ชาวบ้านใกล้เคียงวัดอ้อน้อย นครปฐม ผวาหลังพบหมีขอขนาดใหญ่แหกกรงขังหลุดออกจากวัดมาได้ 2 ตัวนานกว่า 10 วัน ชาวบ้านตกใจ เมื่อเผชิญหน้ากับหมีขอน้ำหนักตัวกว่า 60 กิโลกรัม กำลังปีนป่ายอยู่บนต้นผลไม้ของชาวบ้าน ห่างจากวัดประมาณ 800 เมตร ชาวบ้านกลัวจะได้รับอันตราย แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยจับ ขณะที่ลูกศิษย์วัดรมาจับไว้ได้ 1 ตัว ส่วนอีก 1 ตัว ยังไม่รู้จุดซ่อนตัว
เมื่อคืนวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านในตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ต่างผวาเมื่อทราบว่าหมีขอขนาดใหญ่ 2 ตัวของวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ที่ได้นำมาเลี้ยงและขังอยู่ในกรงภายในวัดได้แหกกรงหลุดออกไปนอกเขตวัด คาดว่าได้หนีออกไปทางด้านหลังวัดนานกว่า 10 วันแล้ว
โดยก่อนหน้านี้นายใช้ ฐานบัญชา อายุ 55 ปี ชาวบ้านในตำบลห้วยขวาง ที่นอนเฝ้าสวนผลไม้ในเนื้อที่จำนวน 4 ไร่ ต้องผวา และบอกว่าไม่กี่วันก่อนได้พบเห็นหมีขอขนาดใหญ่เพศผู้กำลังปีนป่ายหาผลไม้กินด้วยความหิวโหย จึงได้มาบอกกับน้องชาย คือ นายบัญชา ฐานบัญชา อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.16 อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 16 ตำบลห้วยขวาง ได้พยายามไล่ให้ออกจากพื้นที่ไปและทราบข้อมูลว่าเป็นหมีขอจากวัดอ้อน้อย ที่หลุดมาจากนั้นมาก็คิดว่าหมีขอได้ออกไปจากสวนแล้ว
แต่ล่าสุดวันนี้นายบัญชา ฐานบัญชา ก็ต้องตกใจอีกเมื่อเดินไปที่บริเวณด้านหลังบ้าน ได้พบกับหมีขอกำลังเข้ามาประชิดบ้าน เพื่อจะมาหาน้ำกิน จึงได้ไล่ให้ออกห่างไกลบ้าน เนื่องจากกลัวคนในครอบครัวจะได้รับอันตราย และเมื่อเดินตรวจดูตามสวนผลไม้ ก็พบกับหมีขอกำลังนอนพาดตัวอย่างสบายอยู่บนต้นเชอร์รี่ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ให้มาช่วยจับกลับไปคืนที่วัดอ้อน้อยหรือให้เอาออกไปจากพื้นที่สวนบ้านตัวเอง ซึ่งหมีขอตัวนี้ได้เดินออกห่างมาจากวัดถึงในสวนก็มีระยะทางกว่า 800 เมตร
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯมาตรวจสอบแล้วก็ไม่สามารถที่จะจับตัวได้ จึงได้แจ้งไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม แต่ก็เป็นวันหยุดเจ้าหน้าที่ไม่สามารถมาดำเนินการให้ได้ ขณะที่กำลังรอการประสานงาน ได้มีคนงาน (ลูกศิษย์) ของวัดอ้อน้อย จำนวน 4 คน ได้นำอุปกรณ์บ่วงคล้องคอ มาพยายามไล่จับหมีขอ แต่เนื่องจากต้นไม้มีกิ่งก้านเยอะ การคล้องจับจึงทำได้อย่างยากลำบาก ส่วนหมีขอตัวที่พบนั่นมีน้ำหนักราว 60 กิโลกรัม ก็พยามขู่อยู่ตลอดเวลา โดยต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถเอาตัวลงมาจากต้นไม้ได้ แต่เมื่อมาถึงพื้นหมีขอก็ยังต่อสู้ขัดขืนอยู่ตลอด ก่อนที่หลายคนจะช่วยกันนำกระสอบป่าน มาสวมใส่และจับมัดปากกระสอบ นำกลับไปยังวัดอ้อน้อย
อย่างไรก็ตาม คนงานของวัดอ้อน้อย บอกว่า หมีขอที่จับได้ตัวนี้เป็นเพียง 1 ใน 2 ตัวที่หลุดออกมา และยังคงเหลือหมีขอเพศเมีย ขนาดลำตัวเท่ากันอีก 1 ตัวที่หลุดออกมาพร้อมกัน ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงจุดไหน และทั้ง 2 ตัวก็มีชิพฝังไว้และเป็นหมีที่ได้มีการขออนุญาตมาเลี้ยงอย่างถูกต้อง เคยมีเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้และดีเอสไอมาตรวจสอบแล้วหลังจากที่มีตำรวจกองปราบเข้ามาจับกุมตัว พระพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ตามหมายจับ ซึ่งหากชาวบ้านพบเห็นก็ขอให้แจ้งมาทางวัดอ้อน้อย เพื่อจะได้จับกลับมาสู่วัดต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่จะมีการส่งทีมระดมลงพื้นที่ในการติดตามหมีขออีก 1 ตัวที่คาดว่าจะอยู่ในระแวกนี้เช่นกันกลับมาสู่สถานที่ของวัดให้ได้ต่อไป
สำหรับ หมีขอเป็นสัตว์หากินในเวลากลางคืน อาศัยและหากินตามลำพัง แต่ในบางครั้งอาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ประกอบไปด้วย แม่และลูก ในเวลากลางวันจะอาศัยโพรงไม้เป็นที่หลับนอน อาหารได้แก่ ผลไม้และสัตว์ที่มีขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ บนต้นไม้ทั้งแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน ปีนต้นไม้ได้เก่งมาก โดยใช้หางที่ยาวเกาะเกี่ยวกิ่งไม้จากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถว่ายน้ำได้อีกด้วย มีการผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี ใช้เวลาตั้งท้องนาน 92 วัน ออกลูกครั้งละ 1–500 ตัว หมีขอตัวเมียจะมีเต้านมทั้งหมด 10 คู่ ลูกที่เกิดใหม่ยังสามารถขาและหางเกี่ยวกิ่งได้ชำนาญเหมือนตัวพ่อแม่
หมีขอเป็นสัตว์ที่เลี้ยงตั้งแต่เล็กแล้วจะเชื่อง จนสามารถนำมาฝึกให้แสดงโชว์ต่าง ๆ ได้ตามสวนสัตว์ สถานะปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี