นี่แหละ!!ที่สังคมต้องการ...‘พลังโซเซียลสุรินทร์’ระดมทีม-ทุนสร้างบ้านให้ 4 แม่ลูกยากไร้
6 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า กรณีเฟสบุ๊ค เพจ “สุรินทร์นิวส์” ได้โพสต์ภาพข้อความ เรื่องราวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของผู้ใชเฟสบุ๊คชื่อ แพร์รี่ พาย หรือมีชื่อจริงว่า น.ส.รวิสรา จำปาทอง ชื่อเล่นว่า แพร อายุ 26 ปี ซึ่งระบุข้อความว่า #ขอคนละ1แชร์ค่ะ หนูอยากสร้างบ้านให้น้องๆ อยากให้น้องมีห้องน้ำ มีน้ำมีไฟ เหมือนบ้านอื่นๆ ตกใจมากครั้งแรกที่เห็น นี่คือบ้านที่น้องๆอยู่กันกับแม่ เห็นแล้วน้ำตาไหล เขาอยู่กันได้ยังไง? น้องน่ารักค่ะ พี่คนโตชื่อ เก็ต ซึ่งเป็นคนดูแลน้องๆทั้ง 3 คน (น้องอีกคนหนึ่งอยู่ในความดูแลของยายค่ะ) ต้องบอกว่าบ้านหลังนี้คือมันไกลผู้คนไกลจากหมู่บ้านเยอะมาก ทุกเช้าแม่ต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่ตี 4”
“น้องเก็ตพี่คนโตจะต้องอุ้มน้องคนเล็กและพาน้องอีกคนหนึ่งเดินไปบ้านยายเพื่อฝากยายเลี้ยง ซึ่งจากบ้านหลังนี้ไปบ้านยายประมาณ 2 กิโลได้ แล้วต้องเดินไปโรงเรียนอีกหลายกิโลเลย น้องเก่งมากนิสัยดี พูดจาเพราะ อ่อนน้อมมากค่ะ พอยกของเสร็จแพรเลยเดินสำรวจรอบๆบ้าน และดูในบ้าน สภาพคือเหมือนในรูปเป็นกระท่อมเล็กๆแค่มีที่นอนแค่นั้น เลยถามว่าห้องน้ำละพี่ คำตอบคือไม่มีต้องขุดหลุมเอา เลยได้คุยกับพี่แกสักพัก แพรไม่รู้หรอกอดีตพี่จะเป็นมายังไง”
“แต่แพรนับถือใจพี่ที่เลี้ยงลูกได้ทั้ง 4 คน แพรเอ็นดูเด็กๆทั้งหมด จักรยานและของใช้ในวันนี้ที่ซื้อมาให้แค่ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยเหลือน้องๆในครั้งนี้ ขอให้ผลบุญที่ทุกคนได้จงดลบันดาลให้ทุกคนมีความสุขความเจริญค่ะ #ขอบคุณพี่นิร้านหน้ามอ#ขอบคุณแอมมิกกี้อรพี่มิ้นพี่ปอน้องกิ้ฟน้องเบนน้องต้นอ้อ#ขอบคุณแทนน้องๆด้วยค่ะ #หาสปอนเซอร์ค่ะอยากสร้างบ้านให้น้อง ใครจะก็อปไปขอแพรก่อนนะค่ะ หรือโทรถามข้อมูลให้แน่ชัดจากแพรค่ะ”
หลังจากโพสต์ได้ไม่นาน สังคมโซเซียลมีเดียกระหน่ำพากันช่วยแชร์เป็นจำนวนมาก ต่างพากันแสดงความเห็น สงสารน้อง ทั้ง 3 คน และอยากให้ความช่วยเหลือ ช่วยสร้างบ้านให้น้อง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง น.ส.รวิสรา ทำให้ทราบว่า ยังมี 4 ชีวิต แม่ลูก ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ พากันอาศัยอยู่กระท่อม ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า น้ำประปา และห้องส้วม เหมือนชาวบ้านคนอื่นเขา พร้อมแจ้งสถานที่ นางสาวรัตนา เนาว์ภา (กบ) อายุ 36ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 บ้านลำดวน ต.ทมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีอาชีพ รับจ้างในร้านแห่งหนึ่งใน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ค่าแรงวันละ 300 บาท อาศัยอยู่กับ ลูก 3 คน ประกอบด้วย น้องเก็ต หรือ ด.ช.ภาสกร สุริยา อายุ 10 ขวบ ,น้องการ หรือ ด.ช.ยศกร เนาวภา อายุ 5 ขวบ และน้องนาวา หรือ ด.ช.นาวา ตาละบัตร 2 ขวบ ส่วนลูกชายอีกคน คือ น้องกรหรือ ด.ช.ธีรภัทร สุริยา อายุ 8 ขวบ ต้องอาศัยฝากนางบัวผัน เนาว์ภา อายุ 55 ปี ผู้เป็นคุณยาย ช่วยเลี้ยงตั้งแต่คลอดออกมาได้เพียง 3 วัน
หลังจากผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้พบความยากลำบาก ของ นางรัตนา เนาว์ภา หรือ กบ อายุ 37 ปี อาศัยอยู่ ภายกระท่อม ลักษณะเพิงหมาแหงน ฝากระท่อมขัดด้วยซีกไม้ไผ่ และหญ้าคา สภาพเก่า ใกล้ผุผัง หลังคาสังกะสีสภาพเก่า กันแดดพอได้ แต่ไม่สามารถกันลมและฝนได้เลย ไม่มีบ้านเลขที่ และไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และห้องน้ำสุขาใชแหมือนชาวบ้านคนอื่นๆเขา สร้างกระต๊อบพอเป็นที่พอซุกหัวนอน 4 คนแม่ลุก บนที่ดิน สค.1 ของผู้เป็นแม่ ที่มาช่วยกันสร้างให้อยู่ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว และทุกๆวัน นางรัตนา เนาว์ภา ต้องตื่นออกจากบ้านไปตั้งแต่ ต4 เพื่อขับรถจักยานยนต์ เข้าไปทำงานรับจ้างรายวันที่ตัว อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ค่าแรงวันละ 300 บาทน้องเก็ต หรือ ด.ช.ภาสกร สุริยา อายุ 10 ขวบ พี่ชายคนโต จะเป็นหุงข้าว ด้วยเตาฟืน ทำกับและดูแลน้องๆ ก่อนขับจักรยานซ้อนพา น้องการหรือ ด.ช.ยศกร เนาวภา อายุ 5 ขวบ น้องชายไปเรียนที่โรงเรียนบ้านลำดวน ระยะทางกว่า 2 กม.
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ จึงได้ปรึกษา น.ส.รวิสรา จำปาทอง น้องแพร กลุ่มจิตอาสา และผู้ใหญ่ใจดี รวมพลังระดมทุนจากผู้ใจบุญ ผ่านเพจ สุรินทร์นิวส์ และเครือข่ายจิตอาสา ต่างๆ รวมทั้ง เฟสบุ๊ค แพร์รี่ พาย หรือ นางสาวรวิสรา จำปาทอง น้องแพร (คนต้นเรื่อง )ทำให้วันนี้ สุรินทร์นิวส์ มีการอัพเดท ความคืบหน้า เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 6 มิ.ย.62 ข้อความระบุว่า ตอนนี้กำลังดำเนินการเขียนแบบ สรุปรายละเอียดในการสร้างบ้านค่ะ และตอนนี้มีผู้บริจาคอุปกรณ์และวัสดุบางส่วน แต่ยังขาดอยู่หลายอย่างเลยค่ะ ใครอยากช่วยเหลือเพิ่มเติม ประสานงาน คุณแพร 062-6282888
น้องเก็ต หรือ ด.ช.ภาสกร สุริยา อายุ 10 ขวบ พี่ชายคนโต เล่าว่า วันที่หยุดเรียนก็จะพาน้องเล่นอยู่ที่บ้าน เวลาว่างก็จะซักผ้า หาฟืนให้แม่ บางวันถ้าว่างก็พาน้องเล่น วันไหนที่ตนไปโรงเรียนก็จะพาน้องไปฝากให้คุณยายช่วยเลี้ยง แต่ก่อนยังไม่มีรถจักรยานต้องพาน้องๆเดินไป-กลับ วันละกว่า 4 กม.เพื่อไปโรงเรียน และแวะเข้าบ้านคุณยาย ซึ่งอยู่กลางทางไปโรงเรียนพอดี ในแต่ละวันจะซ้อนท้ายรถจักรยานพา น้องการหรือ ด.ช.ยศกร เนาวภา อายุ 5 ขวบ เรียนอนุบาล 3 บางวันคุณยายก็จะไปส่ง ตนหุงข้าวและทำกับข้าว ด้วยเตาฟืน แม่เป็นคนสอน ตนไม่รู้สึกเหนื่อย อนาคตก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร
นางบัวผัน เนาว์ภา อายุ 55 ปี ผู้เป็นคุณยาย เล่าว่า ตนรู้สุกสงสารหลานชายที่ต้องเดินไปโรงเรียนระยะทางกว่า 2.5 กม.ก่อนที่จะไม่มีรถจักรยานที่ทาง คุณโป ซื้อมาให้ผ่านน้องแพร มาถึงบ้านยายก็จะไปส่งต่อ ตนเป็นคนไปช่วยสร้างกระท่อมให้หลานๆได้อยู่ จะทำให้ดีกว่านี้ก็ไม่มีทุนในการก่อสร้าง ไหนจะต้องดูแลคุณยายอายุ 90 ปี และดูหลานลูกคนที่ 5 ของลูกสาวที่เอามาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้เพียง 3 วัน นางรัตนา เนาว์ภา มีลูก 7 คน เป็นหม้าย ต้องแบกภาระคนเดียว ตอนนี้ทำงานรับจ้างรายวัน ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ที่กระท่อมยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องจุดเทียน และอาศัยไฟฉายจากโทรศัพท์ ส่องสว่างในยามจำเป็น เวลาจุดเทียน เวลาลมมามันก็ดับมืดไปทั้งบ้าน
ด้าน นางรัตนา เนาว์ภา อายุ 37 ปี เล่าว่า ตนลุกตื่น ตั้งแต่ ตี 4 เพื่อไปทำงาน ลูกชายคนโตจะเป็นหุงข้าว ทำกับข้าว และดูแลน้อง พาน้องไปโรงเรียน ตนเลิกงานกับมาบ้านก็ประมาณ 18.00 น.-18.30 น. มันก็มืด ก็เหนื่อยแล้ว เป็นแบบนี้มานานกว่า 3 เดือนแล้ว ตนมีลูก 7 คน อยู่กับตน 3 คน อยู่กับยาย 1 คน และอีก 3 คน อยู่ จ.น่าน หลังน้องแพร โพสต์เฟสบุ๊ค น้องแพรได้ช่วยเหลือโดยการซื้อของใช้ และรถจักรยานมาให้ลูกชาย ตนอยากได้รับความช่วยเหลือ เป็นบ้านที่ฝนไม่สาด และทุนการศึกษาเด็กๆทั้ง 4 คน ในแต่ละวันลูกชายต้องเดินไป-กลับ บ้านโรงเรียน-วันละ หลาย กม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี