ผ่านมาแล้ว 4 ปี กับการบริหารประเทศไทยโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ล่าสุด "บิ๊กตู่" ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 1 สมัย ซึ่งเส้นทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ “บิ๊กตู่” นั้นกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย
สำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2497 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรชายของพันเอก(พิเศษ) ประพัฒน์ จันทร์โอชา และเข็มเพชร จันทร์โอชา มารดาซึ่งรับราชการครู ได้สมรสกับ รศ.นราพร จันทร์โอชา หรืออาจารย์น้อง
ปี พ.ศ.2504-2513 ได้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนสหะกิจวิทยา จ.ลพบุรี ต่อมาได้ไปศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี เป็นเวลา 1 ปี และย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ กทม. จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนสมัครเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 23
ปี พ.ศ.2519-2545 หลังจบจากรั้วโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในปี พ.ศ. 2519 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ารับราชการครั้งแรกในยศร้อยตรี ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหน่วย "ทหารเสือราชินี" และได้ผ่านการอบรมหลักสูตรทางทหารต่างๆ เช่น หลักสูตรจู่โจม (เสือคาบดาบ) รุ่นที่ 39
หลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 94 และหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 63 ก่อนได้ขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมฯ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ในปี พ.ศ. 2546
ปี พ.ศ.2545-2550 ในปี พ.ศ. 2548 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับตำแหน่งเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปีถัดมา
ปี พ.ศ.2551-2556 ในปี พ.ศ. 2553 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 37 ของกองทัพบกไทยในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม และพัฒนากองทัพบกเพื่อให้สมกับที่เป็นสถาบันหลักในการรักษาเสถียรภาพและอธิปไตยของชาติ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และดูแลความปลอดภัย ช่วยเหลือประชาชนคนไทยในยามที่ได้รับความเดือดร้อน
ปี พ.ศ.2557 ตลอดระยะเวลาการทำงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 หลังจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชน 2 กลุ่มที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวจนเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม และเพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรักความสามัคคี ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองและบริหารประเทศ
2558 – ปัจจุบัน “คำมั่นสัญญา”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ารับหน้าที่ผู้นำประเทศเพื่อสร้างความปรองดอง ยุติความขัดแย้งแตกแยก ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และเสถียรภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และนำพาประเทศกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง โดยมุ่งมั่นอุทิศตนในการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ ซึ่งถือเป็นคำสัญญาสำคัญที่ท่านได้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ในระยะสั้น ได้เร่งเสริมสร้างความสามัคคีและแก้ไขปัญหาที่ทำให้การเดินหน้าทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก เช่น ปัญหาแรงงาน ปัญหาประมง
ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร นอกจากนี้ยังเร่งเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศ ปรับปรุงมาตรการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเตรียมการให้ประเทศกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยอย่างเหมาะสม ซึ่งมีความสำคัญต่อการวางรากฐานการพัฒนาประเทศต่อไป
สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในระยะยาว ได้ผลักดันการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศไทยไปสู่อนาคต และมีแนวปฏิบัติชัดเจน ในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ โดยมุ่งให้ประเทศมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ความเหลื่อมล้ำลดลงต่อเนื่อง ธุรกิจและประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันสูง บุคลากรมีคุณภาพและเป็นคนดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และภาครัฐสามารถบริหารประเทศและบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศเติบโตไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
วันนี้ (11 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ลำดับที่ 30 อีกสมัย ซึ่งเราต้องมาดูกันต่อไปว่าอีก 4 ปีต่อจากนี้ไป "บิ๊กตู่" จะบริหารประเทศไปในทิศทางไหนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี