บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ เมืองจีนสมัยเติ้งเสี่ยวผิง : ปฏิรูปสู่ความทันสมัย

บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ เมืองจีนสมัยเติ้งเสี่ยวผิง : ปฏิรูปสู่ความทันสมัย

วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

หลังจากการอสัญกรรมของเหมา เจ๋อตงในปี พ.ศ. 2519 ประเทศจีนเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างหนัก เติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) เป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่เคยถูกกีดกันในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม กลับขึ้นมามีบทบาทสำคัญ ที่ทำให้จีนก้าวออกจากความยากจน   ความวุ่นวายภายในและความโดดเดี่ยว เพื่อขึ้นสู่เวทีโลกด้วยนโยบาย "ปฏิรูปและเปิดประเทศ" เปลี่ยนโฉมหน้าของจีนจากประเทศที่ล้าหลังให้กลายเป็นยักษ์ทางเศรษฐกิจภายในเวลาไม่กี่ปี

เติ้งเสี่ยวผิงเป็นใคร? มาจากไหน?


เติ้งเสี่ยวผิงเกิดในปีพ.ศ. 2447 ในมณฑลเสฉวน โดยไม่ได้อยู่ตระกูลผู้ดีหรือชนชั้นสูง เขาเป็นตัวอย่างของ "นักปฏิวัติรุ่นบุกเบิก" ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC)   ด้วยทัศนคติรักชาติและการแสวงหาความทันสมัยก่อตัวขึ้นตั้งแต่เยาว์วัย      เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาจีนกลุ่มแรกที่เดินทางไปทำงานและศึกษาในฝรั่งเศส ในวัยเพียง 16 ปี ระหว่างที่อยู่ที่นั่น เขาได้สัมผัสกับแนวคิดทางการเมืองต่างๆ รวมถึงลัทธิมากซ์-เลนิน และเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ก่อตั้งขึ้นในพ.ศ 2464    ต่อจากนั้นเขากลับมาประเทศจีนและเข้าร่วมใน"เดินทัพหมื่นลี้" (Long March)  ของเหมาเจ๋อตงอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มผู้นำรุ่นที่หนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีเหมาเจ๋อตงเป็นแกนนำ

ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (ค.ศ. 1966-1976) เติ้งเสี่ยวผิงถูกประณามว่าเป็น "พวกนิยมทุนนิยมชั้นที่สอง" และถูกปลดออกจากตำแหน่งทั้งหมด เขาถูกส่งไปทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี เป็นช่วงที่เขาได้เห็นความเสียหายของประเทศจากนโยบายที่ผิดพลาด

หลังจากเหมาเจ๋อตงเสียชีวิตในปี 1976 และกลุ่ม "คนทั้งสี่" ถูกกวาดล้าง พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการผู้นำที่สามารถพาจีนออกจากความวุ่นวายได้ เติ้งเสี่ยวผิงซึ่งมีประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนก้าวกลับมาสู่ตำแหน่งสำคัญผ่านการสนับสนุนจากผู้เห็นพ้องในพรรค

การประชุมกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 11 (พ.ศ. 2521): คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เติ้งเสี่ยวผิงและพันธมิตรสามารถกำหนดทิศทางใหม่ให้กับพรรคได้สำเร็จ โดยยกเลิกนโยบายในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม และประกาศให้ "การปรับปรุงเศรษฐกิจ" เป็นเป้าหมายหลักของประเทศ นับจากนั้น เขากลายเป็น "ผู้บัญชาการสูงสุด" แห่งยุคปฏิรูป แม้ว่าจะไม่เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหรือเลขาธิการพรรคอย่างเป็นทางการก็ตาม

ความยิ่งใหญ่ของเติ้งเสี่ยวผิงอยู่ที่การมองเห็นทางออกที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังสำหรับปัญหาซับซ้อนของจีน นโยบายหลักๆ ที่เขาสนับสนุนได้เปลี่ยนจีนอย่างสิ้นเชิง

1. นโยบาย "ปฏิรูปภายในและเปิดประเทศสู่ภายนอก" (改革开放)

   • ปฏิรูปภายใน: เปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบแผนส่วนกลางที่ไร้ประสิทธิภาพมาเป็นระบบ "เศรษฐกิจแบบตลาดสังคมนิยม" เริ่มต้นด้วยการให้เกษตรกรมีสิทธิ์เช่าที่ดินและขายผลผลิตส่วนเกินได้ผ่าน "ระบบความรับผิดชอบในครัวเรือน" ซึ่งเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรอย่างมหาศาล

   • เปิดประเทศสู่ภายนอก: สร้าง "เขตเศรษฐกิจพิเศษ" (SEZ) อย่างเซินเจิ้น จูไห่ ซัวเถา และเซี่ยเหมิน เพื่อดึงดูดการลงทุน เทคโนโลยี และความรู้ด้านการจัดการจากต่างชาติ นี่คือจุดเริ่มต้นของการที่จีนกลายเป็น "โรงงานของโลก"

2. หลักการ "แมวสีขาวหรือสีดำ จับหนูได้คือแมวดี"

   • นี่คือคำกล่าวที่โด่งดังของเติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าระบบจะเป็นสังคมนิยมหรือทุนนิยมแบบไหน ถ้ามันสามารถพัฒนาอำนาจผลิตและปรับปรุงชีวิตผู้คนได้ ก็เป็นระบบที่ดี นี่เป็นการปลดปล่อยความคิดของคนจีนจากการยึดติดกับอุดมการณ์อย่างเดียว และหันมาเน้นที่ผลลัพธ์ที่จับต้องได้

3. การส่งเสริมการศึกษาและวิทยาศาสตร์

   • เขาฟื้นฟูระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย (Gaokao) ที่ถูกระงับไปในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม สร้างโอกาสให้เยาวชนที่มีความสามารถได้เรียนตามความสามารถ ไม่ใช่ตามภูมิหลังทางชนชั้น

4. นโยบาย "หนึ่งประเทศสองระบบ"

   • เติ้งเสี่ยวผิงเป็นผู้เสนอแนวคิดนี้สำหรับการกลับคืนของฮ่องกงและมาเก๊าไปยังจีน ทำให้ทั้งสองเขตปกครองพิเศษสามารถรักษาระบบเศรษฐกิจและสังคมเดิมไว้ได้เป็นเวลา 50 ปี ซึ่งช่วยให้การโอนถ่ายอำนาจเป็นไปอย่างสันติ

สรุป

สมัยเติ้งเสี่ยวผิง คือยุคทองแห่งการฟื้นฟูและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาเป็นผู้นำที่จริงจังซึ่งพาจีนที่บอบช้ำจากอดีต ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดทางอุดมการณ์ ไปสู่เส้นทางที่ปฏิบัติได้จริงและมุ่งพัฒนาประเทศเป็นสำคัญ มรดกทางเศรษฐกิจที่เขาวางไว้คือรากฐานที่มั่นคงที่ทำให้จีนในวันนี้มีอิทธิพลต่อโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะยังมีคำถามเกี่ยวกับด้านอื่นๆ เช่น เสรีภาพส่วนบุคคล แต่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่ายุคของเติ้งเสี่ยวผิงคือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดบทหนึ่งของการพลิกโฉมประเทศในประวัติศาสตร์สมัยใหม่

โดย อาทร  จันทวิมล

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top