ปัจจุบันหลายคนหันมาสนใจตัวเองด้วยกินผัก ผลไม้ และหันมาออกกำลัง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง และห่างไกลโรคภัยต่างๆ แต่สิ่งที่ทำให้กลับมาคิดหนักเรื่องการกินผัก และผลไม้นั้น คือ การใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช ผัก ผลไม้ที่วางขายสะดวกในการซื้อหาอาจจะเป็นภัยเงียบต่อชีวิตเราได้
อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “
” ได้โพสต์เกี่ยวกับการใช้สารเคมี และที่น่ากลัวหว่านั้น คือ การฉีดยาฆ่าแมลงตอนกลางคืนและนำมาขายตอนเช้า ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์เตือนกันออกไปเป็นจำนวนมากโดยข้อความระบุว่า “เรามาถึงยุคที่ คนไม่เป็นเบาหวานความดัน แต่เป็นมะเร็ง แทน! ยุคนี้บางคนดูแลตัวเองอย่างดี กินผัก เลี่ยงเนื้อแดง ของทอด ออกกำลังกาย แต่อยู่มาวันนึง พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะท้ายๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับคนยุคนี้ ผมมีโอกาสเดินทางแล้วได้ซักถามเกษตรกรปลูกผักปลูกผลไม้จากแหล่งตัวเป็นๆ ทั้งภาคใต้ อีสาน เหนือ ปริมณฑล อื่นๆ พบว่าประเทศเราใช้สารเคมี ในการปลูกพืชทุกหย่อมหญ้า อย่างคนในรูปเป็นคนไข้ที่มาด้วยอาการมือลอกแสบ เมื่อซักประวัติไปแล้วพบว่าเป็นคนฉีดยาฆ่าแมลงในผักแถวตลาดสี่มุมเมือง ด้วยความตกใจ เนื่องจากผมเป็นคนชอบกินผัก เลยถามต่อว่าฉีดยาใส่ผักอะไร ผักอะไรที่เค้าฉีดเยอะสุดในร้าน เค้าจึงตอบว่า “คะน้า กับ ถั่วฝักยาว มีแน่ๆ ไม่ให้กินนะหมอ ฉีดกลางคืนแล้วเก็บมาขายตอนเช้าเลย” อันนี้ไม่รวมกับตอนที่ปลูก OMG
ที่อุบลราชธานีก็เช่นเดียวกัน ผมเดินทางไปเจอกับผอ.โรงเรียนท่านหนึ่ง มีเพื่อนปลูกผักขาย เค้าบอกว่า ใช้สารพิษทั้งแปลง ยกเว้น แปลงที่ปลูกให้ครอบครัวกิน และร้านสะดวกซื้อชื่อดังในอำเภอก็มารับจากสวนเค้าไปแล้วแปะข้างถุง ว่าปลอดสารพิษ ซึ่งตอนนี้ผมก็มาเข้าใจว่าจะกินผักอย่าเลือกผักปลอดสารพิษ คำว่า “ปลอดสารพิษ” จริงๆนั้น คือ มีสารพิษ ในระดับที่ปลอดภัย ใช้ยาฆ่าแมลงเป็นช่วงๆ เว้นตอนใกล้ช่วงเก็บเกี่ยว แล้วแต่ชนิดพืช ต่อให้มีสารพิษระดับที่ปลอดภัยกินเยอะๆ มันก็เป็นระดับสูงแล้วไง แล้วก็ไม่รู้ว่า ระดับนั้นปลอดภัยแน่ป่าว !? ใครมาตรวจสอบ (ที่แน่ๆ เจอเคสที่ฉีดกลางคืน แล้วขายตอนเช้าเลย !!!)
ถ้าจะกินผักยุคนี้ ให้เลือก 3 คำนี้ จะปลอดภัยมากขึ้น ย้ำนะครับ ปลอดภัยมากขึ้น ไม่ได้แปลว่าไม่มี “เกษตรออแกนิค Organic” “เกษตรไร้สารพิษ” และ “เกษตรอินทรี” ไม่เอาคำว่า “ผักอนามัย ผักปลอดสาร” พวกนี้มีแน่ๆ ขนาด organic บางแห่งยังตรวจพบว่ามีสารพิษเลย เนื่องจาก สวนเค้าอาจจะไม่ได้ใช้ก็จริง แต่ดินที่เอามาปลูก สถานที่ปลูกอยู่ใกล้ โรงงานอุตสาหกรรมก็จบ มีเจือปน 100%
ผมเจอแต่ข่าวว่ามีสารเคมีเจือปน ในแหล่งไหนบ้าง แต่ที่อยากรู้คือสวนไหนปลูกแบบไม่ใช้สารพิษเลย หาซื้อได้ที่ไหน แล้วถ้ายิ่งมีการตรวจสอบแหล่งการเพาะปลูกปราศจากสารพิษเลยยิ่งดี อยากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องควรจะเอาผักทุกยี่ห้อ ทุกร้าน ทุกสวนที่ปลูกในท้องตลาดมาตรวจว่ามีสารเคมี อะไรเกินบ้าง เปรียบเทียบแล้วประกาศให้ประชาชนทราบไปเลยว่าร้านไหนปลอดภัยบ้าง ไม่มีสารพิษ เพื่อที่จะเป็นช่องทางการซื้อได้ง่าย และเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร ร้านค้าอื่นๆ ปลูกและขายผักผลไม้แบบไม่ใช้สารสนับสนุน ให้ปลูกผักกินเอง สนับสนุน ให้แหล่งใกล้บ้านปลูกไม่ใช้สารเคมี สนับสนุน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยสุขภาพคนไทย ใช้งบกับการป้องกัน มากกว่า ทุ่มงบในการรักษา”
ทั้งนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้ติดต่อไปยัง ผู้โพสต์ คือ “นายแพทย์ธนบัตร นาตะสุต” อดีตนายแพทย์ประจำคลินิคโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) รพ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม แพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) โรงพยาบาลชลบุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้เล่าถึงเรื่องราวดังกล่าว ว่า ตนอยากผลักดันให้สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนคนปลูกไม่ใช้สารพิษ ซึ่งแน่นอนว่ามันน่ากลัว เห็นกันจะๆ จากคนที่ฉีดจริงๆ คนที่รักสุขภาพ ก็อยากกินผักเพื่อดูแลสุขภาพห่างไกลโรค แต่กลับเจอสารพิษแทนลองดูอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกๆปี ตนเข้าใจด้านของการเป็นฝ่ายผลิตว่าถ้าไม่ฉีดยาพืชผักเสียหายไม่มีรายได้ จึงอยากให้รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้มีการปลูกควบคุมคุณภาพไม่ใช้สารเคมีทุ่มงบตรวจสอบจริงจัง และบอกเลยว่าชุมชนในที่ต่างๆ ควรซื้อผักที่ไหนปลอดภัย
“ปัจจุบัน รัฐทุ่มงบ รักษาเยอะมาก มะเร็งบางชนิดค่ารักษาหลายแสน หลายล้าน คนที่จ่ายก็ คือ รัฐ ภาษีของเราทุกคนงบที่ทุ่มกับการป้องกันคุ้มค่ามากกว่ารักษาแน่นอน เมื่อรัฐเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้ ประชาชนจะมีความตระหนักมากขึ้น เจ้าของธุรกิจ จะได้ คิดหาวิธี ทำให้ผลผลิตตัวเอง ไม่มีสารพิษเช่นเดียวกัน เพื่อที่จะขายได้ตรงความต้องการของตลาด เมื่อก่อนผมเป็นคนชอบทานผักมาก ตอนนี้ต้องหาสถานที่ซื้อผัก แบบใช้สารเคมีน้อยที่สุด ถามแล้วถามอีกจนมั่นใจ ว่าไม่ปลูกด้วยเคมีจริงๆ จึงซื้อมาทำอาหาร อยากให้ทุกฝ่ายนึกถึง สุขภาพพี่น้องคนไทยของเราเป็นหลัก ขายของที่มีคุณภาพไม่มีสารพิษ ส่งเสริมคนที่ทำดี ทำเพื่อสังคม สิ่งที่เราตั้งใจทำกับคนไทย ประเทศไทย สุดท้ายก็จะตกกับลูกหลานของเรา” นายแพทย์ธนบัตร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี