วันที่ 7 กรกฎาคม รศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” อธิบายกรณีอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ส่วนใหญ่ต่างสวมเสื้อชูชีพอยู่ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
“เพื่อนธรณ์หลายคนสงสัย ทำไมใส่เสื้อชูชีพแล้วยังคงเสียชีวิต? ผมขออธิบายดังนี้ครับ
เวลาเราขึ้นเครื่องบิน ตอนสาวๆ อธิบายเรื่องเสื้อชูชีพ จะพูดเสมอว่า อย่าดึงเสื้อให้พองตอนอยู่ในเครื่องบิน ให้ดึงตอนก่อนโดดออกจากเครื่องเท่านั้น
นั่นคือคำตอบ เพราะถ้าเสื้อชูชีพพองตั้งแต่อยู่ในเครื่อง อาจดึงเราลอยขึ้นไปติดอยู่ในเครื่อง จะมุดออกมาไม่ได้
ชูชีพของเครื่องบินเลือกเวลาดึงให้พองได้ แต่ชูชีพของเรือเลือกไม่ได้
คำตอบง่ายๆ คือราคาถูกกว่าและชูชีพในเรือเอาไว้ใช้สำหรับดำน้ำดูปะการังด้วย
เสื้อชูชีพที่เราใช้ตามเรือท่องเที่ยว ยังเป็นแบบเสื้อพยุงตัว ไม่ใช่เสื้อชูชีพแท้ ที่ออกแบบไว้ให้นอนหงายตลอดเวลา
แต่ปรกติแล้วเรือท่องเที่ยวจะใช้เสื้อชูชีพแบบนี้ เพราะนำไปใช้ในการดำน้ำดูปะการังได้สะดวก
เรือท่องเที่ยวดำน้ำตื้นที่ไหนก็เหมือนกันครับ ไม่ใช่เฉพาะเรือไทย
อย่างไรก็ตาม การใส่เสื้อชูชีพอยู่ในเรือ บางครั้งจึงไม่การันตีเสมอไปว่าจะรอด
เพราะเรือพลิกคว่ำ เสื้อดึงให้เราลอยขึ้นไปติดอยู่ในเรือ ดำน้ำมุดออกไม่ได้
อ้าว...แล้วอย่างนี้จะใส่ทำไม ?
คำตอบคือถ้าไม่ใส่ โอกาสจมน้ำมีมากกว่าครับ เขาจึงแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเมื่อลงเรือ
เสื้อชูชีพยังไม่ได้ใช้เฉพาะเรือล่ม คุณอาจพลัดตกน้ำโดยที่เรือไม่ล่ม เรื่องนี้เสื้อชูชีพช่วยได้แน่นอน
เพราะฉะนั้น ยังไงผมก็ยังแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่ลงเรือ และขอให้ใส่ให้ถูกวิธี เลือกชูชีพที่สมบูรณ์ เหมาะกับขนาดตัว ติดสายให้ครบถ้วน
หากมีเด็กๆ ไปด้วย ตัวเล็ก เราต้องเตรียมเสื้อชูชีพไปเอง
ที่สำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราควรอยู่ในที่ซึ่งออกจากเรือง่าย
อย่าอยู่ในที่อับหรือมีสิ่งกีดขวางที่ทำให้ออกจากเรือไม่ได้
เรืออาจพลิกคว่ำอย่างรวดเร็ว จึงต้องระมัดระวังและดูทางหนีทีไล่ให้ดี
สำคัญสุดๆ อีกประการคืออย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
อย่ากรีดร้องจนตัวเกร็ง ทำอะไรไม่ถูก กอดคนข้างๆ ติดอยู่ในเรือ ฯลฯ
ให้ท่องไว้ เราต้องคุมสติ ต้องรอด ต้องคุมสติ ต้องรอด วนไปมาอย่างนี้ อย่าคิดมาก
สำหรับคุณที่คิดว่า ใส่เสื้อชูชีพนอกเรือน่าจะปลอดภัยกว่า ผมคงต้องบอกว่า แล้วแต่คิดครับ
คนเราต่างกัน ความสามารถแตกต่าง คำแนะนำที่ใช้สำหรับคนทั่วไปคือใส่เสื้อชูชีพ แต่อยู่ในที่ออกจากเรือง่าย ดูทางหนีทีไล่ไว้ให้ดี
นอกจากนี้ แม้จะใส่เสื้อชูชีพ ลอยคอกลางทะเล ก็ยังอาจมีอันตราย โดยเฉพาะถ้ามีคลื่นลมรุนแรงหรือเป็นเวลากลางคืน
เราต้องคุมสติให้อยู่ อย่าตระหนกตกใจจนพานิค การอยู่กับคนอื่น คุยกันเรื่อยๆ จะช่วยลดปัญหาเรื่องนี้
คิดในทางที่ดี ทะเลไทยไม่ใหญ่หรอกครับ หากเกิดอุบัติเหตุตามเส้นทางที่เรือวิ่งทั่วไป ไม่กี่ชั่วโมงก็ช่วยได้ หรือเราก็ลอยอยู่แถวนั้น เดี๋ยวกระแสน้ำก็พัดไปเจอเกาะ (เหมือนกรณีนี้ที่มีคนลอยไปถึงเกาะไข่)
เรือประมงในทะเลก็มีเยอะ เรือท่องเที่ยวก็เพียบ ทีมค้นหาก็ชำนาญ
ไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวก็มีคนมาเจอ อีกแป๊บเดียว
สัตว์อันตรายในทะเลแทบไม่มี ฉลามใกล้สูญพันธุ์แล้ว ถึงจะมี ก็ไม่ทำอะไรคุณหรอก
หากคุมสติได้สุดๆ อาจติดน้ำขวดมาด้วย นกหวีด แท่งเรืองแสงหรือไฟฉายเล็กๆ แม้แต่โทรศัพท์
ของพวกนี้อยู่ในถุงโอเชี่ยน กันน้ำได้ เวลาออกทริป ทีมงานเราจะมีถุงแบบนี้เสมอ
นอกจากนี้ เวลาไปทะเล ผมมักใส่เสื้อสีสดใส ไม่ค่อยใส่สีดำ
สมัยธราธรรธเด็กๆ ผมจะบังคับให้ลูกใส่เสื้อสีเด่นมองเห็นแต่ไกลเสมอ
ขาสั้นเหมาะกับการไปทะเล กางเกงยีนส์ไม่เหมาะ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ถอดชุดที่รุ่มร่ามไปเสีย รวมทั้งรองเท้า
น้ำทะเลไทยอุณหภูมิ 28 องศา อุ่นสบาย ไม่ต้องกลัวหนาวตายเหมือนในหนัง
ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาหลายครั้ง และยินดีเขียนต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดประโยชน์กับพวกเรา
คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี