ชมรมตามรอยเจ้าตาก นำโดย สุชาติ กนกรัตน์มณี ประธานชมรม และ ปเรตร์ อรรถวิภัชน์ ที่ปรึกษาชมรม ร่วมกับ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด จัดกิจกรรมทางประวัติศาสตร์ จาก “หมายรับสั่ง” สู่ทริปล่องเรือย้อนรอยเส้นทางเสด็จของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากพระราชวังเดิมขึ้นไปรับพระแก้วมรกตที่บางธรณี ซึ่งเชื่อกันว่าในปัจจุบันเป็นพื้นที่บริเวณกระทรวงพาณิชย์กับวัดตำหนักใต้ นนทบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2568 เริ่มเวลา 13.00 น.
สุชาติ กนกรัตน์มณี และปเรตร์ อรรถวิภัชน์
ปเรตร์ อรรถวิภัชน์ ที่ปรึกษาชมรมตามรอยเจ้าตาก กล่าวว่า หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกู้เอกราชคืนจากพม่าและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พระองค์ทรงตระหนักดีว่าการจะทำให้บ้านเมืองมั่นคง ต้องรวมเมืองใกล้เคียงให้อยู่ภายใต้พระราชอำนาจ ในปีพ.ศ. 2321 พระองค์โปรดให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง ภายหลังคือรัชกาลที่ 1) ยกทัพไปตีกรุงเวียงจันทน์ การศึกครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะ และเวียงจันทน์ก็ตกอยู่ใต้อำนาจของสยาม
จากชัยชนะครั้งนั้น มีการอัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางข้ามแม่น้ำโขง มาประดิษฐานชั่วคราวที่เมืองพานพร้าว ปัจจุบันคือที่ตั้งของหน่วยเรือรักษาความสงบลำน้ำโขง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
จากนั้นขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปก็เริ่มเดินทางลงใต้ ทั้งทางบกและทางน้ำ ผ่านหัวเมืองอีสานเข้าสู่ภาคกลาง เมื่อถึงสระบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้กรมขุนอินทรพิทักษ์ (เจ้าฟ้าจุ้ย พระราชโอรสองค์ใหญ่) ขึ้นไปรับเสด็จที่ท่าเจ้าสนุก และมีการจัดสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ 3 วันเต็ม มีละคร หนังใหญ่ การละเล่นต่าง ๆ และดอกไม้เพลิงตระการตา
วัดตำหนักใต้ (ติดกับกระทรวงพาณิชย์ )
หลังเสร็จสิ้นการสมโภชที่ท่าเจ้าสนุกแล้ว ได้อัญเชิญพระแก้วลงเรือพระที่นั่ง 13 วา พระบางลงเรือพระที่นั่ง 15 วา และพระคัมภีร์ ลงเรือโขมดยาทอง พร้อมด้วยเรือพระราชาคณะ เรือพนักงานตามเสด็จในกรม เรือพนักงานตามเสด็จ วันเสาร์ (4 มีนาคม พ.ศ.2322) ประทับแรมที่พระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยา วันอาทิตย์ (5 มีนาคม พ.ศ.2322) ประทับแรมเมืองสามโคก ปทุมธานี และวันจันทร์ (6 มีนาคม พ.ศ. 2322) ประทับแรม ณ พระตำหนักบางธรณี นนทบุรี
ที่เมืองสามโคกกับที่พระตำหนักบางธรณี ทั้งสองแห่งได้จัดให้มีการเล่นดอกไม้เพลิง ประกอบไปด้วย ดอกไม้รุ้ง ฝอยทอง กังหัน ช่อม่วง ปลาสร้อยชมหาด เป็ดไซ้แหน ตะเข้สร้างความครึกครื้นไปทั่ว
รุ่งเช้าวันถัดมา (7 มีนาคม พ.ศ.2322) สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จลงเรือพระที่นั่งมายังบางธรณี พร้อมขบวนเรือกว่า 246 ลำ ทั้งเรือพระราชาคณะ เรือเจ้าพนักงาน และเรือมหรสพที่มีการแสดงโขน งิ้ว หุ่นลาว ระบำชวา มโหรี รวมถึงการแสดงของฝรั่งและเขมร
ในบ่ายวันเดียวกัน ขบวนอัญเชิญอันยิ่งใหญ่ได้มาถึงกรุงธนบุรี พระแก้วมรกตได้รับการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานอย่างสมพระเกียรติ ณ วัดอรุณราชวราราม ส่วนพระบางก็ประดิษฐานคู่กันอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะถูกอัญเชิญกลับไปยังกรุงเวียงจันทน์ในภายหลัง
สุชาติ กนกรัตน์มณี ประธานชมรม กล่าวว่า จาก “หมายรับสั่ง” สู่ทริปล่องเรือย้อนรอยเส้นทางเสด็จของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากพระราชวังเดิมขึ้นไปรับพระแก้วมรกตที่บางธรณี ซึ่งเราเชื่อกันว่าในปัจจุบันเป็นพื้นที่บริเวณกระทรวงพาณิชย์กับวัดตำหนักใต้ นนทบุรี เราใช้เรือของบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เรือลำที่เราจะใช้เป็นเรือขนาดใหญ่ ห้องโดยสารติดเครื่องปรับอากาศ เย็นสบาย เราจะจัดทริปนี้ในวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2568 เริ่ม 13.00 น. ที่ท่ามหาราช ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เส้นทางล่องเรือ คือ จากท่ามหาราช ไปยังพระราชวังเดิม กระทรวงพาณิชย์ นนทบุรี วัดตำหนักใต้ นนทบุรี คลองนครบาล วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
บนเรือจะมีการบรรยายเรื่องราวของพระแก้วมรกต การที่พระแก้วมรกตมาอยู่กรุงธนบุรี และร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ที่จุดสำคัญ ๓ แห่ง คือ บริเวณที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชลงเรือพระที่นั่ง บริเวณที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรับพระแก้วมรกตเป็นคร้้งแรก เป็นการพบกันของมหาราชผู้ยิ่งใหญ่กับพระพุทธปฏิมากรสำคัญ และบริเวณที่พระแก้วมรกตขึ้นจากเรือพระที่นั่งเพื่อประดิษฐาน ณ ศูนย์กลางแห่งกรุงธนบุรี
ขอเชิญผู้สนใจมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทริปล่องเรือประวัติศาสตร์นี้ไปด้วยกัน ราคาบัตรคนละ 2,000 บาท (ราคานี้รวม snack box กับของมงคลที่ระลึก) หรือสนใจจะเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรม ก็สามารถติดต่อได้ทาง เฟสบุ้ค :https://www.facebook.com/share/p/15wwK4ssH6/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี