วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ห่วงปิดศูนย์เรียนรู้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติที่ระนอง ทำเด็กต่างด้าวเข้าไม่ถึงการศึกษา

ห่วงปิดศูนย์เรียนรู้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติที่ระนอง ทำเด็กต่างด้าวเข้าไม่ถึงการศึกษา

วันพุธ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 20.49 น.
Tag : ศูนย์เรียนรู้ แรงงานข้ามชาติ ระนอง เด็กต่างด้าว
  •  

ห่วงปิดศูนย์เรียนรู้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติที่ระนอง ทำเด็กต่างด้าวเข้าไม่ถึงการศึกษา 

18 ธ.ค. 2562 น.ส.ลัดดาวัลย์ หลักแก้ว ผู้จัดการโครงการมูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท กล่าวในงานแถลงข่าว “จัดเกรดนโยบายการย้ายถิ่นของรัฐบาลตู่ รุ่งหรือร่วง” ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) อาคารมณียา ย่านชิดลม กรุงเทพฯ ถึงกรณีการปิดศูนย์การเรียนรู้ของเด็กชาวเมียนมา ที่ จ.ระนอง พร้อมผลักดันครูชาวเมียนมาที่มาสอนหนังสือให้เด็กๆ ลูกหลานแรงงานข้ามชาติกลับประเทศเนื่องจากทำงานผิดประเทศ เมื่อเดือน ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ว่า ในความเป็นจริงรัฐบาลไทยให้สิทธิด้านการศึกษากับเด็กทุกคนในประเทศไทยแม้ไม่มีสัญชาติไทยก็ตาม 


โดยมีเด็กที่ไม่ใช่สัญชาติไทยจำนวน 1.6 แสนคน อยู่ในการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบ ทั้งที่เป็นแบบหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) และแบบศูนย์การเรียนรู้ของเด็กข้ามชาติ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้นั้นได้มีส่วนช่วยรัฐบาลไทยให้จัดการศึกษาได้ครอบคลุมเด็กทุกกลุ่ม ปัจจุบันมีศูนย์ลักษณะนี้ในประเทศไทย 128 แห่ง กระจายไปในจังหวัดที่มีแรงงานข้ามชาติหนาแน่น มีเด็กอยู่ในศูนย์ฯ 19,410 คน ครู 962 คน โดยครูนั้นมีทั้งที่เป็นคนไทยและผู้มีสัญชาติเดียวกับเด็ก ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา รองลงมาเป็นชาวกัมพูชา

“ศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่เป็นทางการ แต่เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะสมกับบริบทของเด็กข้ามชาติ แต่สถานะของศูนย์ฯ ยังไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย ทำให้หลักสูตรที่ใช้ไม่ได้รับการรับรองไปด้วย ส่งผลให้เด็กไม่สามารถใช้วุฒิการศึกษาในการทำงานและการเรียนต่อได้ทั้งในประเทศไทยและเมื่อกลับไปยังประเทศต้นทางแล้ว นอกจากนี้สถานะของครูผู้สอนยังเป็นการจ้างงานที่ไม่ตรงกับที่รัฐอนุญาตให้ทำ จนนำไปสู่เหตุการณ์การกวาดจับผู้สอนในศูนย์การเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระนอง” น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าว

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวต่อไปว่า แม้จะมีความพยายามย้ายเด็กที่เป็นบุตรหลานของแรงงานข้ามชาติไปเรียนในโรงเรียนร่วมกับนักเรียนไทยซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ในทางปฏิบัติพบว่ามีเด็กข้ามชาติเพียงราว 300 คนเท่านั้นที่ได้เข้าไปเรียน ขณะที่อีกกว่า 2,000 คนยังเข้าไม่ถึง ซึ่งการที่เด็กไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาอาจต้องเผชิญความเสี่ยงต่างๆ นานา เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองยังทำงานอยู่ในประเทศไทย ตนจึงเสนอแนะว่าภาครัฐของไทยควรหาช่องทางปรับสถานะและคุณภาพของศูนย์การเรียนรู้ของเด็กข้ามชาติโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพราะนั่นหมายถึงการคุ้มครองเด็กด้วย

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2562 อู มโย มิยิน ตาน (U Myo Myint Than) เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทย โดยในช่วงหนึ่ง เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย แสดงความเป็นห่วงกรณีการปิดศูนย์การเรียนรู้เด็กเมียนมาที่ จ.ระนอง พร้อมกับส่งตัวครูผู้สอนจำนวน 32 คน ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานกลับประเทศ จึงได้ขอหารือกับเพื่อให้มีแนวทางในการจ้างครูผู้สอนได้ถูกต้องตามกฎหมาย บรรเทาความเดือดร้อนให้กับนักเรียนชาวเมียนมาในพื้นที่

อนึ่ง ประเทศไทยนั้นร่วมรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child - CRC) ซึ่งในข้อ 28 (ข้อย่อย 1) กำหนดให้รัฐภาคีต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กทุกคนไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสัญชาติของรัฐนั้นๆ ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จนเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2548 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเรื่อง ร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐาน วัน เดือน ปีเกิด ในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. .... (การจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย) 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็กทุกชาติได้เรียนเท่าเทียม ไม่แค่‘สิทธิ’ไทยก็ได้ประโยชน์ - 6 มิ.ย. 2562
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ปัญหาครูต่างชาติผิดกฎหมาย: ผลกระทบทางการศึกษา และความมั่นคงของประเทศ\' 'ปัญหาครูต่างชาติผิดกฎหมาย: ผลกระทบทางการศึกษา และความมั่นคงของประเทศ'
  •  

Breaking News

โหร‘AI’ไขดวงชะตา! ‘ChatGPT’ที่พึ่ง‘ไทยสายมู’ยุคดิจิทัล

อนุสาวรีย์แห่งการโกง! ‘สรรเพชญ’ติดตามคืบหน้า‘อควาเรียมหอยสังข์’

'มทภ.2'ลั่น!อดทนถึงที่สุด ถ้าต้องใช้กำลังก็พร้อมรักษา'แผ่นดินไทย'

นักวิชาการ มธ.แนะรัฐปรับการสื่อสารใหม่ ชี้บรรยากาศ‘ไทย-กัมพูชา’เข้าข่ายวิกฤตแล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved