วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในภาวะวิกฤตน้ำท่วมที่หลายประเทศกำลังเผชิญ รายงานข่าวมักเน้นไปที่ความเสียหายและการช่วยเหลือฉุกเฉิน แต่ที่ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทรบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ประเทศไทย ได้เกิดวิธีการใหม่ที่น่าทึ่งคือการฝึกอบรมการจักสานผักตบชวาราคาถูกให้เป็นกระเป๋าทันสมัยคล้ายกระเป๋าแบรนด์เนมราคากว่าแสนบาทจากต่างประเทศ
นี่คือเรื่องราวของโครงการ “สานรักผักตบ” ที่ริเริ่มโดย ชมรมเสมาพัฒนาชีวิต และมูลนิธิส่งเสริมการลูกเสือแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ “ให้ปลาตัวหนึ่ง“ แก่คนยากจนประสบภัยเท่านั้น แต่ “สอนการจับปลา” แบบที่ยั่งยืนและมีศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ

จากผู้ประสบภัย สู่ผู้สร้างสรรค์
หลังน้ำท่วม ชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ หลายคนสูญเสียทั้งบ้านและอาชีพ การมอบถุงยังชีพ ที่มีมาม่า ปลากระป๋องเป็นความช่วยเหลือเฉพาะหน้าที่จำเป็น แต่ชุมชนน้ำท่วมซ้ำซากกว่าร้อยปีที่ตำบลชีน้ำร้าย จังหวัดสิงห์บุรี ได้รับความช่วยเหลือมากกว่านั้น พวกเขาได้รับเครื่องมือสร้างอนาคต
แทนที่จะมองผักตบชวาที่ลอยเกลื่อนเป็นเพียงขยะทางน้ำ โครงการนี้ทำการฝึกอบรมลงมือสอนให้ชุมชนเห็นว่า ทุกปัญหามักมีโอกาสแฝงอยู่ ผักตบชวาที่ผ่านการตากแห้งและเตรียมอย่างดี สามารถสานเป็นกระเป๋าสวยงาม ภาชนะใช้งานได้จริง และเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชน โดยมีรูปแบบที่ทันสมัยและส่งเสริมการตลาดไปพร้อมกัน
โครงการนี้สร้างประโยชน์สามต่ออย่างชัดเจน:
1. ต่อสิ่งแวดล้อม: ลดปัญหาวัชพืชในแหล่งน้ำ ปรับปรุงระบบนิเวศทางน้ำ
2. ต่อเศรษฐกิจชุมชน: สร้างรายได้ที่ยั่งยืนจากทรัพยากรท้องถิ่น ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สำคัญคือ เปลี่ยนผู้รับความช่วยเหลือให้เป็นผู้ประกอบการ
3. ต่อวัฒนธรรม: ฟื้นฟูภูมิปัญญาการจักสานไทยให้สอดคล้องกับตลาดสมัยใหม่ และสามารถนำวิธีการไปขยายผลต่อในชุมชนประสบภัยอื่นได้ทั่วโลก

กระบวนการสร้างผู้ประกอบการจากผักตบชวา
โครงการเริ่มด้วยการฝึกอบรมเข้มข้น 3 วัน ระหว่างวันที่ 5 ถึง 8 ธันวาคม 2568 โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากจังหวัดอ่างทอง ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการจักสานผักตบชวามาหลายสิบปี ผู้เข้าอบรม 40 คนได้เรียนรู้ทุกขั้นตอน:
· การเก็บเกี่ยวและเตรียมวัตถุดิบ
· เทคนิคการย้อมสีและป้องกันเชื้อรา
· การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งประโยชน์ใช้สอยและความทันสมัยเทียบกับกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงจากต่างประเทศ

ผลลัพธ์ไม่ใช่แค่ทักษะ แต่เป็น "กลุ่มสานรักผักตบ" ที่สามารถบริหารจัดการตนเองได้
ผลิตภัณฑ์จากโครงการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตลาดท้องถิ่น แต่กำลังวางแผนขยายสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ผ่านโครงข่ายของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
· ตลาดแฟชั่นทันสมัย: ด้วยแบบกระเป๋ารูปหัวใจ(Heart Shape )ที่กำลังมาแรงทั่วโลก
· ตลาดของที่ระลึกเชิงวัฒนธรรม: ที่บอกเล่าเรื่องราวชุมชนที่ผ่านวิกฤตน้ำท่วม
· ตลาด CSR ของบริษัทต่างๆ: ที่ต้องการสนับสนุนสินค้าที่มีความหมายทางสังคม

บทเรียนสู่โลก: เมื่อความยั่งยืนเริ่มจากวัชพืช
โครงการ "สานรักผักตบ" เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสำหรับชุมชนที่เผชิญวิกฤตทั่วโลก โดยแสดงให้เห็นว่า:
1. การฟื้นฟูควรเริ่มจากทรัพยากรในชุมชนเอง
2. ศักดิ์ศรีและการมีส่วนร่วมสำคัญกว่าการได้รับแจกฟรี
3. นวัตกรรมทางสังคมมักเกิดจากการมองสิ่งเดิมในมุมใหม่
ในยุคที่โลกกำลังแสวงหาโมเดลการพัฒนาที่ยั่งยืน เรื่องราวจากชุมชนเล็กๆ แห่งนี้สอนเราว่า บางครั้งคำตอบอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด แค่ต้องเปลี่ยนวิธีมอง
โครงการ "สานรักผักตบ" ไม่เพียงแค่สร้างผลิตภัณฑ์ แต่สร้างความหวัง ไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่สร้าง ความภาคภูมิใจ และที่สำคัญคือ พิสูจน์ให้โลกเห็นว่าแม้ในวิกฤตที่เลวร้ายที่สุด มนุษย์ก็สามารถ "สาน" ทางออกใหม่ๆ ได้ จากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงปัญหา
อาทร จันทวิมล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี