วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป มีการผ่อนปรนเกณฑ์การขอวีซ่าสำหรับเยาวชนชาวไทยที่ต้องการทำงานในประเทศเกาหลีใต้
- สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ประกาศผ่อนปรนเกณฑ์การขอวีซ่าหางานและวีซ่าทำงานสำหรับผู้ที่ทำงานในเกาหลีใต้
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยเปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะมีการผ่อนปรนเกณฑ์ในการขอวีซ่าหางาน (D-10) และวีซ่าทำงาน (E-7) สำหรับเยาวชนที่มีความสามารถ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างไทย–เกาหลี และเพิ่มโอกาสให้เยาวชนไทยได้ทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ด้านภาษาเกาหลีเป็นอย่างดี จะได้รับการผ่อนปรนทั้งด้านการตรวจสอบหลักฐานค่าใช้จ่ายในการพำนัก การประเมินคะแนน และยังสามารถพำนักอยู่ได้ยาวนานขึ้นจากเดิม 1 ปี เป็นสูงสุด 3 ปี
สำหรับผู้สมัครที่มีอายุไม่เกิน 29 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภาษาเกาหลีหรือเกาหลีศึกษา และสอบผ่าน TOPIK ระดับ 6 เมื่อสมัครขอวีซ่าหางาน D-10-1 ในประเทศเกาหลี จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายในการพำนัก และไม่ต้องมีคะแนนประเมินขั้นต่ำ 60 คะแนน โดยระยะเวลาการพำนักจะขยายจากเดิม 1 ปี เป็น 3 ปี
มาตรการผ่อนปรนนี้เกิดขึ้นจากการที่กระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐเกาหลีอนุมัติข้อเสนอของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาไทยที่เรียนสาขาวิชาภาษาเกาหลีหรือเกาหลีศึกษาในประเทศไทยได้รับโอกาสมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยในประเทศไทยประมาณ 28 แห่งที่เปิดสอนสาขาภาษาเกาหลีและเกาหลีศึกษา ทั้งในหลักสูตรเอก โท และวิชาเลือกทั่วไป
นอกจากนี้ เกณฑ์ของวีซ่าทำงานประเภท E-7 ก็ได้รับการผ่อนปรนเช่นกัน จากเดิมต้องมีคุณสมบัติเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน วุฒิการศึกษา และสาขาอาชีพที่ตรงตามเกณฑ์ แต่ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาเกาหลีจะได้รับการยกเว้นการตรวจสอบในส่วนของสาขาวิชาและประสบการณ์การทำงาน
อีกทั้ง สำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 29 ปี ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่อยู่ใน QS ไม่เกินอันดับที่ 1,000 ในเกณฑ์ 3 ปีที่ผ่านมา และสอบผ่าน TOPIK ระดับ 2 จะได้รับคะแนนพิเศษในการพิจารณาวีซ่าและสามารถพำนักในเกาหลีใต้ได้สูงสุด 3 ปี
※ มหาวิทยาลัยที่อยู่ในรายชื่อ (ตามเกณฑ์ปี 2026):
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ชลบุรี)
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย นายปาร์ค ยงมิน กล่าวว่า มาตรการนี้เกิดขึ้นจากความพยายามของสถานทูตในการขอให้รัฐบาลเกาหลีผ่อนปรนเกณฑ์ เพื่อให้นักศึกษาไทยที่เรียนภาษาเกาหลีมีโอกาสในการทำงานมากขึ้น พร้อมทั้งคาดหวังว่าการจ้างงานและการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสองประเทศจะช่วยส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย
(เว็บไซต์) https://overseas.mofa.go.kr/th-th/index.do
https://overseas.mofa.go.kr/th-ko/brd/m_28336/view.do?seq=34&page=1
(เฟซบุ๊ก) https://www.facebook.com/share/v/1BNc1uSEdi/
Attachment
เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างเกาหลีและไทย และขยายโอกาสในการทำงานในเกาหลีสำหรับเยาวชนไทย จึงมีการผ่อนคลายเกณฑ์วีซ่าหางาน (D-10) และวีซ่าจ้างงาน (E-7) สำหรับเยาวชนไทยผู้มีความสามารถโดดเด่น ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ขอเชิญชวนเยาวชนที่สนใจทำงานในเกาหลีมาแสดงความสนใจเป็นจำนวนมาก
<ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาเกาหลีโดดเด่น หรือผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก>
o คุณสมบัติ
1) ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาเกาหลีโดดเด่น:
①เยาวชนอายุไม่เกิน 29 ปีบริบูรณ์
②และได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาเกาหลีศึกษา(รวมถึงภาษาเกาหลี) จากมหาวิทยาลัย
③และผ่านการทดสอบความสามารถทางภาษาเกาหลี (TOPIK) ระดับ 6
2) ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก:
① เยาวชนอายุไม่เกิน 29 ปีบริบูรณ์
② และสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยติดอันดับTimes THE(Times Higher Education) หรือมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน 200 อันดับแรกของโลกโดย QS ภายในการจัดอันดับ 3 ปีล่าสุด
o รายละเอียดการปรับเกณฑ์วีซ่า
1) วีซ่าหางาน (D-10-1):
- ได้รับการยกเว้นการใช้ระบบคะแนน
- ได้รับการยกเว้นเอกสารหลักฐานการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการพำนัก
- สามารถพำนักได้สูงสุด 3 ปี
※ วีซ่าหางาน (D-10)เป็นวีซ่าที่ออกให้สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมฝึกงานหรือกิจกรรมหางานในเกาหลี ซึ่งปกติจะดำเนินการภายใต้ระบบคะแนน(ต้องได้รับ 60 คะแนนขึ้นไป)
2) วีซ่ากิจกรรมพิเศษ (E-7):
- ได้รับการยกเว้นการตรวจสอบความเกี่ยวข้องของสาขาที่เรียนกับประเภทอาชีพของงานที่ต้องการทำ
- ได้รับการยกเว้นคุณสมบัติด้านปริญญาและประสบการณ์ทำงาน
※ ไม่สามารถสมัครวีซ่ากิจกรรมพิเศษ (E-7) ที่สถานทูตได้โดยตรง แต่จะต้องได้รับการอนุมัติหนังสือรับรองการออกหมายเลขวีซ่าจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีก่อน
<ผู้สำเร็จการศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย>
o คุณสมบัติ:
① เยาวชนอายุไม่เกิน 29 ปีบริบูรณ์
②และได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไทยที่อยู่ใน 1,000อันดับแรกของ QS ภายในการจัดอันดับ 3 ปีล่าสุด
③ และผ่านการทดสอบความสามารถทางภาษาเกาหลี (TOPIK) ระดับ 2
- มหาวิทยาลัยที่เข้าข่าย (ปี 2026): จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ชลบุรี)
- ผู้สำเร็จการศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับแรก 1,000 ของ QS ในประเทศมาเลเซีย, เวียดนาม, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, อินเดีย, อินโดนีเซีย, จีน, และฟิลิปปินส์ ก็ได้รับการยอมรับเช่นกัน
o รายละเอียดการปรับเกณฑ์วีซ่า
1) วีซ่าหางาน (D-10-1):
- ได้รับคะแนนพิเศษ 20 คะแนนในการพิจารณาระบบคะแนน
- สามารถพำนักได้สูงสุด 3 ปี
- ต้องยื่นเอกสารหลักฐานทางการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการพำนัก เนื่องจากไม่ได้รับการยกเว้น
- ผู้สมัครที่มีอายุ 25-29 ปี จะได้รับคะแนนถึง 60 คะแนน ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับการออกวีซ่า
2) วีซ่ากิจกรรมพิเศษ (E-7):
- ได้รับการยกเว้นคุณสมบัติด้านประสบการณ์ทำงาน
※ ไม่สามารถสมัครวีซ่ากิจกรรมพิเศษ (E-7) ที่สถานทูตได้โดยตรง แต่จะต้องได้รับการอนุมัติหนังสือรับรองการออกหมายเลขวีซ่าจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีก่อน
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี