ทั้งหน่วยงานรัฐและประชาชนเมืองนครปฐม อึ้งทั้งจังหวัดหลังพบ "ยายทองพูน" วัย 90 ปี นอนเดียวดายอยู่ริถนนเพชรเกษม กลางเมืองนครปฐม ไร้ลูกหลานดูแล นั่งยองๆงอเข่านับชั่วโมง ไปหาข้าวกินร้านสะดวกซื้อทุกวัน หลังเป็นข่าวพระสงฆ์วัดไผ่ล้อมระดมจับจอบลุยบูรณะที่อยู่สร้างที่พักใหม่ให้ "ไชยา สะสมทรัพย์" ส่งตัวแทนติดตั้งไฟฟ้าพร้อมดูแลค่าใช้จ่ายตลอดชีพ ขณะที่ทีมแพทย์ลงตรวจร่างกายพร้อมทำกายภาพให้ร่างกายยืดตัวให้ดีขึ้น ประชาชนที่ทราบข่าวทยอยเข้ามอบของและให้กำลังใจต่อเนื่อง
วันนี้ (14 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานจากรณีโลกเชียลได้เผยแพร่เรื่องราวของยายทองพูน เอี๊ยวถาวร ในวัย 90 ปีที่อาศัยอยู่ในเพิงพักหลังคาสังกะสี ข้างถนนเพชรเกษม เลขที่ 14 ตำบลห้วยจระเข้ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยอยู่เพียงลำพังไร้ ไม่มีลูกหลาน หรือญาติ พี่น้องมาดูแล นานหลายสิบปี และต้องนั่งยองๆ ค่อยๆ ก้าวขาเพื่อไปรับข้าว นม จากร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้กัน แต่ต้องใช้เวลาไปกลับนานถึง 1 ชั่วโมงเศษ เนื่องจากยืดตัวลุกขึ้นเดินไม่ได้ เป็นที่น่าสงสารกับลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านเซเว่นฯ ในปั๊มก๊าซเอ็นจีวี ปตท.โดยเฉพาะในยามค่ำมืดที่เห็นยายทองพูนมานั่งเหม่อลอยบ่อยครั้ง
หลังจากทราบข่าวพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้นำพระลูกวัดและเจ้าหน้าที่วัดเข้าพัฒนาบูรณะที่พักของยายทองพูน เพื่อให้ยายทองพูน ได้อยุ่สบายขึ้น เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวแม้จะอยู่ริมถนนเพชรเกษม กลางเมืองนคปฐม แต่มีความรกและสกปรกเต็มไปด้วยซากกิ่งไม้และถุงชยะที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะในเพิงที่พักของยายทองพูน ภายในมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นปัสสาวะและอุจจาระ และซากของกินที่ไมได้ล้างบูดเน่าคาจานชาม ซึ่งเกิดจากที่ยายทองพูน ลุกเดินไม่ไหว ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้ทำการก่อสร้างเทพื้นปูนเพื่อจะก่อสร้างเพิงพักอาศัยให้ยายทองพูนขึ้นใหม่ติดกับที่พักเดิมโดยมีห้องน้ำในตัว
ล่าสุดนายพิเชฐ อรุณมาศ หัวหน้าแผนกมิเตอร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางมาเป็นตัวแทนของนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นักการเมืองหมายเลข 1 ของจังหวัดนครปฐม เพื่อให้มาเร่งทำการตรวจสอบหลังจากได้รับการร้องขอการใช้ไฟฟ้า จากหลวงพี่น้ำฝน และได้ประสานไปยังนายอุทัย ศิริไพบูลย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามเรื่องนี้ เมื่อเข้ามาตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องจริงและทราบว่ายายทองพูน ไม่มีไฟฟ้าใช้มาหลายสิบปีแล้ว จึงได้ทำการขยายเขต และทางนายไชยา ได้แจ้งความประสงค์ในการออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมิเตอร์ และชำระค่าไฟฟ้าให้กับยายทองพูน ตลอดชีวิต โดยตอนนี้ได้นำโคมไฟประหยัดพลังงานแบบ แอลอีดี มาให้ใช้ไว้เบื้องต้น ก่อนที่เพิงพักที่หลวงพี่น้ำฝน กำลังก่อสร้างให้ยังไม่เสร็จ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยินดีที่จะร่วมสนับสนุนการทำดีในสังคมและช่วยเหลือให้เกิดสิ่งดีดีต่อไป
โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีคนมาร่วมด้วยช่วยกันทำให้ยายทองพูน มีชีวิตที่ดีขึ้น และทำให้เห็นว่าสังคมไม่ทิ้งกัน ซึ่งส่วนของพระเป็นเรื่องเกี่ยวกับบวร คือ บ้าน วัด โรงเรียน นื่คือการช่วยกัน ซึ่งไม่ได้ขอรับเงินบริจาค และทุกคนมาด้วยใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สังคมนั้นต้องการ วัดก็เป็นศูนย์กลางการช่วยเหลือและเป็นสิ่งที่วัดต้องทำเรื่องนี้นั่นเอง ซึ่งจากที่คุยกับยายทองพูน ทำให้รู้ว่ายายทองพูน ไม่มีไฟฟ้าใช้มากว่า 50 ปีเป็นอย่างน้อย นี่คือการมีไฟฟ้าใช้ครั้งแรก ซึ่งในเพิงพักนั้นร้อนมาก ขนาดนั่งไม่นานก็จะมีเหงื่อไหลออกมาแล้ว แต่ยายต้องมนมาหลายปี เป็นเรื่องที่น่าสงสาร ไม่นานยายก็จะมีพัดลมในห้องพัก และบ่นว่านอนไม่หลับเพราะเสียงรถที่วิ่งบนถนนดังมากช่วงวกลางคืน เมื่อที่พักเสร็จก็จะทำการปิดให้มิดชิดป้องกันเสียงของรถได้มาก รวมถึงแสงแดดที่ส่องเข้าตายายตรงๆ ก็เป็นปัญหามากด้วย
ต่อมาวันเดียวกันนี้ คณะทีมแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้เดินทางเข้ามาตรวจสุขภาพยายทองพูน ทั้งเรื่องความดัน ชีพจร และตรวจค่าเลือด โดยพบว่าแม้ยายทองพูน จะอายุถึง 90 ปี แต่ก็ยังมีสุขภาพของร่างกายดีมากโดยไม่มีปัญหาเลือดเกี่ยวกับเบาหวาน และหัวใจความดันก็อยู่ในค่าที่ดีมาก โดยมีตาที่มองไม่ค่อยจะเห็นแล้วโดยมาจากต้อกระจกที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ หากเพิงพักเสร็จก็จะมีการเข้ามาทำกายภาพบำบัดให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เดินได้ แต่จะมายืดเส้นให้ไม่เป็นเส้นยึด และมาพัฒนาด้านสุขอนามัยให้มีมากขึ้นโดยได้ตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้กับนายต้อน อายุ 79 ปี คนที่คอยวนเวียนมาดูยายทองพูน ซึ่งชรามากและเริ่มมีอาการหลงหลืมแล้วเช่นกันด้วย
ขณะที่ตลอดวันก็เริ่มมีผู้เข้ามาหานำสิ่งของและมาให้กำลังใจยายทองพูน ทั้งวัน โดยคนที่มาส่วนใหญ่ทั้งหน่วยงานราชการ และประชาชน ยอมรับว่าไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนและบอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่า จะมีคนชราที่อาศัยโดยลำพังและเป็นคนชราที่ไม่มีแรงที่จะขยับร่างกายซึ่งอาศัยลำพังไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่เคยได้อาบน้ำ ไม่มีห้องน้ำ โดยเฉพาะการอยู่ติดริมถนนเพชรเกษมและอยู่กลางเมืองนครปฐม ซึ่งหลังเป็นข่าวก็มีประชาชนคนใจบุญได้เดินทางมาดูและเยี่ยมเยียนมากขึ้น บางคนถึงกับตำหนิหน่วยงานราชการที่ปล่อยให้ตกสำรวจเรื่องการดูแลคุณภาพชีวิตของคนอายุ 90 ปี แม้จะพอทราบว่ายายทองพูน ได้รับเบี้ยคนชรา แต่ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเอาเงินมาให้ เหมือนมีการดู แต่ไม่แล คือไม่เอาใจใส่ เท่าที่ควรจะเป็นจึงได้เกิดประเด็นข่าวที่ชวนตกใจของคนนครปฐม และคนใจบุญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี