เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สันเขื่อนลำปาว บริเวณหน้าลานพระพุทธสิริสัตตราช หรือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ พระครูศิริปุญญารักษ์ หรือพระอาจารย์บุญเกิด เจ้าอาวาสวัดอัมพวันม่วงน้อย นายสถาพร ฉายประดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชาวบ้านและผู้นำชุมชนใน ต.ลำคลอง รวมถึงเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ร่วมกันนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป ทำพิธีจุดธูปถวายเครื่องเซ่นไหว้บูชา ถวายอาหารคาวหวานผลไม้ และร่วมกันสวนมนต์ขอพรให้หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลาย ตลอดจนเทวาดาและเจ้าที่ ช่วยดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล เพื่อให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวให้มากที่สุด
หลังจากปัจจุบันเขื่อนลำปาวประสบปัญหาปริมาณไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อยต่ำสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากฝนทิ้งช่วงและฝนตกน้อยทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะส่งผลกระทบให้ประสบกับปัญหาวิกฤติภัยแล้งทั้งนาข้าวและการประมงโดยเฉพาะเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในอนาคต
นายสถาพร ฉายประดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตำบลลำคลองนั้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะประกอบอาชีพการเกษตรนาข้าว ประมง โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ซึ่งต้องอาศัยน้ำหลักจากเขื่อนลำปาว แต่สถานการณ์ปัจจุบันเท่าที่ติดตามข้อมูลพบว่าเขื่อนลำปาวที่ถือเป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวตำบลลำคลองและประชาชนชาวกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงนั้นมีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 425.45 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 21.49 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณน้ำใช้การได้เพียง 325.45 ล้านลบ.ม.เนื่องจากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อยมาก สาเหตุเกิดจากเพราะฝนทิ้งช่วงและตกในพื้นที่น้อยทำให้ปริมาณไหลเข้าน้อยตามไปด้วย
ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 30 ปี ซึ่งทางเทศบาลตำบลลำคลองเองก็พร้อมที่จะปฏิบัติและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ตามนโยบายของ จ.กาฬสินธุ์ และรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายสถาพร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจคลายความวิตกกังวลให้กับชาวบ้านทางพระครูศิริปุญญารักษ์ หรือพระอาจารย์บุญเกิด เจ้าอาวาสวัดอัมพวันม่วงน้อย จึงได้ร่วมกับชาวบ้านจัดพิธีทำบุญถวายเครื่องเซ่นไหว้ และร่วมกันสวดมนต์ขอพรจากหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทวดาฟ้าดินช่วยดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะมีน้ำเพียงพอต่อการเกษตรกรและการประมง ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นความเชื่อ และประเพณีวัฒนธรรมของชาวอีสานที่ร่วมกันทำบุญแล้วทำให้เกิดความสบายใจ มีกำลังใจที่จะทำมาหากินต่อไป เพราะชาวบ้านเกรงว่าหากสถานการณ์เขื่อนน้ำน้อยเช่นนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรและการประมง โดยเฉพาะกุ้งก้ามกรามของพี่น้องประชาชนในอนาคตได้
ด้านนางทับทิม ภูมาตนา อายุ 61 ปี ชาวบ้าน ใน ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาอายุปูนนี้แล้วไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนที่มีฝนตกน้อยและน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยมาก ทั้งๆที่อยู่ในช่วงหน้าฝน อย่างไรก็ตามตั้งแต่จำได้เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 30 ปี ส่วนการทำบุญและสวดมนต์ขอฝนฟ้าให้ตกต้องตามฤดูกาลนั้น เป็นการทำกิจกรรมร่วมกันของชาวบ้าน ที่ขอพรจากสิ่งศักดิ์ เพื่อให้น้ำในเขื่อนมีเพียงพอจะได้ไม่ประสบกับปัญหาภัยแล้งในอนาคต ซึ่งหลังจากทำเสร็จแล้วทำให้ทุกคนมีความสบายใจและคลายความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่าสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงและตกในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์น้อยและต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยมากถึง 49 % จากค่าเฉลี่ยปริมาณฝนสะสมอยู่ที่ 1,049 มม. โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 จนถึงปัจจุบันมีปริมาณฝนเพียง 519 มม. นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำลำปาวยังต่ำกว่าเกณฑ์มาก โดยค่าเฉลี่ยน้ำไหลเข้าอ่างอยู่ที่ 1,079 ล้าน ลบ.ม.แต่มีปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 จนถึงปัจจุบันเพียง 244 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณน้ำหายไปกว่า 834 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทาง จ.กาฬสินธุ์ ได้มีมาตรการเตรียมความพร้อม และแนวทางการช่วยเหลือหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงในอนาคต ทั้งการระดมทุกภาคส่วนเตรียมรับมือสถานการณ์ พร้อมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งเฝ้าระวังระบบประปา และเตรียมภาชนะไว้กักเก็บน้ำ รวมทั้งเร่งสำรวจแหล่งน้ำใต้ดิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี