เรื่องการทำมาหากินของชาวบ้าน หรือเรื่องปากท้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกวันนี้ถือว่าการทำมาหากินค่อนข้างจะลำบากพอสมควร โดยก่อนหน้านี้มีผลโพล ออกมาในทิศทางเดียวกันว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขเป็นอันดับแรก คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ รัฐบาลได้กระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้นด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งนี้ก็ต้องมาดูว่าภายใน ปี 2563 เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นมากน้อยเพียงใด

วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นจากวัยรุ่นเพื่อเป็นเสียงสะท้อนให้รับรู้ว่าปัญหาไหนที่ต้องเร่งกันช่วยแก้ไข โดยทีมข่าวฯ ได้พูดคุยกับ “นางสาวกนกวรรณ เสมอใจ” หรือ “น้องน้ำขิง” อายุ 22 ปี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงค่าครองชีพในปัจจุบัน ว่า ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าคนระดับไหน  เพราะว่าในสังคมไทยความเท่าเทียมกันมีน้อย เหมือนคนที่รวยก็รวยมากไปเลย ส่วนคนที่ไม่มีก็แทบจะลืมตาอ้าปากไม่ได้ เพราะพื้นฐานของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ค่าครองชีพของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน

**คิดว่านักศึกษาจบใหม่ที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำเพียงพอหรือไม่

นางสาวกนกวรรณ ให้เหตุผลว่า ก็ต้องดูว่าคนๆนั้นเป็นคนใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยหรือไม่ เพราะถ้าเราประหยัดใช้ไม่ต้องติดหรู หากเป็นคนที่อยู่ต่างจังหวัดมาทำงานที่กรุงเทพฯ  ก็ต้องประหยัดกว่าคนที่เป็นคนกรุงเทพฯ เพราะต้องเช่าบ้านหรือเช่าที่พักอาศัย สำหรับตนนั้นจะหมดไปกับค่าเดินทางเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ขึ้นอยู่ในแต่ละวัน เพราะบางวันเพื่อนชวนไปกินข้าว ซึ่งรวมๆแล้วใช้เงินวันละ 300-400 บาท

และการที่ของกินของใช้จะแพงขึ้นนั้น อยู่ที่อัตราเงินเฟ้อ แต่สังคมไทยในปัจจุบันเงินยังไม่เฟ้อขนาดนั้น จึงคิดว่าของใช้ของกินอาจจะแพงขึ้นเล็กน้อย ไม่แพงขึ้นมาก แต่หากในอนาคตราคาข้าวแกงจานละ 100 บาท คนที่ทำงานพื้นฐานเงินเดือนรายได้ขั้นต่ำก็ถือว่าใช้ชีวิตลำบาก

“อยากให้ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพราะคนที่รวยก็รวยเพิ่มขึ้น แต่คนที่จนพวกเขาก็แทบจะลืมตาอ้างปากไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ใครก็ได้ที่ดูแลในส่วนนี้มาช่วยแก้ไขปัญหาการเหลื่อมล้ำในสังคมด้วย อย่าปล่อยให้เป็นสังคมที่ไม่มีความเท่าเทียมกัน” นางสาวกนกวรรณ กล่าว

**เรามีวิธีเก็บออมได้อย่างไรบ้าง?

นางสาวกนกวรรณ กล่าวต่ออีกว่า เราต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด เพราะสังคมในปัจจุบันทำให้คนอยากมีอยากได้สิ่งโน้นสิ่งนี้ เพราะโลกโซเชียลเข้ามามีบทบาทและเข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้เห็นคนอื่นมีแล้วทำให้เราอยากมีด้วย แต่เราต้องพอใจในสิ่งที่เรามีไม่ต้องไปฟุ่มเฟือยตามคนอื่น

“การใช้เงินขึ้นอยู่ว่าเราใช้ชีวิตแบบไหน ใครที่ใช้ชีวิตแบบหรูหราก็อาจจะไม่มีเงินเก็บ แต่ใครที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายพอมีพอกินก็จะมีเงินเก็บ สำหรับตนถ้าใช้เงินอย่างประหยัดคิดว่าเพียงพอสำหรับเงินขั้นต่ำหากจบไป แต่ถ้าใครอยากจะมีเงินมากกว่าเงินเดือนก็ลองหางานพิเศษทำเล็กๆน้อยๆ เชื่อว่าอาจจะมีเงินเก็บมากกว่าคนที่ใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย” น้องน้ำขิง กล่าวทิ้งท้าย