แม้รัฐบาล คสช.จะประกาศห้ามขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด ตามมาตรา 39 ของคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล กำหนดให้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาคู่ละ 80 บาทเท่านั้น ซึ่งหากพบว่าผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนดต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ผู้บริโภค หรือนักเสี่ยงโชคบางส่วนก็ยังพบปัญหาราคาสลากกินแบ่งแพงอยู่ดี ถ้าพูดถึงปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นในยุครัฐบาล คสช.นี้ และการแก้ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงก็ไม่ใช่เพิ่งมีขึ้นในรัฐบาล คสช.นี้อีกเช่นเดียวกัน แต่ปัญหานี้มีมาทุกยุคทุกรัฐบาลทั้งระบอบประชาธิปไตย และรัฐประหาร เนื่องจากต้นเหตุของปัญหา คือ ตัวผลประโยชน์
ก่อนหน้านี้รัฐบาล คสช.ชุดนี้ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้มีมาตรการออกเป็นคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล กำหนดให้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาคู่ละ 80 บาทเท่านั้น พร้อมกับออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมกันอย่างจริงจังกับผู้ค้าสลากทุกรายที่ขายเกินราคา ตอนแรกๆ ก็มีการจับกุมกันจนผู้ค้าสลากส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อยที่เดินขาย ปั่นจักรยานและขับรถจักรยานยนต์ขายตามริมถนน ตามหมู่บ้าน ตามตลาสด หรือแม้กระทั่งหน้าร้านสะดวกซื้อเกิดเป็นโรคผวาไปตามๆ กัน ทุกคนต่างขายตามราคาที่รัฐบาลกำหนดไว้เป๊ะไม่มีผิดเพี้ยนตั้งแต่ระดับเถาปั๊ว ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เนื่องจากกลัวถูกจับ-ปรับ แต่พอผ่านไปได้ประมาณ 6-7 เดือนยังไม่ทันถึงปี การขายสลากเกินราคาก็เริ่มโผล่ขึ้นมาให้เห็นที่ละรายๆ เมื่อสอบถามผู้ค้าสลากรายย่อยก็บอกว่าที่ขายแพงเพราะมันแพงมาตั้งแต่ต้นทางยี่ปั๊ว ซาปั๊ว แต่ถ้าจะให้ขายตามราคาที่รัฐบาลกำหนดพวกตนก็อยู่ไม่ได้ เพราะรับมาใบละ 77 บาท บางรายรับมาใบละ 79 บาท ขณะที่บางรายรับมาใบละ 79.50 บาทแล้วจะให้ขาย 80 บาทกำไรแค่ 1 บาทซื้อข้าวเหนี่ยวถุงเดียวราคา 5 บาทยังไม่ได้เลย
ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมฐานค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ค้าสลากรายย่อยที่เดินขาย ปั่นจักรยานขาย ขับรถจักรยานยนต์ขายกันทั้งนั้น ในระดับยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ยังไม่เคยปรากฎให้เห็น เมื่อถามว่าแล้วทำไมระดับยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ถึงได้รอดเงบื้อมมือของกฎหมายไปได้ คำตอบจากผู้ค้าสลากรายย่อยที่บอกมาก็คือ "ผลประโยชน์เขาแบ่งกันลงตัว" เมื่อเราพยายามถามผู้ค้าสลากกินแบ่งรายย่อยเหล่านี้ว่า "บอกได้ไหมว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊วไหนบ้างที่ขายแพงจะได้แจ้งให้ตำรวจไปจับกุม" คำตอบจากผู้ค้าสลากรายย่อยก็คือ "บอกไม่ได้ ถ้าบอกไปเขาจะไม่แบ่งขายสลากให้อีก แล้วเราจะไปทำอะไรกิน นอกจากนี้บางรายอาจโดนทำร้ายร่างกายด้วยฐานปากโป้งไปแจ้งตำรวจ"
แล้วอย่างนี้จะแก้ปัญหาขายสลกกินแบ่งเกินราคาได้อย่างไร ???
พอมาปีนี้ ล่าสุดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ได้มีมติเห็นชอบที่จะนำสลากจำนวน 20 ล้านฉบับมารวมชุดให้เหลือจำนวน 4 ล้านชุด ออกมาขายแบบใบเดียวในราคาเท่ากับสลากใบเดียวคือที่ราคาชุด 5 ใบ 400 บาท โดยคาดว่าจะสามารถจัดจำหน่ายสลากรวมชุดได้เร็วที่สุดภายใน 16 ก.ค.61 นี้
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้านี้ว่า สำนักงานสลากฯ ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมชุด ที่มีการแสดงความเห็นผ่านระบบออนไลน์ และจดหมายเปิดผนึก พบว่าประมาณร้อยละ 70 สนับสนุนให้มีการรวมชุดจำหน่าย ซึ่งจะมีการสรุปรายละเอียดเสนอให้คณะกรรมการสลากฯ พิจารณาภายในเดือนมิ.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถจัดจำหน่ายสลากรวมชุดได้เร็วที่สุดภายในวันที่ 16 ก.ค.นี้ โดยจะนำสลากจำนวน 20 ล้านฉบับ มารวมชุด คิดเป็น 4 ล้านชุด ส่วนอีก 60 ล้านฉบับจะขายแบบใบเดี่ยวเหมือนเดิม โดยสลากรวมชุดจะขายในราคาเดียวกับใบเดียว คือที่ราคาชุด 5 ใบ 400 บาท
ส่วนประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุปก็คือ การขายประจำจุดหรือขายหาบเร่เหมือนเดิม โดยสำนักงานสลากฯ ต้องการให้เป็นการขายแบบประจำจุดเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ง่าย แต่หากในการรับฟังความคิดเห็นได้ข้อสรุปว่าให้รายย่อยสามารถจำหน่ายสลากรวมชุดได้ก็ไม่ต้องเรียกผู้ขายมาทำสัญญาใหม่ เพราะสัญญาเดิมอนุญาตให้รายย่อยสามารถจำหน่ายสลากรวมชุดได้อยู่แล้ว แต่หากพบว่ายังมีการขายเกินราคาก็สามารถตัดโควต้าได้ทันที ซึ่งปัจจุบันได้มีการตัดโควต้าสำหรับผู้ทำผิดไปแล้ว 5,000 ราย
จากประเด็นดังกล่าวของกองสลากฯ ขณะนี้ได้เกิดมีเสี่ยงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า "รัฐจะทำได้จริงหรือไม่?"
"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ได้ลงพื้นที่สำรวจสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้จากผู้ค้าสลากรายใหญ่และรายย่อยหลายรายทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดต่างเห็นว่าการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการดังกล่าวของรัฐบาลเป็นการ "แก้ไม่ถูกจัด" เพราะตราบใดที่กองสลากยังเปิดขายสลากแบบเสรีใครก็ซื้อได้ ไม่มีวันที่จะแก้ปัญหาขายแพงเกินราคาได้ แม้ว่ารัฐบาลจะงัดมาตรการออกมาแก้ไขอย่างไรก็ตาม นายทุนก็ยังคงครอบครองการตลาดยังคงเป็นเสือนอนกินอยู่ดี ซึ่งทั้งหมดมันอยู่ที่ภาครัฐจะเอาจริงแค่ไหนในการแก้ปัญหาหรือจะเอาจริงเพียงแค่เล่นละครตบตา ไม่กล้าแก้ต้นตอของปัญหาที่แท้จริง เพียงมาแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น
นางทองล้วน ศรีทุมสุข หรือแม่เป็ด อายุ 58 ปี มีแผงขายลอตเตอรี่ใหญ่สุดในพื้นที่ จ.เลย ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายสลากกินแบ่งมาเกือบ 30 ปี ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีแผงขายอยู่ในตลาดเทศบาลเมืองเลย 5 แผงใหญ่ด้่วย โดยขายประมาณ 1,500 เล่มต่องวด พร้อมกับเล่าถึงกรณีที่กองสลากจะรวมหวยชุดขายเองในราคาเดียวกับหวยใบ 5 ใบ 400 บาทว่า ถ้าพูดถึงแนวคิดตนเห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะทุกวันผู้ซื้อหวยนิยมซื้อเลขชุดเป็นส่วนใหญ่ เลขเป็นใบไม่ค่อยนิยมกัน แม้จะราคาแพงถ้าตัวเลขถูกใจราคาเท่าไรก็ซื้อ
"ถ้ารัฐจะรวมหวยชุดเองก็ขายได้ แต่มันจะพอความต้องการหรือไม่ และไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาหวยราคาแพงได้ แต่คิดว่าปัญหาคงเหมือนเดิม เท่าที่รู้รัฐจะทำแค่รวมชุด 5 ใบ แต่ที่ยี่ปั๊วมีจะรวมได้ไปถึง 10 ใบ การแก้ปัญหาราคาแพงช่วงแรกอาจได้ แต่หวยชุดรัฐหมด หรือเลขไม่สวย ราคาถูกเขาก็ไม่ซื้ออยู่ดี แต่ถ้าเลขของยี่ปั๊วสวยมีความต้องการของตลาด ราคาจะแพงเท่าไรผู้ซื้อเขาก็ยอมควักกระเป๋าซื้อ ราคาไม่เกี่ยงอย่างแน่นอน ตราบใดรัฐยังคงขายแบบเสรียังไงก็แก้ไม่ได้"
นางทองล้วน กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้กองสลากให้เปิดจองเสรี ทั้งทางธนาคาร ไปรษณีย์ มีแต่ครู ข้าราชการ ชาวบ้านรับจ้างนายทุนแห่จอง พอได้มาก็เอาไปขายให้นายทุนหรือยี่ปั๊วต่อ ยี่ปั๊วก็เอามารวมเป็นหวยชุดขายเหมือนเดิม แล้วเอามาขายให้กับผู้ค้าสลากจริงๆ แม้ตนจะขายหวยมานานเป็นอาชีพหลักยังได้โควต้าเพียง 5 เล่ม ตนต้องไปซื้อกับยี่ปั๊วกว่า 1,000 เล่มต่องวด ถ้ารัฐหรือกองสลากจะแก้ปัญหาจริงๆ ต้องขายตรงให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่มีอาชีพขายสลากจริงๆ จึงจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ ต่อให้รวมชุดกี่ชุดเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้อยู่ เสือนอนกินก็ยังเป็นเสือนอนกินอยู่ดี
ด้าน นายธงชัย อติโรจน์ อายุ 55 ปี อาชีพเดินเร่ขายลอตเตอรี่ กล่าวว่า การรวมชุดที่รัฐจะรวมให้มาขายนั้นตนคาดว่าพอจะแก้ปัญหาได้ในเบื้องต้นเท่านั้นเอง และรัฐต้องกำหนดราคาขายเท่ากับหวยใบเดียว แต่ต้องรับกับกองสลากอย่างเดียวเท่านั้น ถ้ายังคงรับกับยี่ปั๊วเหมือนปัจจุบันไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ปัญหามีว่ารัฐสามารถแจกจ่ายให้ทั่วถึงกับผู้ค้าลอตเตอรี่จริงๆ หรือไม่
"ทุกวันนี้มีแต่นายทุนสั่งจอง คนขายจริงๆได้ไม่กี่เล่ม ส่วนเรื่องราคาหวยชุดไม่เกี่ยวเลย ถูกแพงเขาก็ซื้อเพราะทุกวัน วันหวยออกสื่อต่างออกข่าวจังหวัดนั้นจังหวัดนี้มีคนถูกหวย 20 ล้าน 30 ล้าน คนซื้อจึงนิยมซื้อหวยชุดกันถูกแล้วรวยไปเลย หากไม่ถูกก็ต้องจนต่อไป" นายธงชัย กล่าว
น.ส.กันยา เจริญผล อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า การที่กองสลากฯจะออกหวยชุดรวม 5 ใบขาย 400 บาทนั้นถ้ารัฐบาลคุมราคาได้ก็เป็นเรื่องที่ดีกับประชาชน แต่ตนมองว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่มีทางได้ผล เพราะตอนนี้ที่ซื้อขายกันอยู่ราคาใบละ 110 บาท 2 ใบก็ 220 บาท อย่างที่เห็นมีการตั้งแผงทั่วไป หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการปั่นจักยาน หรือเดินขาย ไม่มีทางควบคุมราคาได้ แต่เราก็ต้องเห็นใจเขา เพราะว่าเขารับลอตเตอรี่มาขายต่อกันหลายทอดๆ ซึ่งในแต่ละช่วงซื้อมาเมื่อมีการขายต่อราคาก็จะต้องถูกบวกเพิ่มขึ้น และหากคนที่ปั่นจักยานหรือเดินเร่ขายรับมาเป็นทอดสุดท้ายก่อนถึงคนซื้อในราคาใบละ 77 บาทก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมาขายเราในราคาแค่ 80 บาท เพราะต้นทางก็รู้มาว่าแต่ละทอดบวกเพิ่มใบละ 5 ใบแล้ว ขณะที่พ่อค้า แม่ค้าที่มาขายเราต้องลำบากเดินเร่ ปั่นจักรยานเร่ขาย เพราะฉะนั้นราคาใบละ 80 บาทเป็นไปไม่ได้สำหรับหวยรวมชุด
"รัฐบาลจะเอาจริงต้องประกาศเป็นนโยบายให้ตั้งเป็นแผงใหญ่ 1 จุด ตั้งเป็นจุดขายในที่ชุมนุมคน อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สำนักงานเขต สถานที่ราชการต่าง เป็นต้น และให้มีตำรวจมายืนเฝ้าประจำอยู่ทุกจุดที่ให้เอาหวยชุดมาขายด้วย ไม่งั้น!! ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก" น.ส.กันยา กล่าว
นายต่อ (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 40 ปีชาวจังหวัดนนทบุรี พูดอย่างมีอารมณ์ว่า "ลุงตู่ ไม่เก่งจริง ไม่มีทางแก้ปัญหานี้ได้หรอกและเขาไม่ใช่นักธุรกิจไม่รู้วิธีที่จะจัดการปัญหานี้ได้" ที่เป็นอย่างทุกวันนี้เขาที่เป็นต้นทางคนแรกที่รับลอตเตอรี่มาจากรัฐบาลแต่ละงวดจำนวนหลักล้านใบ ถ้าพวกนี้มาปล่อยให้ยี่ปั้วบวกกำไรใบละ1 บาทก็ได้กำไรสบายๆ เป็นหลักล้าน หลักสิบล้านบาทแล้ว แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่ ...บวกเพิ่มละ 5 บาทเป็นอย่างน้อย และยี่ปั้ว ซาปั้ว ก็มาบวกเพิ่มอย่างนี้คิดดูว่าราคาต้นทุนก่อนจะมาถึงปลายทางเท่าไหร่แล้ว ดังนั้น ถ้ารัฐบาลเอาจริงต้องไปจัดการตั้งแต่ต้นทางทอดแรกที่รับมาจากรัฐบาล ไม่อย่างนั้นกว่าจะมาถึงเราคนซื้ออย่างต่ำก็ชุดละ 600 บาทแล้ว
"อย่างที่รู้คนที่รับลอตเตอรี่ทอดแรกจากรัฐบาลก็เป็นคนมีสีเกี่ยวข้องทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผมไม่เชื่อหรอกว่ารัฐบาลจะกล้าจัดการจริง ไม่มีทางเลยที่จะแก้ปัญหาหวยขายแก้ราคา และถ้าจะมาจัดการเอาเฉพาะกับคนขายทอดสุดท้ายก็คงไม่ยุติธรรมอีก" นายต่อ พูดอย่างเซ็งๆ
ด้านนางลี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรีเช่นกัน กล่าวว่า นานๆ ครั้งได้เลขเด็ดๆ ไปร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญใหญ่ หรือญาติที่อยู่ต่างจังหวัดได้เลขดังๆก็จะโทร.มาบอก ตัวเองถึงจะจริงจังซื้อหวยชุด และซื้อราคาแพงก็ต้องยอม แม้ว่าหลายครั้งไม่ได้ถูกรางวัลก็ตาม แต่ก็ยังอยากซื้ออยู่ดี เพราะมีความสุขที่ได้ลุ้น ได้อารมณ์คล้ายเล่นการพนันที่ไม่ผิดกฎหมายและถ้าซื้ออย่างมีสติก็ไม่มีทางหมดตัวแน่ๆ(หัวเราะ)
"ถ้ารัฐบาลจะแก้ปัญหาคุมราคาลอตเตอรี่ได้จริงก็จะเป็นเรื่องดี ถือว่าเป็นเครดิตอย่างหนึ่งของรัฐบาล เพราะเป็นความสุขของชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำที่พอจะได้ลุ้นโชคลาภ แต่ไม่ได้หวังอะไรว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาได้จริง เพราะเห็นพูดป่าวๆมานานแล้วนะ" นางลี กล่าว
ทั้งหมดนั้นคือความเห็นของผู้ค้าสลากกินแบงรัฐบาลและนักเสี่ยงโชค นอกจากนี้จากการตระเวนสอบถามประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นนักเสี่ยงโชคด้วยกันทั้งสิ้นต่างมีความเห็นตรงกันว่า "ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้" พร้อมกับให้ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" เราจับตาดูหลังจากมีผลบังคับใช้ไปแล้ว 6 เดือนผ่านไป สลากกินแบ่งรัฐบาลก็จะกลับมาแพงเหมือนเดิม