หากย้อนกลับไปดูข่าวฉาวในแวดวงสงฆ์เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2556 ช่วงนั้นที่ฮอดที่สุดก็คือข่าว "หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก" ที่มีเมียถึง 8 คนและเมีย 2 ใน 8 คนนั้นถึงขั้นมีลูกชายด้วยกันรวม 2 คน แต่ถ้าเทียบกับข่าวฉาวในแวดวงสงฆ์ที่กำลังฮอดอยู่ในขณะนี้ คือ พระนิพนธ์ เจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย อ.เมือง จ.นครปฐม ที่ตามข่าวระบุว่ามีเมียทั้งหมด 7 คนและกิ๊กอีก 5 คน สมีนิพนธ์ ก็คงจะเหนือกว่าเณรคำ อย่างแน่นอน
วันนี้ เราลองมาดูกันว่ เมียเณรคำ ในวันนั้นมีใครบ้าง และเมียสมีนิพนธ์ ในวันนี้มีใครบ้าง
เริ่มจากเมียเณรคำ พระนักรักแห่งจังหวัดศรีสะเกษ (ข้อมูลข่าวผู้จัดการออนไลน์วันที่ 2 กรกฎาคม 2556)
คนที่ 1 ประมาณปี 2545 เกณรคำได้ไปเปิดที่พักสงฆ์อยู่บริเวณริมห้วยสำราญ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้ไปรู้จักกับ "น้อง ญ" อายุ 25 ปี สาวสวยบ้านโนนจานที่นำเอาข้าวไปถวาย จากนั้นได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจนมีลูกชาย 1 คนชื่อ "น้อง น." โดยเณรคำ ได้ส่งเสียเงินค่าเลี้ยงดูให้เดือนละ 20,000 บาท ขณะนี้ "ญ" มีสามีใหม่แล้วทั้งหมดยังคงพักอยู่ที่บ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
คนที่ 2 คือ "น้อง พ" อายุ 26 ปี สาวบ้านหนองพะแนง คุ้ม 11 โนนม่วง ต.รุ่งระวี อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เณรคำได้มาติดพันขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 โดยขณะนั้นเณรคำ มาเปิดที่พักสงฆ์ และเจอกับน้อง พ จึงได้ชอบพอกัน และเณรคำ ได้นำเงินจำนวน 20,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทมาหมั้นเอาไว้ ก่อนอยู่กินกันฉันสามีภรรยาแบบลับๆ โดยเณรคำได้ซื้อรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ สีแดง กลางเก่ากลางใหม่ 1 คันให้น้อง พ ขับไปเรียนหนังสือ และได้สร้างบ้านหลังใหม่ให้เพื่อเป็นเรือนหอมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท แต่ยังสร้างไม่เสร็จ (ตามข่าวในขณะนั้น)
โดยน้อง พ ได้พยายามเรียกร้องให้เณรคำสึกออกมาอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาอย่างเปิดเผย แต่เรรคำ ยังไม่ยอมเนื่องจากต้องการที่จะอยู่กอบโกยเงินไปก่อน ทำให้น้อง พ ไม่พอใจ และได้ใช้มือซ้ายจับโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปภาพนิ่งเอาไว้ขณะที่เณรคำ กำลังนอนหลับหลังจากเมาและร่วมรักกับน้อง พอ เสร็จแล้วที่บริเวณหน้าห้องน้ำในห้องนอนในบ้านของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นบ้านขนาดชั้นเดียวตั้งอยู่ด้านหน้าเรือนหอร้างในปัจจุบัน
จากนั้นน้อง พ ได้ยื่นคำขาดอีกครั้งให้สึกออกมาอยู่ร่วมกันแต่เณรคำ ไม่ยอม น้อง พ จึงยื่นข้อเสนอขอเงิน 30 ล้านบาทเพื่อนำมาสร้างบ้านให้เสร็จและใช้จ่ายในการดำรงชีวิตต่อไป แต่เณรคำ ไม่ยอมน้อง พ จึงได้นำเอารูปภาพไปโพสต์ในเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อว่า "แด่สาธุชน" และได้นำเอาภาพไปถ่ายเอกสาร จากนั้นนำเอาภาพที่เณรคำ นอนหลับกับน้อง พอ เขียนข้อความว่า "นี่หรือ พระที่พวกคุณเคารพนับถือ" ไปโปรยหน้าบ้านของเณรคำ ที่ จ.อุบลราชธานี และทั่วบริเวณในเขตพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร รวมทั้งเล่นแรงถึงขั้นนำเลือดไปเทราดประตูหน้าบ้านเณรคำ ด้วยความโกรธแค้นด้วย
เณรคำ จึงได้มาขอเคลียร์ โดยจ่ายเงินให้ 5 ล้านบาท และให้ลบรูปภาพออกจากเฟซบุ๊ก ซึ่งน้อง พ ได้ยอมลบภาพออก แต่มีมือดีทั้งหลายได้บันทึกเอาไว้แล้ว จึงกลายเป็นรูปภาพในข่าวฉาวโฉ่อยู่ในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นภาพแรกเริ่มและเป็นภาพที่สร้างความเสื่อมศรัทธาให้เณรคำ มากที่สุดในบรรดารูปภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันอยู่
ปัจจุบันน้อง พ ได้แต่งงานไปอยู่กับสามีใหม่ที่ จ.เชียงราย มีลูกชาย 1 คน
คนที่ 3 ในปี 2551 เณรคำ ได้มาสร้างวัดป่าขันติธรรมที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และมีความสัมพันธ์กับน้อง ม อายุ 25 ปี สาวสวยคนหนึ่งของบ้านดู่ ต.ยาง ซึ่งบ้านอยู่ทางเข้าก่อนถึงวัดประมาณ 3 กม. และมีลูกชาย 1 คน เณรคำ ได้พาน้อง ม ไปอยู่กรุงเทพฯ โดยซื้อบ้านจัดสรรหรูหรามูลค่า 15 ล้านบาทให้อยู่กับลูก พร้อมรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด 1 คันไว้ใช้งาน และส่งเสียเดือนละ 50,000 บาท เณรคำ จะไปหาทุกครั้งที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ
คนที่ 4 ประมาณปี 2552 เณรคำ ไปสร้างที่พักสงฆ์ที่บ้านตาเส็ด อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้รู้จักกับน้อง น อายุ 27 ปี สาวสวยบ้านตาเส็ดและเป็นน้องสาวของพระผู้ติดตามเณรคำ ได้ชอบพอมีความสัมพันธ์กัน และสร้างบ้านหรูทรงยุโรปมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทให้ พร้อมกับซื้อรถเบนซ์ป้ายแดงให้ 1 คัน สวนยางพาราอีกจำนวน 120 ไร่ จากนั้นได้ไปซื้อบ้านที่กรุงเทพฯให้น้อง น ด้วย ส่งเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 100,000 บาท
เณรคำ โปรดปรานเมียรักคนนี้มากเพราะเป็นน้องสาวของพระผู้ติดตาม และน้อง น มีหน้าตาสวยงามตรงสเปกของเณรคำ ที่ชื่นชอบผู้หญิงผอมบาง ผิวคล้ำเล็กน้อย ว่ากันว่าถึงขั้นได้ใช้เดือนและวันเกิดของตัวเองเปลี่ยนชื่อให้น้อง น ใหม่เป็น "กันยาวันอังคาร" ขณะนี้น้อง น จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และเณรคำ จะไปหาบ่อยมากเช่นกัน
คนที่ 5 ปี 2554 เณรคำไปเปิดสาขาที่ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ได้พบกับน้อง จ อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป. 6 เณรคำ ได้เกี้ยวพาราสีจนได้เสียกันและให้เงินแก่แม่ของน้อง จ จำนวน 1 ล้านบาทเพื่อปิดปาก จากนั้นไปสร้างบ้านที่ อ.เจริญศิลป์ และซื้อรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ป้ายแดง 1 คันให้ พร้อมส่งเสียเงินให้เดือนละ 50,000 บาท แต่นานๆ จึงจะไปหาเพราะไม่ค่อยได้รับกิจนิมนต์ไปยังเส้นทางนั้น
อย่างไรก็ตาม เณรคำ มักฉวยโอกาสช่วงที่อยู่บ้านเกิดที่ จ.อุบลราชธานี แต่งชุดฆราวาสขับรถเบนซ์ไปหาน้อง จ จนถูกตำรวจทางหลวงอุบลราชธานีโบกรถและจับได้ครั้งหนึ่งว่าแต่งชุดฆราวาสขับรถ แต่เณรคำ และตำรวจทั้ง 2 นายรู้จักกันเนื่องจากเคยมาขับรถนำขบวนให้เป็นประจำ เณรคำ ได้ให้เงินค่าปิดปากตำรวจทางหลวง 2 นายที่พบเห็นคนละ 2 ล้านบาทเพื่อไม่ให้นำเอาเรื่องราวไปบอกใคร
คนที่ 6 ปี 2555 เณรคำ ป่วยเป็นไข้หวัดไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ ได้พบกับพยาบาลคนหนึ่งชื่อน้อง ก และมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในโรงพยาบาลที่เป็นห้องพิเศษ โดยเณรคำ จะอ้างต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของโรงพยาบาลชื่อดังจึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งจะมีเพศสัมพันธ์กันภายในห้องพิเศษของโรงพยาบาล และส่งเสียเดือนละ 70,000 บาท ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีให้โดยตรง
คนที่ 7 ปี 2555 ได้พบกับน้อง ด สาวสวยชาว จ.มหาสารคาม แต่อ้างว่ามาเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ไปฟังการแสดงพระธรรมเทศนาของเณรคำ จากนั้นได้สนิทสนมกันจนกระทั่งมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง เณรคำ ได้ซื้อรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด ป้ายแดงให้น้อง ด 1 คัน เช่าแมนชั่นหรูหราที่กรุงเทพฯ ให้อยู่ และจะไปหาเป็นประจำในช่วงที่รับกิจนิมนต์อยู่กรุงเทพฯ เพราะยังเป็นสาวคนใหม่ ส่งเงินให้ใช้เดือนละ 60,000 บาท โดยโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
คนที่ 8 ห้วงระหว่างปี 2552-2556 ได้มีหญิงสาวใหญ่เจ้าประจำอยู่อีก 1 คน ชื่อ "จ" อายุ 45 ปี เป็นภรรยาของนักธุรกิจใหญ่ที่กรุงเทพฯ จะมาดูแลเณรคำ สม่ำเสมอและสนิทสนมกันเป็นพิเศษ เนื่องจากสามีของ “จ” ป่วย ทำให้ “จ” อ้างเป็นสาเหตุมาทำบุญให้ จึงได้เดินทางโดยเครื่องบินมาพบกับเณรคำ เป็นประจำ และ “จ” นำเอาทองคำหนักประมาณ 50 บาทที่เป็นมรดกของตระกูลสามีมาถวายให้ ปรากฏว่าลูกชายกลับจากสหรัฐอเมริกามาทราบเรื่องจึงโวยวายและให้ไปขอทองคำกลับคืนมา ทำให้เณรคำ ชู้รักต้องคืนทองคำให้ “จ” และ “จ” ยังเป็นเจ้าภาพในการถวายเงินเพื่อซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เตียงนอน เครื่องครัวต่างๆ ให้เณรคำ
ทุกครั้งที่เณรคำ ไปเปิดสาขาใหม่ “จ” จะติดตามไปทุกแห่งหน รวมทั้งต่างประเทศ เช่น อินเดีย เนปาล ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ที่เณรคำไปเปิดสาขาอยู่ด้วย เนื่องจาก “จ” หึงหวงและทุ่มเทเงินทองให้ไปมาก จึงพยายามตามติดไปเฝ้าตลอดเวลาที่ทำได้
แต่ ณ ปัจจุบันวันนี้ เณรคำ ติดคุกแล้ว
คราวนี้ลองมาดูเมียของสมีนิพนธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐมบ้าง
สำหรับเมียของสมีนิพนธ์ ที่ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ลงพื้นที่หาข้อมูลตั้งแต่ช่วงวันที่ 25-27 ก.พ.ที่ผ่านมาเบื้องต้นพบสมีนิพนธ์ มีเมียทั้งหมด 7 คนด้วยกัน โดยแต่ละคนจะมีหน้าที่ดูแลบริหารวัดกันอย่างชัดเจน
คนที่ 1 มีชื่อเล่นว่า "อัน" เป็นสาวไอโซ และเป็นแอร์ของสายการบินสายหนึ่ง จะเป็นตัวหลักในการหาเหยื่อคนรวยเข้าวัด และเมียคนที่ชื่ออัน นี่เองที่ร่วมกับพรรคพวกทั้งหมด 7 คนออกมาร้องเรียนและแฉพฤติกรรมของพระนิพนธ์ ในเวลาต่อมา ทั้งนี้ เนื่องจาก "อัน" เป็นคนที่วางตัวเป็นนางพญาเคียงข้างสมีนิพนธ์ มีอารมณ์เกลี้ยวกลาดและขี้หึงกับญาติโยมผู้หญิงที่เข้าใกล้สมีนิพนธ์
คนที่ 2 มีชื่อเล่นว่า "นิด" เป็นอดีตพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม จะทำหน้าที่ดูแลสุขภาพพระนิพนธ์ยามเจ็บป่วย จะดูแลงานก่อสร้างสร้างๆ ภายในวัด รวมทั้งจะดูแลด้านการเงิน และหลังจากมีข่าวฉาวเกี่ยวกับพระนิพนธ์ สึกหลบหนีออกไป "นิด" ก็ได้หายไปจากวัดไปกับสมีนิพนธ์ ด้วย โดย "นิด" จะเป็นนางรำในพิธีบวงสรวงต่างๆ ที่จัดขึ้นในวัดบางครั้ง
คนที่ 3 มีชื่อเล่นว่า "จิต" โดย "จิต" เป็นลูกของแม่ชีคนหนึ่งที่อยู่ในวัด จิต จะทำหน้าที่ประสานงานต่าง ๆ ภายในวัดและดูแลห้องพักของสมีนิพนธ์ ไม่เว้นแม้แต่การเอากระโถนไปทิ้งทุกวัน
คนที่ 4 มีชื่อเล่นว่า "บี" จะทำหน้าที่เป็นครูผู้สอนการอบรมปฎิบัติธรรม สอนธรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์กิจกรรมงานบุญต่างๆ ของวัด แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา บี ได้ออกมาปฎิเสธว่า ไม่ได้เป็นเมียสมีนิพนธ์ ขณะที่ บี ขณะนี้กำลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดียักยอกทรัพย์รถยนต์ของศิษย์วัดป่าปฐมชัยด้วยกัน โดยถูกแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาเพื่อดำเนินคดีอยู่โดยคาดว่าจะเข้าจับกุมตัวในเร็วๆ นี้
คนที่ 5 มีชื่อเล่นว่า "หนึ่ง" จะทำหน้าที่ดูแลร้านกาแฟและทั่วไปภายในวัด นอกจากนี้ "หนึ่ง" ยังเป็นลูกสาวของพระองค์หนึ่งที่บวชอยู่ภายในวัดแห่งนี้และมีแม่ซึ่งบวชเป็นแม่ชีอยู่ในวัดเดียวกันนี้เช่นกัน ปัจจุบันหลังจากมีข่าวว่าพระนิพนธ์ หรือสมีนิพนธ์ แอบสึกหลบหนีออกไปจากวัด "หนึ่ง" ก็ได้หายไปกับสมีนิพนธ์ นี้ด้วย โดย "หนึ่ง" จะติดตาม สมีนิพนธ์ มาตั้งแต่ครั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับพ่อ แม่ ที่บวชเป็นพระและชีอยู่ในวัดนี้
คนที่ 6 มีชื่อเล่นว่า "ทิป" จะทำหน้าที่ดูแลด้านการจัดทัวร์พาผู้ใจบุญทั้งหลายเดินทางไปแสวงบุญตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะต่างประเทศ เช่น ประเทศอินเดีย โดย "ทิป" จะทำหน้าที่นี้
คนที่ 7 เป็นภรรยาคนสุดท้ายที่เพิ่งถูกเปิดเผยออกมาใหม่มีชื่อเล่นว่า "กระปุก" โดย "กระปุก" จะทำหน้าที่หาเหยื่อเข้าวัด และด้วยความสวยกว่า สาวกว่า ใหม่กว่า และเป็นครอบครัวนักธุรกิจด้านยานยนต์ ทำให้ได้รับการยอมรับมากกว่า โดย "กระปุก" สามารถถอด "อัน" ภรรยาคนแรกของพระนิพนธ์ ออกจากงานที่รับผิดชอบอยู่ได้ และหาก "อัน" จะมามีเรื่องกับ "กระปุก" ก็จะถูกสมีนิพนธ์ ทำร้ายร่างกาย จนทำให้ "อัน" ทนไม่ไหวจึงได้ออกมารวมตัวกับกลุ่มผู้ร้องเรียนทั้ง 7 คนเปิดโปงพฤติกรรมทั้งหมดของสมีนิพนธ์ จนกลายมาเป็นเรื่องฉาวในขณะนี้
จากการตรวจสอบข้อมูลยังพบอีกว่านอกจากเมียทั้ง 7 คนดังกล่าวแล้ว พระนิพนธ์ หรือสมีนิพนธ์ ยังแอบมีกิ๊กที่มาหลงเสน่ห์อีก 5 คน แต่ยังไม่ปรากฎว่าทั้ง 5 คนนั้นเป็นใครมาจากไหน อย่างไรก็ตาม จากการตามคุ้ยหาข้อมูลพบว่า สมีนิพนธ์ น่าจะมีเมียมากกว่านี้เนื่องจากเป็นพระที่เจ้าชู้อยู่พอสมควร แม้กระทั่งคนแก่ป้าวัย 60 ยังเคยถูกสมีนิพนธ์ พยายามล่วงละเมิดทางเพศด้วยกันจับมือและใช้มีตีที่ก้นเลย
แต่พระนิพนธ์ หรือสมีนิพนธ์ ตอนนี้ได้หลบหนีไปแล้วและไม่ทราบว่าไปกบดานอยู่ที่ไหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี