สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ล่าสุด (3 เมษายน 2563) มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก โดยประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อ 1,978 ราบ เสียชีวิต 19 ราย กำลังรักษาตัว 1,378 ราย รักษาหายแล้ว 581 ราย แต่มันยังไม่หยุดแค่นั้น และไม่มีทีท่าว่าจะหยุแพร่เชื้อ มิหนำซ้ำยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรเชื่อว่าในใจคนไทยอยากให้โรคระบาดโควิด-19 หายไปจากประเทศไทย
“ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นประชาชน ว่า “หากโรคระบาดโควิด-19 ยุติลง และหายไปจากประเทศไทย สิ่งแรกที่อยากทำมากที่สุดคืออะไร” โดย“นางสาวอธิกร ศรีหมื่นดร” อายุ 29 ปี อาชีพแม่ค้าออนไลน์ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดโรคระบาดไม่สามารถไปไหนได้ หรือถ้าจะออกไปทำธุระข้างนอกก็ทำได้ไม่เต็มที่เท่าไรนัก แต่ถ้าหมดโควิด-19 จะ “กลับบ้านไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัด” เพื่อพักผ่อน และจะพาครอบครัวไปทำบุญไหว้พระและพาไปเที่ยวทุกที่ที่อยากไป เมื่อเที่ยวเสร็จมีความคิดว่าอยากจะไปศึกษาวิธีการทำเกษตรพอเพียงตามศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ เพราะเรามีที่ดินที่ต่างจังหวัดก็อยากจะทำเกษตรพอเพียงไว้ หากเกิดวิกฤตเช่นนี้อีกเราจะได้มีแหล่งอาหารเป็นของตัวเองไม่ต้องไปแย่งกักตุนของกับใคร
ขณะที่ “นางสาวธนพร วิศิษฏินาภรณ์” อายุ 30 ปี อาชีพแม่บ้าน ให้เหตุผลว่า ถ้าโควิด-19 ยุติลง จะออกไป “สูดอากาศตามสถานที่ต่างๆ” เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เห็นแค่ห้องสี่เหลี่ยมไปเห็นธรรมชาติหลังโควิด-19 บ้าง เพราะอยู่แต่บ้านมานานได้แต่ดูหนัง ทำงานบ้านเท่านั้น ถ้าเบื่อก็ได้แค่ออกไปหน้าบ้านไม่กล้าไปไหนไกลๆ กลัวจะนำเชื้อกลับมาติดลูก จากนั้นจะไปเข้าร้านเสริมสวยทำผม ทำเล็บดูแลตัวเองบ้างเพื่อผ่อนคลาย
ส่วน “นายธนชัย แสงจันทร์” อายุ 35 ปี อาชีพรัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า ถ้าสถานการณ์แพร่ระบาดดีขึ้น หรือ จบลง จะทำอะไร ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะเชื่อว่าหลายคนน่าคิดเหมือนกันว่า ตอบไม่ถูก เพราะแค่เริ่ม work from home อาทิตย์เดียว ก็เหมือนใจจะขาด “อยากไปเที่ยวทะเล ภูเขา อยากไปซื้อของที่ห้าง อยากไปกินข้าวร้านประจำ อยากไปกินก๋วยเตี๋ยวปากซอย อยากกลับบ้านหาแม่ ไปเล่นกับหลาน” แต่ทุกอย่างต้องถูก “แป๊ะโป้ง” เอาไว้ก่อน เพราะรัฐบาลขอความร่วมมือไม่ให้ออกต่างจังหวัด ด้วยมาตรการทางสังคม “โรคไม่ติดต่อ คนไม่ติดต่อ”
ดังนั้น ช่องทางเดียวที่จะสื่อสารกับคนอื่นได้ คือ โซเชียลมีเดีย เช่น จะคุยกับเพื่อนร่วมงาน และ เจ้านายก็เป็น zoom แต่ถ้าคุยกับครอบครับจะใช้ไลน์ ซึ่งข้อจำกัดที่กล่าวมา น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แต่หลังจากโควิด-19 หมดไป เราก็อยากกลับบ้านไปหาพ่อ แม่ ไปเล่นกับหลานที่กำลังน่ารักที่ต่างจังหวัด เพราะโดยส่วนตัวเกิดที่จังหวัดขอนแก่น จากนั้นจะพาที่บ้านไปกินอะไรอร่อยๆ หรือ ชวนกันไปทำบุญ อุทิศให้กับผู้ที่เสียชีวิตกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งประวัติศาสตร์นี้ ผมเชื่อว่าเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนไม่อาจลืม แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ถึงจะได้กลับบ้านต่างจังหวัด หรืออาจจะยังไม่ได้กลับ เพราะระบบการทำงานจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ก็กังวลอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ งานก็ต้องมาก่อน
ด้าน“นางสาวณัษฐพร อินทร์คง” อายุ 33 ปี อาชีพออแกไนซ์ บอกกับทีมข่าวฯ ว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ยุติลง สิ่งแรกที่จะทำ คือ การรีแลกซ์ร่างกายให้ผ่อนคลาย ทั้งการเข้าร้านนวด การเข้าร้านเสริมสวย เพราะจากการใช้ชีวิตในช่วงที่มีการแพร่ระบาดเราต้อง "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ" เพื่อลดการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการทำงานที่บ้าน หรือที่เราเรียก work from home (WFH) ซึ่งที่ผ่านมานั้นค่อนข้างเครียดพอสมควร ทั้งเรื่องงานที่ได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดของโรค การทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ การเสพข่าวสารต่างๆ ทำให้จิตใจหมกมุ่นและเป็นวิตกคิดแต่เรื่องโควิด-19
นางสาวณัษฐพร บอกอีกว่า ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างการใช้โทรศัพท์นานๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการสะสมของอาการปวดเมื่อย ล้าในส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนั้นสิ่งแรกที่จะรีแลกซ์ร่างกายให้คุ้มค่ากับความเครียดที่ผ่านมา คือ "การนวด" ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายได้สะดวกขึ้น ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการทำงาน แก้อาการปวดเมื่อยและช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี และหลังจากนวดเสร็จ ร่างกายจะผ่อนคลายสบายตัวสบายใจ รู้สึกสดชื่นจากสมุนไพรที่ใช้นวด ก็จะกระฉับกระเฉงขึ้น หลังจากนั้นก็เข้าร้านเสริมสวย สระผม อบไอน้ำ ทำเล็บเพื่อให้ผ่อนคลายทั้งตัว
“นางสาวทัชชา ศรียานนท์” อายุ 31 ปี รัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า ถ้าหมดโควิดจะ “กลับบ้าน” เป็นอย่างแรก เพราะล่าสุดที่ได้กลับบ้าน คือช่วงปีใหม่เป็นวันหยุดยาวจึงเป็นโอกาสดีๆ ที่เราจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวเรา และเป็นวันพักผ่อนจริงๆ เพราะได้อยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย
ล่าสุดดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง Hi! Bye Mama เป็นเรื่องของผีที่ได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง ชอบประโยคนึงมาก ประมาณว่า “เราจะไม่มีทางเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ทุกวันนี้หรอก จนกว่าเราจะไม่มีมันอีกแล้ว” เหมือนกับว่าเค้าไม่เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่จนกระทั่งตายไปเป็นผี กรณีโควิดนี่ก็เหมือนกัน เราจะไม่รู้สึกยินดีมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลย เช่น การที่ทุกๆวันได้ขับรถ ไปทำงาน ไปเจอเพื่อนร่วมงาน หรืออะไรใหม่ๆ ได้ไปเดินเล่นสวนสาธารณะ เบื่อก็ไปดูหนัง ไม่ต้องมารู้สึกระแวงใคร กอดกับเพื่อนได้อย่างสนิทใจ พวกนี้เราจะไม่เห็นคุณค่าเลยถ้าไม่มีโรคระบาดขึ้นมา
ขณะเดียวกัน “นางสาวรัตนาพร โอภาสพินิจ” อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานบริษัท กล่าวว่า สิ่งแรกที่อยากทำมากที่สุด คือ “กลับบ้าน” เพราะในหัวตอนนี้คิดถึงคอนบครัวมาก จะกลับไปตอนนี้ก็ไม่ได้ หากสถานการณ์ดีขึ้น ไวรัสโควิด-19 หายไปจากประเทศไทย เราคงจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ แต่ตอนนี้สิ่งที่เราช่วยได้คือ การอยู่บ้าน หยุดเชื้อ ในการแพร่ระบาด ตนอดทนที่ไม่กลับบ้านต่างจังหวัดในระยะก่อนหน้านี้ แต่หากหลังการระบาดตนจะขอกลับไปนอนพักผ่อนสมองที่บ้าน เพื่อคลายความผ่อนคลาย
ส่วน “ปิยกาญจน์ ชูทอง” อายุ 21 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนหวังว่าไวรัสโควิด-19 หายไปไวๆ และสิ่งแรกที่อยากทำหลังจากเคลียร์ตัวเองเสร็จ คือ “ออกไปเที่ยวชมธรรมชาติ สัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติ” หลังจากที่ต้องทนอยู่บ้านมานาน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เราต้องร่วมมือกัน อย่าออกไปไหนหากไม่จำเป็น เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของไวรัวโควิด-19 และเราจะได้ใช้ชีวิตอย่าปกติเหมือนเดิม
ทั้งนี้ เราไม่รู้เลยว่าไวรัสโควิด-19 จะหายไปตอนไหน แต่ช่วงนี้ถือว่าเป็นการเบรกจังหวะชีวิตให้ช้าลง ใช้ความคิดกับตัวเองให้มากขึ้น เราเชื่อว่า “ฟ้าหลังฝนจะงดงามเสมอ” และหลายๆคนที่ทำงานต่างจังหวัดคงอยากกลับไปอยู่ใกล้ๆ พ่อแม่ กอดให้หายคิดถึง หรือบางคนแค่อยากออกไปสัมผัสธรรมชาติ เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายจากภาวะความเครียดริมทะเล หรือตะโกนให้เสียงดังๆ บนภูเขา แล้วเราจะกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนเดิมหลังวิกฤตโควิด-19
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี