วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
เที่ยวขอพรไหว้สิ่งศักดิ์สิทธื์ 'วัดใต้น้ำ เมืองบาดาล' ช่วงไหนดีที่สุด

เที่ยวขอพรไหว้สิ่งศักดิ์สิทธื์ 'วัดใต้น้ำ เมืองบาดาล' ช่วงไหนดีที่สุด

วันพฤหัสบดี ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 17.47 น.
Tag : กาญจนบุรี ท่องเที่ยว เมืองบาดาล ล่องแพ วัดจมน้ำ วัดใต้น้ำ วัดวังก์วิเวการาม สังขละบุรี
  •  

หากพูดถึง "อำเภอสังขละบุรี" จังหวัดกาญจนบุรี หลายคนอาจกำลังนึกถึงสะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีอีกแห่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าอันสุดมหัศจรรย์ ที่ใครไปเที่ยวสะพานมอญแล้วไม่ควรพลาดที่จะแวะไปเที่ยวเลยคือ "วัดใต้น้ำ เมืองบาดาล" ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอยากเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศอันแสนบริสุทธิ์ จากความเป็นธรรมชาติของเมืองแห่งนี้ 

"วัดใต้น้ำ เมืองบาดาล" บางคนก็เรียกว่า "วัดจมน้ำ" หรือ "วัดวังก์วิเวการามเดิม" หลายคนอาจเคยไปเที่ยวมาแล้ว ขณะที่หลายคนคิดอยากจะไปแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปสักที เพราะวัดนี้หากใครได้ไปเที่ยวกราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธื์แล้ว ว่ากันว่า "จะสมดังปราถนา" ดังนั้น หากใครมีโอกาสก็รีบวางโปรแกรมไปเที่ยวเลย


"วัดใต้น้ำ เมืองบาดาล" ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งในประเทศไทยที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความอัศจรรย์ จนถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของประเทศไทย เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่า "วัดบ้านเก่า" หรือ "เมืองบาดาล" นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนเป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำหลังเขื่อนลดลงมากจะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ณ บริเวณสามประสบ 

 

 

ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่ประมาณตุลาคม-มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำ

วัดวังก์วิเวการามเดิมนี้สร้างขึ้นในปี 2498 เป็นวัดที่เกิดจากพลังความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่ออุตตมะ จุดที่ตั้งของวัดนี้อยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ คือ บริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี มารวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย

แม่น้ำบิคลี่ เกิดจากลำห้วย ทางทิศตะวันออกของลำน้ำแควน้อย เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาที่สำคัญ แม่น้ำมีความยาวประมาณ 70 กิโลเมตร บริเวณริมน้ำเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนชาวมอญ

แม่น้ำซองกาเลีย เป็นแม่น้ำจากทางตอนเหนือ คำว่าซองกาเลีย ภาษามอญหมายถึง "ฝั่งโน้น" เกิดจากแม่น้ำซองกาเลียในพม่าและห้วยโรคี่จากป่าทุ่งใหญ่นเรศวร แม่น้ำมีความยาวประมาณ 50 กิโลเมตร ท้องน้ำลาดชัน มีเกาะแก่งหลายแห่ง สองฝั่งลำน้ำเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์

 

 

แม่น้ำรันตี เป็นภาษากะเหรี่ยง หมายถึง "ยอดน้ำ" ต้นน้ำเกิดจากป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ความยาวแม่น้ำประมาณ 60 กิโลเมตร ท้องน้ำลาดชันไม่มาก สถาพป่าสองฝั่งแม่น้ำยังอุดมสมบูรณ์ มีหน้าผาหินปูนกว้างใหญ่หลายแห่ง บริเวณริมน้ำมีบ้านเรือนชาวลาว-พม่า

ในปี 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อเขื่อนเขาแหลม เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเมื่อเก็บกักน้ำหลังเขื่อนแล้ว ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า ในพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ หมู่บ้านชาวมอญอีกกว่า 1,000 หลังคาเรือน รวมถึงวัดวังก์วิเวการามเดิม ทางการจึงได้อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ออกจากบริเวณที่น้ำท่วม และย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันในนามของ "วัดใต้น้ำ" หรือ "เมืองบาดาล" ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแบบ Unseen Thailand

ปัจจุบันบริเวณสามประสบนี้กลายเป็นแอ่งน้ำใหญ่เพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝน จึงทำให้ไม่สามารถเห็นเป็นจุดบรรจบของสามสายน้ำได้ชัดเจนอีกแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบริเวณวัดใต้น้ำจะต้องนั่งเรือที่เช่าเหมาลำ เพื่อมาจุดที่เคยเป็นวัดวังก์วิเวการามเก่านี้เท่านั้น

 

 

ในช่วงหน้าแล้งช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม น้ำในแม่น้ำลดลงมากจนสามารถเดินเข้าไปในโบสถ์เก่าได้ สิ่งที่เหลือไว้ให้เห็นเป็นส่วนของกำแพงด้านนอกโบสถ์ ตัวโบสถ์เหลือเพียงผนัง ไม่มีส่วนหลังคาโบสถ์ให้เห็น ภายในผนังโบสถ์ยังมีให้เห็นลวดลายศิลปะแบบมอญหลงเหลือให้เห็น เป็นลายซุ้มองค์พระพุทธรูปอยู่ตามผนัง แต่เดิมมีทั้งหมด 2500 องค์ แต่ก็มีหลายส่วนที่หลุดหายออกไปเพราะโดนน้ำเซาะบ้าง หลุดหล่นลงมาแตกบ้าง ช่องประตูหน้าต่าง ยังเห็นร่องรอยกรอบของซุ้มประตูหน้าต่างเป็นลวดลายปราสาทยอดแหลม ด้านหน้าโบสถ์ยังเหลือส่วนที่เคยเป็นบันไดทางขึ้น 

ส่วนซุ้มประตูทางเข้าเขตอุโบสถ มีให้เห็นเพียงซุ้มประตูบางด้าน บริเวณด้านนอกโบสถ์จะเห็นเศียรพระหักวางไว้ ส่วนภายในมีรูปถ่ายหลวงพ่ออุตตมะให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา ซึ่งจะมีเด็กๆ ชาวมอญคอยเดินขายดอกไม้ และคอยเป็นไกด์ให้ด้วย

 

 

สำหรับในช่วงหน้าหนาว หรือหลังฤดูฝน การชมวัดใต้น้ำทำได้เพียงล่องเรือไปในบริเวณใกล้กับโบสถ์ ซึ่งอาจจะเห็นผนังโบสถ์บางส่วนโผล่พ้นน้ำ หรือในฤดูน้ำมากก็อาจไม่เห็นเลย จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำ หรือในฤดูน้ำมากก็อาจไม่เห็นเลย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคนจัดเป็นทริปดำน้ำเพื่อดูโบสถ์ใต้น้ำก็มี

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวความเป็นมาของวัดจมน้ำ ใครอยากไปสัมผัสก็ไม่ควรพลาด แต่ถ้าจะไปเที่ยวควรศึกษาดูก่อนว่าช่วงไหนน้ำขึ้นช่วงไหนน้ำลด เพื่อป้องกันไปเก้อ 

-ภาพ/ข้อมูลจาก ททท.กาญจนบุรี
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เตรียมประมูล\'ทุเรียนลอยน้ำ\'เจ้าแรกของโลกมีแค่ 2 ลูกรายได้มอบให้\'ตาปี๊ด\'เจ้าของนำไปต่อยอด เตรียมประมูล'ทุเรียนลอยน้ำ'เจ้าแรกของโลกมีแค่ 2 ลูกรายได้มอบให้'ตาปี๊ด'เจ้าของนำไปต่อยอด
  • ศรีสะเกษดัน \'ส้มโอบ้านตาด\' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จัดงานใหญ่ 14-16 พ.ค. ศรีสะเกษดัน 'ส้มโอบ้านตาด' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จัดงานใหญ่ 14-16 พ.ค.
  • ททท.ตรังจัดงาน \'แมมโมรี่เลิฟ\' ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก ททท.ตรังจัดงาน 'แมมโมรี่เลิฟ' ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก
  • วีทริปขานรับนโยบายรัฐท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หลังวิกฤตโควิด -19 วีทริปขานรับนโยบายรัฐท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หลังวิกฤตโควิด -19
  • ระยองชวนเที่ยวงานมหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านประมงเรือเล็กระยอง ระยองชวนเที่ยวงานมหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านประมงเรือเล็กระยอง
  • สุดว้าว!!เปิด 8 เมนูอาหารพาแลงแยงเรือไฟซิกเนเจอร์กลุ่มชาติพันธุ์ในงานไหลเรือไฟนครพนม สุดว้าว!!เปิด 8 เมนูอาหารพาแลงแยงเรือไฟซิกเนเจอร์กลุ่มชาติพันธุ์ในงานไหลเรือไฟนครพนม
  •  

Breaking News

สร้างมหานครแห่งความปลอดภัย ปรุงปรุงจุดเสี่ยงลดอุบัติเหตุทุกมิติ

'ไทยสร้างไทย'ออกแถลงการณ์! จี้นายกฯ ลาออก ปมคลิปเสียง ชี้กระทบอธิปไตย

ปลุกประชาธิปัตย์! ถึงเวลาต้องถอนตัว อย่าอยู่เป็นหุ้นส่วนเงียบ

พ่อถูกลูกวัย 15 ปียิง 8 นัดอาการพ้นขีดอันตราย! ปมเหตุแค้นถูกทำร้ายนานนับปี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved