามต้องการ ทัพไทยจึงเน้นการค้นหาพนักงานที่ “ใช่” สำหรับธุรกิจอาหารที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ พนักงานที่คัดเลือกมาจึงเป็นคนที่มีจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว

ส่วนยาดมสมุนไพรหงษ์ไทย กว่าจะมาเป็นไอเทมฮิตในหมู่วัยรุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ธีระพงษ์ เล่าว่า เส้นทางธุรกิจของเขาเริ่มตั้งแต่ 10 ขวบ เพราะเหตุผลเดียว คือ ความกตัญญู หรือความแน่วแน่ที่จะดูแลทุกคนในครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี  เขาออกมาเริ่มทำงานตั้งแต่จบ ป. 6 เริ่มจากความไม่รู้ และเต็มไปด้วยการลองผิดลองถูก เรียนรู้แบบธรรมชาติ  แม้จะยากลำบากและเปลี่ยนเส้นทางธุรกิจมาหลายครั้งกว่าจะมาลงตัวที่ยาดมสมุนไพร แต่เป้าหมายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

“ความกตัญญู เป็นบ่อเกิดของการทำธุรกิจในทุกๆ เรื่อง เพราะเมื่อคุณรู้บุญคุณคน คุณจะต่อยอดรายละเอียดไปทั้งระบบ เรารักลูกน้อง ลูกน้องจะดีกับเรา เรารักคู่ค้า อย่าเอาเปรียบเขา เขาจะเชื่อมั่น ขนาดสั่งของล่วงหน้าเครดิตเป็นสิบล้านต่อเจ้า สั่งล่วงหน้าได้ เพราะเราไม่เคยเอาเปรียบใคร” ธีระพงษ์ กล่าว

กศม ชูดอกไม้ เจ้าของ Fishmonger และผู้ร่วมก่อตั้งlantaplathai.com 

 

เริ่มต้นที่ความชอบ

ความชอบ เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นโอกาส และหาทางพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้า มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่นที่ กศม ได้สร้างเว็บไซต์ศูนย์กลางการจำหน่ายอาหารทะเลจากประมงพื้นบ้านเพราะเสียดายปลาที่ชาวประมงจับได้แต่ตลาดไม่รู้จักและไม่อยากซื้อ และต้องการสร้างช่องทางให้คนทั่วไปได้รู้จักและหันมาซื้อปลาเหล่านี้  ก่อนจะก้าวสู่ธุรกิจร้านอาหารที่เป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก

“ตอนที่ตั้งลันตาปลาไทยในปีแรก ก็ขายไม่ออก แต่เราไม่ท้อ เพราะเราชอบ เราหาความรู้เพิ่มเติมทำให้รู้ลึกขึ้น ถ้าเป็นสิ่งที่เราชอบ เราสามารถทำซ้ำไปได้เรื่อยๆ  มีความสุขไปเรื่อยๆ  บางคนบอกว่าเมื่อประสบความสำเร็จแล้วจะมีความสุข แต่สำหรับผม มีความสุขไปเรื่อยๆ แล้วจะประสบความสำเร็จดีกว่า” กศม กล่าว

ทัพไทย ฤทธาพรม ซีอีโอและผู้รวมก่อตั้ง Haab, Layers, Haroy และ YogurBara Thailand 

 

คิดให้รอบ ทำน้อยแต่ยั่งยืน

อีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อเนื่องได้อย่างยั่งยืน คือ การคิดเป็นระบบและรอบด้านตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งสร้างความยั่งยืนไม่เพียงสำหรับธุรกิจ แต่ครอบคลุมทุกหน่วยตลอดห่วงโซ่อุปทาน ชุมชน และสังคมยังเกิดความยั่งยืนด้วย

กศม ยกตัวอย่างเรื่องปลาไทยว่า การประมงพื้นบ้านที่ไม่ได้ใช้อวนลาก และเลือกจับเฉพาะปลาหรือสัตว์น้ำที่โตเต็มที่ แม้จะจับได้ปริมาณน้อย แต่จะมีผลที่ยั่งยืนกว่า เพราะผู้บริโภคจะได้ปลาที่มีคุณภาพ ท้องทะเลยังคงอุดมสมบูรณ์ เพราะไม่ได้มีการจับสัตว์น้ำแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ชาวประมงยังคงทำอาชีพได้อีกนาน มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ธุรกิจเองก็เติบโตเพราะมีของที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการ เรียกว่าทุกคนได้รับประโยชน์กันทั้งหมด “แม้ปริมาณจะน้อย แต่แลกกับคุณภาพ และความยั่งยืน” กศม   กล่าว

งาน Sustainability Expo 2025 หรือ SX2025  ต้นแบบงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีที่ทั้งอาเซียนและทั่วโลกต้องจับตา เป็นการรวมพลังครั้งสำคัญที่จะชวนคุณมาร่วมเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นไปในทศวรรษแห่งการลงมือทำ ด้วยการปรับตัวอย่างชาญฉลาด ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน-วันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ภายใต้แนวคิดหลักการจัดงาน “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability)

 

งาน Sustainability Expo ริเริ่มขึ้นในปี 2020  ภายใต้ความร่วมมือของ 5 องค์กรธุรกิจ ซึ่ง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นแม่งาน ผนึกกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มสู่มหกรรมด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค ร่วมขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 6 โดยน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการตามพระราชปณิธานการสืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางการจัดงานร่วมกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs) ที่ทุกภาคส่วนจะมาร่วมมือกันบูรณาการ เพื่อสร้างแนวทางในการปรับใช้ได้จริงให้ครอบคลุมทุกระดับของการดำรงชีวิตได้อย่างความสมดุลเป็นรูปธรรม

มาร่วมเรียนรู้และรับแรงบันดาลใจจากงาน SUSTAINABILITY EXPO 2025 (SX2025) ชั้น G  ได้จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2458 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ติดตามข่าวสารและกิจกรรม SX ได้ทาง FB : SUSTAINABILITY EXPO , www.sustainabilityexpo.com

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top