‘ทุนเทา’ เป็นคำที่ได้ยินกันหนาหูมากขึ้น ในห้วงเวลาที่ประเทศไทย มีนโยบายฟรีวีซ่า และอีกหลายนโยบาย เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว เข้ามาใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับมีคนร้ายที่แอบแฝงเข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว

ปัญหาที่ตามมาด้วย จนรองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ยังยอมรับเอง ว่าเรื่องนี้มีราคาที่ต้องจ่าย

นั่นคือปัญหาการก่ออาชญากรรม เพราะขาดการคัดกรองคุณภาพของนักท่องเที่ยว อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากพอ จึงนำพากลุ่มคนที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย หรือก่อคดีโดยใช้ประเทศไทย เป็นฐาน หรือการใช้ตัวแทน ที่เรียกกันว่า ‘นอมินี’

กล่าวเฉพาะถึงกลุ่มชาวจีน ที่เข้ามาในประเทศ คำว่า ‘จีนเทา’ หรือชาวจีนที่แฝงตัวเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ

การเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงสื่อสารมวลชน กลุ่มทุน หรือบริษัทจีน ที่เข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐ หรือกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ คือกรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง พังถล่มลงมา มีการปรับแบบ ใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ตามมาด้วยการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนร่วมของบริษัทจีน การใช้บริษัทนอมินีคนไทย โดยเรื่องนี้ยังเป็นมหากาพย์ที่จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป

ส่วนอีกเคสที่น่าสนใจ เมื่อไม่นานนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดปฏิบัติการ CIB Nominee sweep ep.3 ทลายนอมินีจีน ฮุบที่ดินระยอง สร้างคอนโดฯ หรู 2 พันล้าน มีชาวจีนดำเนินการครบวงจร

ชาวจีนทั้งเป็นผู้บริหารไปจนถึงคนงานก่อสร้าง ทั้งหมดล้วนเป็นคนจีน โดยตรวจค้น 3 จุด ยึดเอกสารหลักฐานต่างๆ จำนวนมาก ตรวจสอบพบการจดทะเบียนนิติบุคคลที่ไม่ใช่นายทุนตัวจริง กว้านซื้อที่ดิน จ.ระยอง และชลบุรี รวม 72 ไร่ สร้างบริษัท สร้างที่พักอาศัยลักษณะอาคารชุด ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

ปฏิบัติการครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความย่อหย่อนของกระบวนการทางกฎหมายอย่างชัดเจน

ผู้บังคับใช้กฎหมายบางส่วนที่ไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หรือรู้เห็นเป็นใจให้กับทุนจีน ที่เข้ามาฮุบที่ดินซึ่งกฎหมายไทยไม่อาจให้บุคคลต่างด้าวครอบครองได้เกินสัดส่วนที่ถูกกำหนดตามกฎหมายที่ดิน

แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจไทย

ธุรกิจที่ควรเป็นของคนไทย เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมด้วยทุนมหาศาล และยังสามารถใช้เงินปิดปากเจ้าหน้าที่รัฐ ให้แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นกับเรื่องที่กระทบต่อคนไทยทั้งชาติ การเสื่อมเสียความเชื่อมั่นในระบบกฎหมาย ล้วนทำให้เกิดความรู้สึกหมดศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ความยุติธรรมโปร่งใสในระบบราชการไทย ที่สำคัญคือภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกด้วย

นับว่ายังโชคดีที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายบางหน่วย ยังคงยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จึงยังพอระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติไว้ได้บ้าง

ก็ต้องให้กำลังใจกับมดงานเหล่านี้ รวมทั้งผู้มีอำนาจต้องมองเห็นปัญหา และเร่งแก้ไข หรือเราต้องการจะเห็นสภาพบ้านเมืองในอนาคตที่ไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลานไทยอีกต่อไปแล้ว

ทีมข่าวแนวหน้า