นาทีนี้คงไม่มีใครไม่เคยฟังเพลงที่ร้องว่า “เจนค่ะ นุ่นค่ะ โบว์ค่ะ ลัน ลั้น ลา ลัน ลั้น ลา ” และร้องตามไม่ได้อย่างแน่นอน เพลงนี้เคยดังเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากวง ซุบเปอร์วาเลนไทน์ วงดนตรีลูกทุ่งค่ายท๊อบไลน์ ไดมอนด์ ที่เดิมชื่อวง วาเลนไทน์ และภายหลังเพิ่มคำว่า ซุบเปอร์ นำหน้า หลังจากเปลี่ยนตัวนักร้องใหม่เป็น 3 สาว ชื่อ เจน นุ่น และ โบว์

เพลงนี้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง โดย ยูทูบเบอร์ ชื่อ Haiseoul Channel ที่มักจะนำเพลงดังต่างๆ มา cover ทำเป็นลิปซิ้งค์ โดยทำคลิปเต้นเป็นเจน นุ่น และโบว์ ในคนๆ เดียว และนำคลิปทั้งสามมาตัดต่อเป็นคลิปเดียวแบบมีสามคน หลังจากอัพโหลดลงยูทูป ด้วยเพลงที่ติดหูและร้องตามได้ไม่ยาก บวกกับท่าเต้นที่สนุกสนาน ทำให้ยอดวิวทะลุล้านภายในไม่กี่วัน

การหยุดและอยู่บ้าน ทำตามนโยบายชาติ ต้านการแพร่กระจายของโควิด-19 กับกิจกรรมคลายความเครียดผ่านแอบปลิเคชั่น TikTok ที่เน้นให้ผู้ใช้นำเสนอผลงานที่ตนสร้างสรรค์ ส่งผลให้เพลงของ ซุบเปอร์วาเลนไทน์ ถูกนำไปใช้ใน TikTok และแชร์กันอย่างแพร่หลาย บรรดาดารา เซเลป และบุคคลทั่วไปต่างกระหน่ำโพสต์คลิปของตนในสื่อโซเชียล ระยะ 2-3 วันนี้ตามหน้าฟีดของเฟสบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูป TikTok ฯลฯ จึงเต็มไปด้วยคลิปและเสียงเพลง เจน นุ่น โบว์ จนใครที่ยังไม่รู้จักก็เสมือนถูกบังคับให้ฟังและดู และสามารถร้องตามได้โดยไม่รู้ตัว

ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น เพลงมะล่องก่องแก่ง (พจน์ สายอินดี้) เพลง Any Song (Zico ศิลปินเกาหลี) เพลง แอบมองเธออยู่นะจ้ะ (BNK48) เพลง Let it go (เรื่อง Frozen ภาพยนตร์การ์ตูนของดิสนีย์) เพลง กังนัมสไตล์ (PSY ศิลปินเกาหลี) หรือเพลง PPAP (Pen-Pineapple-Apple-Pen ของ Pikotaro) เป็นไวรัลดังในอดีตที่น้อยคนคงไม่รู้จัก โดยเฉพาะเพลงสุดท้าย PPAP ที่เนื้อเพลงทั้งสั้น ใช้คำง่ายๆ จำได้ไม่ยาก ทำให้สามารถกลบกระแสเพลงดังอย่างกังนัมสไตล์ ให้ทุกคนหันไปร้องและทำคลิปเพลงที่ต้องมี ปากกา แอ๊บเปิ้ล และสับปะรด แทน จนหลายๆ

คนเกิดอาการหลอน เพราะสลัดเอาเพลงนี้ออกจากหัวไม่ออก หรือห้ามการร้องตามไม่ได้ Earworm อาการเพลงหลอนหู มีชื่อเรียกเป็นภาษาทางการว่า Involuntary Musical Imagery (INMI) เป็น อาการหลอนของเพลงที่วนเวียนอยู่ในหู แม้ว่าจะไม่ใช่เพลงที่ชอบก็ตาม สาเหตุของอาการนี้เกิดจาก เนื้อ จังหวะและทำนองของเพลง ที่ได้ยินซ้ำๆ ส่งผลให้สมองจดจำอย่างวนเวียนซ้ำๆ จนกลายเป็นอาการหลอนหูที่สุด โดยเฉพาะถ้าเพลงนั้นเป็นเพลงที่มีจังหวะสนุก

การกักตัวเองและพฤติกรรมการเสพย์สื่อออนไลน์ระหว่างอยู่ที่บ้านที่มีมากกว่าเดิม อาจยิ่งทำให้มีโอกาสเกิดอาการหลอนหูมากขึ้น แม้จะก่อความรำคาญแต่ก็ไม่ได้มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย คนที่เกิดอาการนี้ มักเป็นคนที่มีความจำดี อ่อนไหวง่าย สามารถแก้ไขอาการให้ลดน้อยลงได้ 5 วิธี ดังนี้

1.ร้องเพลงที่หลอน ร้องออกมาและร้องให้จบ เพื่อลดความขะยักขะย่อนในหัวให้หมดไป

2.ร้องเพลงใหม่ เพื่อลืมเพลงเดิมและจดจำเพลงใหม่

3.ทำสมาธิ สร้างสมาธิให้ตัวเองด้วยวิธีต่างๆ เช่น เล่นเกม ดูคลิป เย็บปักถักร้อย

4.ทำกิจกรรมอื่น สร้างความสนใจใหม่ๆ เช่น ออกกำลังกาย ทำอาหาร เคี้ยวขนมหรือหมากฝรั่ง

5.ทำใจให้รักเพลงนี้ สร้างความรู้สึกที่ดี และรู้สึกสนุกไปกันเพลงเสียเลย    

ภาพจาก Topline Digital Network

ข้อมูลจาก : ผศ.ธารีทิพย์ ทากิ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์