ก่อนหน้านี้ “ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์” ได้นำเสนอเรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อว่า “สุวรรณฉัตร พรหมชาติ” แท็กซี่น้ำใจงามวัย 41 ปี ขับรถทำงานจิตอาสา โดยไม่หวังผลประโยชน์หรือเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระอีกคนหนึ่งที่น่าชื่นชม และเป็นซูเปอร์ฮีโรสำหรับผู้ป่วย ผู้ป่วยติดเตียง และคนพิการ
“พี่เดี่ยว” เคยเล่าประสบการณ์ชีวิตก่อนที่จะมาทำงานเป็นจิตอาสาให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อ-แม่ แยกทางกันตั้งแต่ตนยังอยู่ในครรภ์ ทำให้ตนไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาตั้งแต่เกิด และด้วยความอยากรู้จักพ่อ อยากเจอหน้าพ่อมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้ตนตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แล้วไปบวชเณร จากนั้นได้ออกเดินทางตามหาพ่อ โดยได้ข่าวว่าพ่อมีครอบครัวใหม่อยู่ที่หาดใหญ่ จ.สงจลา จุดเริ่มต้นเดินทาง คือ วัดมะนาวหวาน ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยระหว่างเดินทางได้พบกับคุณลุงขับรถตู้ใจดีคนหนึ่งได้พาไปส่งโดยไม่คิดค่ารถแถมยังถวายปัจจัยให้อีก 100 บาท จนตนไปพบพ่อ
เหตุการณ์พลิกผันให้มาทำงานจิตอาสา
"จนกระทั่งถึงเย็นมีกลุ่มแรงงานอีสานเข้ามาเห็นสภาพของผมตอนนั้น เขาคงสงสารผมจึงไปซื้อข้าวมาให้ผมกิน แล้วก็ถามไถ่ความเป็นมาของผม ซึ่งผมก็ได้เล่าให้เขาฟัง พวกเขาเกิดความสงสารเมตตาผม จึงซื้อตั๋วรถไฟให้ผมได้กลับบ้าน แถมยังเรี่ยไรเงินจากเพื่อนๆ รวมกันเป็นเงินประมาณ 300 บาทให้ผมติดตัวกลับบ้านด้วย ซึ่งเป็นความซาบซึ้งในน้ำใจของผู้มาช่วยเหลือแม้ไม่ใช่ญาติกันก็ตาม แต่ก็เหมือนเทวดามาโปรดผม ซึ่งเป็นความประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้" สุวรรณฉัตร กล่าว
สุวรรณฉัตร ผ่านวิกฤติชีวิตที่เลวร้ายมาจนได้เข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ แต่เรื่องราวของเขายังไม่จบเท่านั้น เพราะเขาถูกเอาเปรียบจากเจ้านายไม่ได้แม้แต่ค่าจ้าง แถมยังถูกทำร้ายร่างกาย มิหนำซ้ำยังถูกแจ้งข้อหาว่าเป็นโจรอีก
โชคดีที่ได้เจอ "เฮียหมง" เจ้าของอู่แท๊กซี่
"เริ่มขับแท็กซี่แรกๆ ได้ค่าเช่าในแต่ละวันผมก็ดีใจแล้ว ที่สำคัญผมไม่เคยเลือกผู้โดยสารใกล้ ไกลรับหมด และไม่รับเหมา ชาวต่างชาติคิดตามมิตเตอร์อย่างเดียว เจอบางคนเห็นเราไม่โกงเขา มิตเตอร์ขึ้นไม่ถึง 100 บาทเขาให้เงินเพิ่มอีก 100 ดอลล่า พร้อมกับตบไหล 3 ครั้งเป็นการให้กำลังใจ เพราะเขาอาจจะเห็นว่าแท็กซี่ส่วนใหญ่เอาเปรียบคิดเงินเกินราคา เรายึดคติที่ว่า ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน และเอาความสบายใจของผู้โดยสารเป็นหลัก"
จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจช่วยผู้ป่วยติดเตียง คนพิการ เมื่อรับลุงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้พิการนั่งรถเข็น พอรับขึ้นรถแกก็บ่นว่าอยากฆ่าตัวตาย พูดซ้ำหลายรอบ แกคงลำบากเวลาไปไหน แท็กซี่ก็คงไม่จอดรับแกง่ายๆ เพราะมีรถเข็นด้วย เมื่อตนได้ยินแกพูดอย่างนั้นก็นึกถึงตอนที่ตัวเองนอนหมดหวังอยู่ที่สถานีรถไฟชุมพร ความรู้สึกอยากจะช่วยคนสิ้นหวังจึงเกิดขึ้นมาในตอนนั้นและนับแต่นั้นมาจึงทำให้ตนเข้ามาทำงานเป็นจิตอาสาจนถึงทุกวันนี้และจะทำต่อไปตราบเท่าที่ยังมีแรงและลมหายใจอยู่
พบรักภรรยาคู่ใจ เป็นคุณหมอ…
การทำงานเป็นจิตอาสาด้วยใจที่เป็นกุศลของ "สุวรรณฉัตร พรหมชาติ" ต่อมาทำให้เขาได้พบรักกับ "พญ.จำเนียร พรหมชาติ" ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่มีน้ำใจโอนเงินมาสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายให้กับพี่เดี่ยวมาตลอด จนกรัทั้งปัจจุบันนี้คุณหมอจำเนียรได้ลาออกจากการเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำ โรงพยาบาลพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทราแล้ว และออกมาทำจิตอาสากับสุวรรณฉัตรอย่างเต็มตัว
นอกจากอุ้มรับ-ส่งผู้ป่วยติดเตียงแล้วทำอะไรอีกบ้าง
สุวรรณฉัตร เล่าต่อว่า ตอนนี้ก็ยังคงอุ้มและช่วยเหลือคนป่วยอยู่เหมือนเดิม แต่จะมาช่วยดำเนินการในส่วนของบัตรคนพิการ บัตรประชาชน เบี้ยคนพิการ เบี้ยผู้สูงวัย และประกันสังคม เพื่อให้พวกเขาสิทธิที่ควรจะได้รับ ในห้องนอนตอนนี้มีแต่ของบริจาคจากคนป่วยที่ตายแล้ว ญาติก็เอามาบริจาคของต่อให้คนอื่นๆต่อ เมื่อเราไปเจอคนที่ขาดของเหล่านี้ก็จะนำไปบริจาคต่อไป
“สิ่งที่ทำควบคู่กับการอุ้มคนป่วย คือ การทำโต๊ะนักเรียนไปบริจาค ตอนแรกๆจะไปช่วย “นายนิพนธ์ เจียมสมบัติ” หรือ อาจารย์เอ๋ ช่างไม้จิตอาสา พอตนและคุณหมอไปเจอโรงเรียนที่บ้านเกิด จึงไปช่วยทำเพิ่มนอกจากไปช่วยที่ชมรมทุกวันเสาร์ ซึ่งโต๊ะที่ทำทำจากกระเบื้องและเชื่อมเหล็กเพื่อความแข็งแรง ขณะนี้กำลังจะบริจาคให้กับโรงพยาบาลวัดจันทร์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา,โรงเรียนบ้านจันทร์,โรงเรียนมัธยมกัลยาณิวัฒนาเฉลิมพระเกียรติ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ และโรงเรียนหนองใหญ่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนโรงเรียนวัดควนส้าน อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช จะไปมอบโต๊ะ เก้าอี้ ให้วันที่ 2-5 ธ.ค.61 นี้ แต่ที่ทำและมอบให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ โรงเรียนวัดต้นตาล อ. พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจะต้องใช้เหล็กเส้นละ 6 เมตร ประมาณ 800-850 เส้น ผมทำจิตอาสามามากกว่า 20 ปี ถ้าจะเลิกทำคงเลิกยาก”
จากนั้น “พญ.จำเนียร พรหมชาติ" เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า การรที่เราสองคนเข้ามาทำโต๊ะ เก้าอี้ บริจาค เพราะเป็ฯความฝันของคุณเดี่ยว เพราะตอนเด็กๆ เขาทำเกี่ยวกับช่างเชื่อม พอมีเครื่องมืออะไรครบก็อยากจะทำ ประจวบเหมาะกับการทำแล้วจะเอาไปไหน เนื่องจากเป็นจิตอาสาอยู่แล้วก็เลยเริ่มบริจาคจากโรงเรียนบ้านเกิดของเราทั้งสองคน และอีกอย่างคือมีคนที่เคยดูถูกคุณเดี่ยวไว้ สิ่งที่เขาทำ 3-4 ปี ที่ใช้ชีวิตคู่กับเขามาสามารถที่จะดูแลเราได้ และสามารถที่จะช่วยเหลือสังคมจนตอนนี้คุณเดี่ยวลบคำสบประมาทของคนเหล่านั้นได้ และที่สำคัญโรงเรียนที่เราไปบริจาคไม่ได้คำให้แค่โต๊ะโรงเรียน เมื่อเห็นอะไรที่ผุพังก็จะเปลี่ยนและปรับปรุงให้ใหม่
“เรารู้สึกดีทำด้วยกันสองคนทำด้วยกำลังทรัพย์ที่มี เราไม่ได้ทำจนตัวเองเดือดร้อนเราจะต้องประมาณตน ว่าเราทำได้ขนาดไหน การทำจิตอาสาไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่ๆ แต่เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ตัว เราสามารถทำในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะช่วยเหลือเพื่อน ช่วยเพื่อนบ้าน ช่วยคนที่พบเจอในแต่ละวัน”
อนึ่ง สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญในการช่วยเหลือค่าน้ำมันหรือช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ป่วยที่ต้องการใช้บริการก็สามารถโทร.สอบถาม สุวรรณฉัตร พรหมชาติ แท๊กซี่จิตอาสาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08 7331 5421 หมายเลขทะเบียนรถ 1 มก. 9977 หรือหากต้องการโอนเงินเข้าบัญชีก็สามารถโอนได้ ชื่อบัญชี นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ เลขบุญชี 264-247883-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ เงินฝากออมทรัพย์ สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 2
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ : https://www.naewna.com/likesara/331503
อ่านเพิ่มเพิมได้ที่นี่ : https://www.naewna.com/likesara/336327
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.naewna.com/likesara/332167
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี