ผู้ต้องหาในคดีทุจริตงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หรือ "คดีเงินทอนวัด" ตอนนี้ยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่อีก 4 ราย ประกอบด้วย
1.อดีตพระพรหมเมธี หรือ พระจำนงค์ ธมฺมจารี อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาหนีหมายจับความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
โดยช่วงแรกพระพรหมเมธี ได้หลบหนีไปที่ สปป.ลาว จากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ประสานตำรวจลาวให้จับตัว แต่พระพรหมเมธี เกิดไหวตัวทัน จึงเดินทางไปยังกัมพูชา แล้วขึ้นเครื่องบินไปลงยังสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เมื่อคืนที่วันที่ 2 มิ.ย.2561 จากการตรวจสอบข้อมูลของตำรวจชุดสืบสวนจับกุมพบว่า พระพรหมเมธี เดินทางเข้าประเทศเยอรมนี โดยมีเป้าหมายคือ สำนักงานผู้อพยพและผู้ลี้ภัย ในเยอรมนี เพื่อจะขอยื่นเรื่องเป็นผู้ลี้ภัย
ส่วนสาเหตุที่พระพรหมเมธี ต้องหลบหนีและต้องขอสิทธิ์เป็นผู้ลี้ภัยให้ได้ เนื่องจากรู้ตัวว่ากระทำผิดร้ายแรง ไม่ใช่แค่คดีทุจริตเงินทอนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเสื่อมเสียที่ร้ายแรง โดยเฉพาะมีสีกาใกล้ชิดและอยู่กินเป็นภรรยา นอกจากนี้ยังให้สีกาคนนี้ออกงานใหญ่ร่วมกันเสมอๆ ด้วย ไม่เว้นงานพิธีสำคัญ ทำให้รู้ตัวว่าจะต้องโดนลงโทษหนัก เพราะทำเสื่อมเสียอย่างรุนแรง
2.น.ส.ประนอม คงพิกุล หรือ เจ๊นอม อดีตรอง ผอ.พศ.ที่พบข้อมูลว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วก่อนที่กองปราบปรามจะเข้าจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา สำหรับ น.ส.ประนอม คงพิกุล เกิดเมื่อ 30 ส.ค.2500 เรียนจบครุศาสตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยี วิทยาลัยครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ และครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรอง ผอ.พศ.เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา หลังจากถูกสั่งย้ายไปสังกัดสำนักงาน กพ.เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอดวัด
3.นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.ผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังกรณีเงินทอนวัดทั้งหมด ที่พบว่าหลบหนีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างประสานเพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
สำหรับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เกิดวันที่ 12 พ.ย.2496 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จบการศึกษาปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยบูรพา โดยเข้ารับราชการ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2531 ในตำแหน่งวิศวกรโยธา ระดับ 3 จากนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวิศวกรโยธา 8 วช.กองพุทธศาสนสถาน ปี 2545 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปี 2546 และเป็นรอง ผอ.พศ.ระดับ 9 ในปี 2550 จนได้รับการเสนอชื่อจาก พศ.เสนอแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ.และ ครม.ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีมติเห็นชอบให้เป็น ผอ.พศ.เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2553
นายนพรัตน์ มีผลงานผลักดันดูแลหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนากิจการคณะสงฆ์ชายแดนใต้ ประจำปีงบประมาณ 2553 ทั้งเรื่องของการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อบรมพระธรรมทูต โครงการวัดช่วยวัด เพื่อกระตุ้นให้วัดที่มีศักยภาพให้การช่วยเหลือ ดูแลวัดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โครงการส่งเสริมความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การอุดหนุนการส่งเสริมการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังเป็นที่กล่าวขานว่า มีสายสัมพันธ์อันดีกับวัดพระธรรมกาย เคยเป็นเลขานุการวัดพระธรรมกายสนับสนุนการจัดงานพิธีบุญสารพัดที่ทางวัดจัดขึ้น อำนวยความสะดวกด้านพระพุทธศาสนาจนออกหน้าออกตา เคยร่วมขบวนทำบุญตักบาตร "ธุดงค์ธรรมชัย" ที่เคยจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ก่อนเกษียณราชการในเวลาต่อมา กระทั่งตำรวจสืบเชิงลึกจนพบว่ามีส่วนทุจริตงบอุดหนุนวัด และเป็นตัวการใหญ่โกงเงินทำนุบำรุงศาสนา ก่อนที่นายนพรัตน์ จะไหวตัวหลบหนีไปต่างประเทศอย่างลอยนวลในปัจจุบัน
และ 4.นายเจษฎา วงศ์เฆม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่ข้าราชการตอนนี้มีเพียงกระแสข่าวว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ยังไม่มีการควบคุมตัวมาดำเนินคดี
สำหรับนายเจษฎา วงศ์เมฆ ถือเป็นเซียนพระตัวยงคนหนึ่งมีสัมพันธ์กับหลายวัดในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งพระผู้ใหญ่ จึงเป็นช่องทางในการเข้าประสานงานได้และมีความน่าเชื่อถือ ในวงการเซียนพระเรียกกันว่า "ลุงทอง" นอกจากนี้ นายเจษฎา ยังเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในทีมนักการเมืองรายหนึ่งจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นได้หันมาสร้างพระเครื่องจำหน่ายในวงการ ปัจจุบันมีสุขภาพไม่สู้ดีนัก และมีรายงานว่าเจ้าตัวทราบเรื่องที่ถูกออกหมายจับแล้วและได้เดินทางออกจากบ้านในย่าน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ไปหลบยังสถานที่แห่งหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี