หนึ่งมุมคิด‘หมออลงกรณ์’...‘กำแพงไม้ไผ่’กำจัดจุดอ่อน-ป้อง‘ช้างตกเหว’ซ้ำรอย
9 ตุลาคม 2562 นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ กรรมการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีช้างป่า 13 ตัว ตกลงไปในเหวนรกบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นข่าวใหญ่ที่ทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจ เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2535 ซึ่งในตอนนั้นตกลงไป 8 ตัว เสียชีวิตทั้งหมด ไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปเกือบ 30 ปี ก็เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจนได้ ในอดีตที่ผ่านมาก็มีการป้องกันโดยทำรั้วซึ่งเป็นเสากั้นไว้ไม่ให้โขลงช้างพลาดตกลงไปอีก แต่คราวนี้ตาย 11 ตัว มีโชคดีรอด 2 ตัว คงต้องมีการระดมความคิดที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในภายภาคหน้า
ทั้งนี้ ธรรมชาติของช้างป่านั้น พวกมันจะใช้ทางเดินในป่าธรรมชาติที่เรียกว่า “ด่านช้าง” เป็นทางเดินตามปกติของมันทุกวัน ด่านช้างนี้บรรพบุรุษของช้างป่าใช้เป็นเส้นทางเดิน โดยการเหยียบย่ำพื้นดินบริเวณนี้ซ้ำๆกันทุกวันจนเป็นทางเตียนโล่งในป่า ขนาดกว้าง 0.5-1.0 เมตร ทอดเข้าไปในป่าไม่มีที่สิ้นสุด ถือเป็นทางที่ปลอดภัยต่อพวกช้าง สัตว์ป่าชนิดอื่นๆ รวมทั้งมนุษย์ก็ใช้ทางนี้เป็นทางเดินหลักเช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็น “จุดอ่อน” ของสัตว์ป่าเพราะพวก “พรานป่า” และพวกที่ล่าสัตว์ป่าก็จะใช้เส้นทางนี้ในการดักทำร้ายสัตว์ป่า ยิงสัตว์ป่าซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ในทางลบ
ในเวลาเดียวกันช้างป่าและสัตว์ป่าก็จะเรียนรู้ไปในตัวเองว่ามนุษย์เป็นอันตราย เจอที่ไหนก็จะพุ่งเข้าทำร้ายมนุษย์ทันที ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ช้างป่าเกิดเหตุการณ์น้ำตกเหวนรกอีก น่าจะเป็นวิธีการป้องกันที่ดี โดยใช้ธรรมชาติเข้ามาช่วย คือ การทำ “กำแพงไม้” ที่ช้างไม่สามารถเข้าไปถึงจุดที่เป็นน้ำตกได้ เพราะช่วงนั้นเป็นธรรมชาติของมัน เมื่อถึงฤดูฝนน้ำตกจะมีเป็นจำนวนมาก แตกกระเซ็นเป็นฝอย และละอองน้ำเต็มไปหมด ทำให้ทั่วบริเวณลื่น เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาร่างกายจะตกลงไปกระแทกพื้นข้างล่างบาดเจ็บ ถ้ายังไม่ตายก็ต้องทนแช่อยู่ในน้ำเย็นที่อุณหภูมิของน้ำ 10-18 องศาเซลเซียส เทียบกับอุณหภูมิร่างกายของช้าง 37-38.5 องศาเซลเซียส สัตว์ป่าก็ต้องทนความหนาวเย็นไม่ไหวจนเสียชีวิต
นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ ระบุว่า การป้องกันโดยการสำรวจแนวหรือเส้นทางที่เป็นเหวนรก หรือจุดที่เปราะบางที่โอกาสที่ช้างจะพลาดตกอยู่ช่วงไหน ก็ลงมือปลูกต้นไม้ธรรมชาติที่คิดว่าเหมาะสม และแข็งแรงทนต่อแรงกระแทกของช้าง ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิดในเขาใหญ่ ในความคิดเห็นส่วนตัวที่เคยสัมผัสมาในอดีต ในป่าแต่ละแห่งของไทยต้นไผ่เป็นไม้ธรรมชาติที่เหมาะสมที่สุด “ไผ่ตง” ขนาดลำที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้วขึ้นไป จะมีความสูง 30-40 เมตร ปลูกเป็นระยะๆ ความห่างระหว่างกอไผ่ 10 -20 เมตร
ช่องว่างความห่างระหว่างกอไผ่ตงให้ปลูกกอ “ไผ่หนาม” ซึ่งเมื่อโตเต็มที่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-10 เมตร สูงประมาณ 10 เมตร เวลา 3 ปีขึ้นไปกำแพงไผ่ดังกล่าวจะอัดกันแน่นเป็นกำแพงทึบ เพราะต้นไผ่จะแตกหน่อไม้ทุกปี และเจริญออกในแนววงกลมโดยรอบ ถ้าต้องการให้กำแพงหนา 10 เมตร ก็อาจจะปลูกไผ่ 2 แนว ยิ่งเป็นการเพิ่มจำนวนไผ่และความหนาของไผ่เร็วยิ่งขึ้น
“อันนี้เป็นหลักการในการสร้างกำแพงธรรมชาติป้องกันช้าง กำแพงดังกล่าวอาจยาวได้ถึง 1-10 กิโลเมตร ตามแนวป้องกันที่คดเลี้ยวตามธรรมชาติ อย่าไปสร้างแนวป้องกันใหม่ขึ้นมาเพราะจะไปทำลายธรรมชาติโดยไม่จะจำเป็น” นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ กล่าว
นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า การป้องกันอีกประการหนึ่ง คือ “ลดกิจกรรมนักท่องเที่ยว” ที่จะไปเที่ยวบริเวณ “น้ำตกเหวนรก” ควรกันบริเวณนี้ให้เป็นที่อยู่ของช้างป่าและสัตว์ป่าชนิดอื่นๆเท่านั้น ไม่ควรให้มนุษย์เข้าไปรบกวน ควรให้เป็นที่ส่วนตัวของสัตว์ป่า อาจกำหนดรัศมีจากบริเวณเหวนรกออกไป 3-5 กิโลเมตร เป็นอย่างน้อย
“ผลพลอยได้” ที่จะตามมา คือ ป่าไม้จะเพิ่มจำนวนขึ้น ภาวะเครียดในสัตว์ป่าลดลง เนื่องจากไม่ต้องระแวงมนุษย์
ประการสุดท้าย คือ นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยว “เขาใหญ่” ควรอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยานโดยใกล้ชิด ถ้าจะเดินท่องเที่ยวชมป่าควรมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางเนื่องจากเจ้าหน้าที่จะรู้ว่าตรงจุดไหนที่ไม่ควรไป เพราะอาจจะไปรบกวนธรรมชาติหรือพฤติกรรมของสัตว์ป่าได้
“สุดท้ายนี้อยากฝากข้อคิดว่าการเกิดอุบัติเหตุของช้างป่าคราวนี้ ขอให้เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ผู้แข็งแรงเท่านั้นที่จะเอาชีวิตรอด (Struggle for survival) มนุษย์มีหน้าที่ที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ก็โดยใช้สมองของเราที่มีอยู่หาทางแก้ไขให้สัตว์ป่าอยู่รอดได้ และหวังว่าช้างป่า 2 ตัว ที่อยู่รอดก็คงนำเหตุการณ์ที่เศร้าสลดนี้ไปถ่ายทอดให้ตัวที่เหลืออยู่ได้รับทราบและสามารถเอาตัวรอดได้ในภายหน้า” นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี