หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบแห่งที่พักสงฆ์ "สวนทิพย์" อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้ละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 22.22 น. คืนวันที่ 14 พ.ย.61 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริอายุ 104 ปี 73 พรรษา หลังจากหลวงปู่อาพาธมาเป็นเวลานานก่อนที่ลูกศิษย์จะนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 ก.ย.61 ที่ผ่านมา
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ท่านได้เทศน์สอนลูกศิษย์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2552 หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ไม่สามารถเทศน์ได้อีกต่อไป เนื่องจากสังขารไม่เอื้ออำนวย แต่ทางลูกศิษย์ก็ได้มีการบันทึกคำสอนของหลวงปู่เอาไว้ โดยมีเนื้อหาดังนี้
"... ตอนที่พระเทศน์ สอน และนำปฏิบัติภาวนานั้น เทวดา ทั้งหลายก็จะลงมาฟังและร่วมปฏิบัติภาวนาด้วยเช่นกัน เทวดานั้นมี "สังขาร" เช่นเดียวกับ มนุษย์ ทั้ง อสุรกาย สัตว์ ยักษ์ มนุษย์ เทวดา ไปจนถึง พรหม สรรพสิ่งที่เวียนวนอยู่ในวัฏสงสาร ก็ล้วนแต่มี "สังขาร" ทั้งสิ้น หรือในอีกแง่หนึ่งก็คือ "การปรุงแต่งของจิต" ในสังสารวัฏตั้งแต่ชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุด ทุกระดับชั้น ระดับจิต ก็ล้วนแล้วแต่มีการปรุงแต่งในจิตทั้งสิ้น
จะปรุงแต่งแบบหยาบ (เป็นกาย เป็นธาตุขันธ์) หรือปรุงแต่งแบบละเอียด (เป็นอรูป) จะปรุงแต่งไปโดยอกุศล (นรก เดรัจฉาน) หรือ ปรุงแต่งไปโดยกุศล (สวรรค์) ก็ยังเป็นการปรุงแต่ทั้งสิ้น พูดง่ายๆ คือ "ไม่มีสภาวะจิตใดที่ไม่ปรุงแต่ง เว้นจากจิตแห่งอริยะบุคคล"
การทำให้เราเท่าทันและพ้นไปจากอำนาจการปรุงแต่งของจิต ตัดวงจรแห่งความทุกข์ และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นมีเพียงการภาวนาเท่านั้น จะเป็น 1 ชม. จะได้ครึ่งชั่วโมง หรือทำได้แค่ 10-15 นาทีก็ต้องเพียรพยายามที่จะทำให้ได้ นั่นคือความเมตตามากล้นของหลวงปู่บุญฤทธิ์ต่อศิษยานุศิษย์ ซึ่งแม้กายสังขารท่านจะเป็นไปตามปัจจัยของความชรา แต่จิตท่านยังตั้งมั่น มีกำลังมั่นคงและเปี่ยมด้วยธรรมบารมี..."
เรื่องราวของหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต น่าสนใจและน่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มที่มีอนาคตสดใส แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวชและปฏิบัติธรรมแบบถวายชีวิตต่อพระศาสนา ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต มีนามเดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ เป็นบุตรชายของหลวงพินิจจินเภท กับ คุณแส จันทรสมบูรณ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2458 ที่บ้านท่าอิฐ ตำบลท่าอิฐ อำเภอพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวัยเยาว์ มารดาเป็นผู้มีความศรัทธาในพุทธศาสนา รวมถึงเคยเข้ารับการอบรมในวัง จึงถ่ายทอดลักษณะนิสัย ระเบียบชีวิต แนวคิดต่างๆ ให้หลวงปู่ สอนให้หลวงปู่สวดมนต์ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะจนติดเป็นนิสัย
ในอดีตหลวงปู่บุญฤทธิ์ เป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มอนาคตสดใส เมื่อครั้งอายุ 10-11 ปี ถูกส่งตัวเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล กรุงเทพฯ รุ่นที่ 1 อาศัยอยู่กับคุณพระโสภณเพชรรัตน์ จนจบ ม.8 ภาษาฝรั่งเศส หลวงปู่บุญฤทธิ์ เคยได้รับรางวัลประกวดเรียงความชนะเลิศจาก จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสมัยนั้น จากนั้นได้สอบชิงทุน (กพ.) ได้ไปศึกษาต่อที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม พ.ศ. 2475 กลับจากเวียดนามรับราชการที่หอสมุดแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และภายหลังเป็นทูตที่พระตะบอง
แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวชโดยบรรพชาอุปสมบทในปี 2489 ที่วัดศรีเมือง จังหวัดหนองคาย และปฏิบัติธรรมออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขา จนกลายเป็นศิษย์กรรมฐานของพระอาจารย์กู่ ธมฺมทินฺโน ท่านพ่อลี ธมฺมธโร และออกป่าติดตามหลวงปู่ชอบ ฐานสโม นานถึง 9 ปี และจำพรรษาด้วยกัน อุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ชอบ อยู่หลายเดือน
จากนั้นหลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้เป็นพระธรรมทูต เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศกว่า 30 ปี เช่น เม็กซิโก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ จีน เยอรมัน สหรัฐอเมิกา ออสเตรเลีย ซึ่งหลวงปู่พูดได้ถึง 6 ภาษา กระทั่งจำพรรษาที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนทิพย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ก่อนมีอาการอาพาธ ต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และได้ละสังขารเมื่อวันที่ 14 พ.ย.61 เวลา 22.22 น.ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริอายุ 104 ปี 73 พรรษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี