พรรคการเมืองเก่าแก่อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” เจอพลังดูดจากพรรคการเมืองใหม่ ที่ทั้ง “ดึง” และ “ดูด” อดีตส.ส.หลายพื้นที่ไปเกือบหมด แต่ที่น่าปวดใจที่สุด เพราะขนาดนักการเมืองที่อยู่กันมาหลายสมัยยังชิงหนีย้ายไปซบอกพรรคอื่น โดยเฉพาะอดีต ส.ส. 2 สมัย ชลบุรี เขต 4  (อ.บ้านบึง อ.หนองใหญ่ และ อ.บ่อทอง) ที่ก่อนหน้านี้ถูกดูดไปซบอก “พรรคพลังประชารัฐ” เสียแล้ว

แต่ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ ดึงเกมได้ดี โดยส่งตัวแทนผู้สมัครสายเลือดใหม่ ลงชิงเก้าอี้ ด้วยการไปทาบทาม “นายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์” หรือ “พายุ” CEO ศิวิไล ดีเวลลอปเม้นท์ อดีตประธานกรรมการ ไพรม์ เนเจอร์ กรุ๊ป บุตรชาย “พล.ต.ต.ปิยะชาติ และนางสุนัทที เนื่องจำนงค์” หลานชาย “ดร.ประโยชน์ เนื่องจำนงค์” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีต ส.ส.ชลบุรี 2 สมัย

โดย “พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” เปิดเผยกับทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ ถึงที่มาของการมาลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์และการชิงเก้าอี้ส.ส. เขต 4 ชลบุรี ว่า ตนไม่อยากให้มองว่า การที่เลือกมาลงสมัครเป็นเรื่องการเบี่ยงเบนความสนใจมาทางการเมืองแต่เป็นความรู้สึกของหน้าที่ความรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชนในเขตบ้านบึง,หนองใหญ่, และบ่อทอง รวมถึงใน จ.ชลบุรีด้วย ที่ต้นตระกูลได้ริเริ่มไว้

 เพราะสิ่งที่ “ดร.ประโยชน์ เนื่องจำนงค์” คุณปู่ของตนได้สั่งสอนมาโดยตลอด คือความเข้าใจถึงบรรทัดฐานของความหมายของคำว่า “เนื่องจำนงค์” ซึ่งลูกหลานที่ใช้นามสกุลนี้จะต้องทำอะไร แต่ส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ การรับใช้และพัฒนา จ.ชลบุรี

“ผมไม่ได้ต้องการที่จะพึ่งใบบุญของคุณปู่แต่อย่างใด ซึ่งจริงๆ แล้วได้มีการปรึกษาว่าเรื่องเขตอื่นๆในชลบุรีที่ผมสามารถไปลงนอกเหนือจากเขตนี้ก็ได้ ผมไม่ได้มีเจตนาหวังจะฉวยโอกาสจากตรงนี้ แล้วจะหวังเอาคะแนนจากคนที่ศรัทธาในตัวคุณปู่เป็นเหมือนของตาย แต่ผมเชื่อว่าคนในพื้นที่เขต 4 จะมองว่าผมเป็นคนที่เติบโตมาจากในบ้านของ ดร. ประโยชน์ มาจากพื้นที่นี้จริง และได้รับการปลูกฝังจากท่านจนเป็นคนที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง” นายพรรณธฤต กล่าว

ทำไมเลือกลงสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

“พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” กล่าวว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันกับทางครอบครัวตนมานาน ตั้งแต่สมัยที่ “นายชวน หลีกภัย” เป็นนายกรัฐมนตรี ตอนที่มีปัญหาค่าเงินบาทตก ท่านก็ช่วยรัฐบาล ตอนที่ผมกลับมาใหม่ๆก็ได้ทำงานอยู่ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ในกระทรวงเดิมสมัยคุณปู่ แม้จะเป็นหน้าที่ตำแหน่งเล็กๆก็ตาม คุณแม่และคนในครอบครัวท่านอื่นก็มีความสัมพันกับพรรคมาโดยตลอด ตอนแรกที่เข้าไปคุยกับนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ตนไม่ได้ตั้งใจจะลงสมัครสมาชิกพรรค แต่พอได้พูดคุยกัน กับเพื่อนๆที่อยู่ในพรรค ก็เลยตัดสินใจที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรค และก็อยากแสดงความรับผิดชอบต่อพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เมื่ออยู่ดีๆ สมาชิกพรรคที่ใช้นามสกุลเดียวกับตนลาออกแบบไม่บอกกล่าวในห่วงเวลาที่สามารถสร้างผลกระทบต่อพรรคได้ เพราะฉะนั้นตนในตัวแทนของครอบครัว จึงมาลงสมัครเป็นสมาชิก เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ต้องการรักษาความผูกพันธุ์ที่มีต่อพรรคมาเนิ่นนาน จะให้มาเสียเพราะคนๆ เดียวไม่ได้ เพราะ ดร.ประโยชน์ ถ้าท่านยังอยู่และเป็นตัวท่านเองคงไม่ทำเช่นนั้นแน่ จึงเป็นสาเหตุที่เลือกตัดสินใจมาลงสมัครพรรคประชาธิปัตย์

มีพรรคการเมืองพรรคอื่นเข้ามาทาบทามบ้างหรือไม่

“พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมามีหลายพรรคที่เข้ามาทาบทาม แต่ตอนนั้นอยากเน้นไปที่งานด้านธุรกิจ พัฒนาอสังหาฯ ของตัวเองก่อน ที่เพิ่มเริ่มต้นใหม่ภายใต้ชื่อ ศิวิไล ดีเวลลอปเม้นท์ จาก ก่อนหน้านี้ที่อยู่กับ ไพร์มเนเจอร์ กรุ๊ป จนได้ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ภายหลัง ทั้งนี้ ทางผู้ใหญ่ที่ปรึกษา, ทางบอร์ดบริหารและทางผู้ถือหุ้นมีความกังวลเหมือนกันในการลงเล่นการเมือง ตนจึงอธิบายให้ผู้ใหญ่เข้าใจ เพราะธุรกิจของเราไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล สามารถชี้แจงความโปร่งใสได้ ประกอบกับ เหตุผลส่วนตัวที่พูดถึงเบื้องต้น ซึ่งพวกท่านก็เข้าใจและเคารพ อย่างไรก็ตาม เมื่อตนตัดสินใจลงการเมืองแล้ว ถ้าได้รับเลือกเป็น ส.ส. ก็พร้อมที่จะสละเก้าอี้ CEO ให้กับผู้อื่นมาบริหารแทนเพื่อคนชลบุรี

ลองฟังนโยบายจากนักการเมืองเลือดใหม่ “พายุ เนื่องจำนงค์” ว่ามีอะไรบ้าง?

หลายๆ คน เสนอนโยบาย “เพื่อชลบุรี” มาอาจจะหลงประเด็น โดยให้ความสำคัญกับ “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” หรือ “EEC” มากเกินไป จนลืมว่าคนชลบุรีในพื้นที่หลักๆ ไม่ใช่มีแค่อุตสาหกรรม แต่เป็นเกษตรกร การที่ภาครัฐ ข้าราชการ ไปเกื้อหนุนนายทุนต่างชาติ เกื้อหนุนบริษัทใหญ่ๆ แล้วพยามยามผลักดัน EEC สามารถช่วยคนชลบุรีได้เพียงแค่บางกลุ่ม ไม่ได้ช่วยทั้งจังหวัด หรือทั้งประเทศ มันอาจจะมีผลดีบ้างก็จริง แต่ปัญหาหลักๆ ที่กำลังจะเจอตอนนี้ คือ เกษตรกร ไม่มีที่จะทำกิน ถ้าเข้าใจธรรมชาติของคนในพื้นที่จะรู้ว่าที่ดินไม่ได้เป็นของชาวบ้าน แต่เป็นของกลุ่มนายทุน ชาวบ้านเช่าเพื่อประกอบการทำกินเท่านั้น หากวันหนึ่งเจ้าของที่ดินบอกว่าจะขายที่ดินแล้ว ถามว่ามีกฎหมายตัวไหนที่ออกมารองรับเกษตรกรหรือไม่ ทุกฝ่ายพยายามแต่จะผลักดันโดยการช่วยราคาอ้อยและพืชผลให้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่มีที่ปลูก ราคาดีก็ ไม่มีประโยชน์ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะช่วยอย่างไร

“พายุ พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” เล่าต่อว่า อุดมการ หลักของพรรคประชาธิปัตย์ คือ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเห็นได้ชัดเจนแล้ว ว่า ถ้าหากมี EEC อย่างเดียว โดยไม่ฟังแผนสำรอง หรือกฎหมายรองรับเกษตรกร จะทำให้มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากกว่าเดิม สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ทำอย่างไรให้ลูกหลานชาวชลบุรีกลับมาทำงาน และอยู่ในพื้นที่ของ จ.ชลบุรี สำหรับ ที่ทำการของพรรคประชาธิปัตย์ ประจำ จ.ชลบุรี อยู่ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ทำการเก่าของพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่ ดร.ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ ดำรงตำแหน่งส.ส.ชลบุรี  (ปู่ของนายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์)

“ผมเข้าไปไม่ใช่ในฐานะนักการเมืองมืออาชีพ แต่ในเวลาเดียวกันผมไม่ได้มองว่าไอเดียของผมจากภาคธุรกิจ ภาคเอกชน มันจะมองขาด ผมมีพื้นหลังทางด้านรัฐศาสตร์การปกครอง แต่ไม่ได้ว่าฝั่งใดถูกฝั่งใดผิด โดยรู้ว่าจะเอาทั้งสองอย่างทำอย่างไรให้มีความลงตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมรอไม่ได้แล้ว คือ ความผูกพันธุ์เหล่านี้ประกอบกับหน้าที่ความรับผิดชอบสายเลือดเนื่องจำนงค์ ทำให้ผมทิ้งคนบ้านบึงไม่ได้ รวมไปถึงคนใน จ.ชลบุรีด้วย ผมทำงานด้านธุรกิจหลังจากที่คุณแม่เสียมา 9 ปี จนตอนนี้คิดว่าน่าจะได้เวลาที่จะออกมา เพราะเรามีพันธมิตรที่ดี ธุระกิจกำลังไปได้ดี จังหวะที่พรรคประชาธิปัตย์มีเก้าอี้ว่างพอดี ทำให้ตนได้มีโอกาสลงสมัครในเขตที่คุ้นเคยและผูกพันพื้นที่มาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งทะเบียนบ้านของก็อยู่ที่บ้านเนื่องจำนงค์ที่อยู่หน้าตลาดในบ้านบึงอยู่แล้วไม่ได้ย้ายไปที่บ้านหรือตึกแถวที่ไหนเพียงเพราะจะไปลงสมัครเลือกตั้งที่นั้น” นายพรรณธฤต กล่าว 

คู่แข่งสำหรับเขต 4 ชลบุรี มีพรรคไหนบ้างที่จับตามองอยู่

“พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” กล่าวว่า การลงสมัครครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่เพราะต้องเจอผู้สมัครที่มีประสบการจาก พรรคที่น่าจับตามองคือ พรรคเพื่อไทย ส่ง “ส.ส. เป้า” นายจิรวุฒิ สิงโตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี อดีต ส.ส. ชลบุรี ซึ่งเป็นอีกตระกูลดังใน จ.ชลบุรี และมีฐานเสียงท้องถิ่นของชาวเกษตกรที่เคารพตัวท่านอยู่พอสมควร ทั้งนี้ ยังมีพรรคอนาคตใหม่ ส่ง คุณอา “นายสมชาย เนื่องจำนงค์” ลูกชายของนายประสงค์ เนื่องจำนงค์ น้องชายของ ดร. ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ ซึ่งเป็นปู่แท้ๆของพายุ พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ” อดีต นายก อบจ.ชลบุรี ที่มีฐานคะแนนในเขตอยู่บ้างบวกประสบการ และสุดท้าย ของ พรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้พลังดูดดึงตัวอดีต ส.ส.ชลบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ คือ “นายสราวุฒิ เนื่องจำนงค์” ลงสมัคร

ในฐานะคนรุ่นใหม่มีอะไรที่แตกต่างจากคนรุ่นใหม่ของพรรคอื่นบ้าง?  

ตนไม่อยากให้เปรียบเทียบอย่างนั้น เพราะพรรคอื่นที่ดึงผู้สมัครใหม่อายุน้อยเข้ามาเป็นการสร้างสีสันหรือเกาะกระแส พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มองตนและสมาชิคอื่นอย่าง NewDem จากตรงนั้น เพราะพรรคสามารถเอาใครมาลงก็ได้ แต่สำหรับพรรคมองว่าจะต้องเป็นผู้สมัครคนหนึ่งที่มีอุดมการณ์ และพรรคเห็นว่ามีประสิทธิภาพที่จะสร้างหรือทำอะไรให้ดีขึ้น เพื่อตั้งรากฐานให้กับทางพรรคในอนาคตข้างหน้า และทำให้ประชาชนอย่างแท้จริง คนรุ่นใหม่ที่เข้ามาก็ต้องแสดงให้เห็นว่าเข้ามาเพื่อที่จะพัฒนาประเทศจริงๆ มีความคิดใหม่โดยมีรากฐานเดิมของพรรคเก่าแก่เป็นเสาหลัก ไม่ใช้จะได้เพราะความสดหรือแปลกใหม่ เพราะประชาชนไม่ได้โง่

ทำไมเลือกมาลงเล่นการเมืองแบบเต็มตัว...

“พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” เล่าให้ฟังต่อว่า มันไม่ได้เหมือนกับทางเลือกว่าอยากจะทดลองทำดู แต่มันอยู่ในดีเอ็นเอของตนอยู่แล้ว และมันมีมาโดยตลอด ทำไมตนต้องอ่านข่าว สนใจนโยบายต่างๆ ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจที่ทำมาก่อนหน้านี้เลย ซึ่งสิ่งที่ตนกลัวคือกลัวว่าครอบครัวจะได้รับผลกระทบ เพราะการลงมาเล่นการเมืองจะต้องมีคนเข้ามาขุดคุ้ย กลั่นแกล้ง ข่มขู่ถึงชีวิต แต่ถ้าตนหันหลังให้กับคนชลบุรี สิ่งที่ ดร.ประโยชน์ (คุณปู่) ปลูกฝังมา ครอบครัวสอนมา เสียเวลาเปล่า เท่ากับตนเห็นแก่ตัว 

หวังจะได้ชิงเก้าอี้ เขต 4 ชลบุรีได้หรือไม่

“พรรณธฤต เนื่องจำนงค์” กล่าวว่า เราไม่ได้ลงสมัครเล่นๆ ถ้าตนไม่ได้รับเลือกก็ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ตนมาลงเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เอาปัญหาที่ตนเห็นมาเป็นประเด็นที่ผู้สมัครคนอื่นที่ได้รับเลือกตั้ง จะต้องหาทางมาแก้ปัญหาอย่างไร ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะได้เก้าอี้จะต้องดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ตนไม่ลำบากใจที่มีผู้สมัครรายอื่นใช้นามสกุลเดียวกัน เพราะมีตระกูลอื่นอีกจำนวนมากในไทยที่ลงสมัครแข่งขันกัน แต่สิ่งที่ตนกลัวที่สุดคือกลัวประชาชนจะไม่ออกมาใช้สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง เราจะต้องทำให้ประชาชนเข้าใจในการใช้สิทธิและเข้าใจถึงปัญหาจริงๆ ถ้าสิ่งที่ตนพูดมาทำให้ผู้สมัครรายอื่นกลับมาคิดที่จะแก้ปัญหาอย่างไร เลิกพูดแต่เรื่องทฤษฎีโลกสวย หรือสิ่งที่ชาวบ้านอยากจะได้ยินแล้วกลับมาลงมือทำแบบจริงจังเท่านั้น แต่ตนรู้ว่าจะแก้ปัญหาข้างเคียงของ EEC อย่างไร 

“ผมจะใช้ความเป็นคนในพื้นที่รับรู้ปัญหาและหาวิธีแก้ไขให้กับชาวบ้าน ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร” ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 4 ชลบุรี กล่าวปิดท้าย

เวทีการเมืองเขต 4 ชลบุรี ถือว่าเป็นเวทีที่น่าจับตามอง มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครเข้าแข่งขัน โดยต่างฝ่ายต่างดึงกลยุทธ์การดึงผู้สมัครที่คุ้นเคยกับชาวบ้านไปลงชิงเก้าอี้ และเชื่อว่ายังมีอีกหลายพรรคที่ต้องการเก้าอี้จาก จ.ชลบุรี ถือเป็นเวทีแข่งขันในระบอบประชาธิปไตยที่น่าสนใจทีเดียว สุดท้ายนี้ต้องรอลุ้นว่าการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 ใครจะเป็นม้ามืดคว้าเก้าอี้ ส.ส.ไปครอง...

เปิดประวัติ : นายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์ (พายุ)  เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 3 คน ของ พล.ต.ต.ปิยะชาติ และนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ (บิ๊ก)  1.นายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์ (พายุ) 2.น.ส.ฑีรนาฏ เนื่องจำนงค์ (พานี) 3.น.ส.แพร์ เนื่องจำนงค์ (แพร์) หลานชายของ ดร. ประโยชน์ และนางรำแพน เนื่องจำนงค์

ประวัติการทำงานเอกชน : ปัจจุบันเป็น ประธานบริหาร บ. ศิวิไล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, ประธานกรรมการ บ. ไพรม์ เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (2010-2018) ,ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการและพัฒนาโครงการ บ. ไพรม์ เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (2006-2009), อดีต นายกสมาคม ลาครอส แห่งประเทศไทย (2010-2018), อดีต ประธาน สโมสร ฟุตบอลพัทยา ยูไนเต็ด (2015), เจ้าของร้านอาหาร พายุ บิสโทร ที่ หัวหิน (2006-2009)

ประวัติการทำงานการเมือง : อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรม(2009), อดีตผู้ช่วยรองเลขาฯนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง (2009), อาสาสมัครช่วยณรงค์หาเสียงให้นักการเมืองท้องถิ่นที่สหรัฐอเมริกา,ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ของนักการเมือง หรือ Strategic Consultant ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา