วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
นักวิชาการแนะ'นักดื่ม' ใช้สถานการณ์โควิด-19เป็นโอกาส 'ลด-ละ-เลิก'แอลกอฮอล์

นักวิชาการแนะ'นักดื่ม' ใช้สถานการณ์โควิด-19เป็นโอกาส 'ลด-ละ-เลิก'แอลกอฮอล์

วันพุธ ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 14.27 น.
Tag : นพ.ดร.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ นักดื่ม นักวิชาการ ไวรัสโคโรนา ศวส. ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา แอลกอฮอล์ โควิด-19
  •  

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 นพ.ดร.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ นักวิชาการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา(ศวส.) กล่าวว่า New normal ของการดื่มแอลกอฮอล์ ชีวิตของประชากรโลกตอนนี้กำลังเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวเข้าสู่New normal อันมีสาเหตุมาจากการระบาดของโรค COVID-19 จากเดิมกิจกรรมมากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตมนุษย์ที่ต้องทำนอกบ้าน ทั้งกิจกรรมที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตและกิจกรรมสันทนาการบันเทิง แต่ตอนนี้เชื่อว่าส่วนมากของประชากรในโลก ต้องกลับมาใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น กิจกรรมหลายอย่างที่เดิมเคยเป็นกิจกรรมที่ต้องทำนอกบ้าน แต่อันไหนที่ต้องปรับมาทำที่บ้าน ก็ต้องถูกเปลี่ยนรูปแบบให้ทำที่บ้านได้ การทำงานเลี้ยงชีพของหลายอาชีพ เปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว การเดินทางของคนเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว การบริโภคจับจ่ายใช้สอยเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว และยังรวมไปถึงกิจกรรมที่เราจะพูดเป็นประเด็นสำคัญในบทความนี้ด้วย นั้นคือ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เดิมทีนั้นคนไทยมีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบ้านมากกว่านอกบ้านอยู่แล้ว โดยจากการสำรวจข้อมูลในรายงานสถานการณ์การดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมไทย พ.ศ.2560 พบว่า ร้อยละ 62% ของนักดื่มไทยดื่มแอลกอฮอล์ที่บ้าน (บ้านตัวเอง 40%, บ้านคนอื่น 22%) และร้อยละ 38% ของนักดื่มคือคนที่ต้องออกไปดื่มตามร้านอาหาร สถานบันเทิง และงานเลี้ยง เมื่อปัจจุบันสถานการณ์โรค COVID-19 ระบาดไปทั่วโลก การดื่มนอกบ้านของนักดื่มไทยจึงหายไปเกือบทั้งหมด ร้านอาหาร สถานบันเทิง งานรื่นเริงทั้งหลายถูกยกเลิก ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ใหญ่มากของอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ เพราะหากพฤติกรรมของผู้ดื่มยังเหมือนเดิม จะทำให้ยอดขายจากนักดื่มที่นิยมดื่มนอกบ้านมากกว่าในบ้านหายไป เรากำลังพูดถึงอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าในตลาดรวมทั้งสิ้น 300,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นตัวเลข 38% ของ 300,000 ล้านบาท ไม่ใช่ตัวเลขที่เล็กน้อยเลย เมื่อผู้บริโภคต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเพราะ COVID-19 อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ก็ต้องเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดในการทำธุรกิจ


เราได้เห็นความพยายามในการดิ้นรนหาหนทางเอาตัวรอดของอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ในช่วงCOVID-19 ดังที่ปรากฎข่าวเมื่อวาน ว่ามีการรวมกลุ่มเฉพาะกิจของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในนาม "สมาพันธ์สนับสนุนการดื่มที่บ้าน" หรือ สสบ.โดยชูนโยบายว่า ดื่มอย่างรับผิดชอบ ไม่เป็นภาระให้คุณหมอ ไม่รวมกลุ่ม ไม่สร้างความรุนแรงในครอบครัว และไม่ก่อความรำคาญแก่เพื่อนบ้าน

อ่านนโยบายแล้วดูเหมือนจะตั้งใจดีต่อสังคม แต่เอาความเป็นจริงทางสถิติมากางกันดีกว่า ว่าคำเสนอของ สสบ.นั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะเกิดขึ้นตามนั้น

ข้อเท็จจริงทางสถิติประการที่หนึ่ง“คนเปลี่ยนมากินเหล้าในบ้านเพิ่มขึ้น”หลังจากสถานการณ์โรค COVID-19 ระบาด และนำไปสู่มาตรการ lock-down ของหลายประเทศทั่วโลก พฤติกรรมการบริโภคแอลกอฮอล์ของคนก็เปลี่ยนไป ที่สหรัฐอเมริกา มีการเก็บข้อมูลการขายแอลกอฮอล์ พบว่า ตั้งแต่เริ่มมีการ lock down ในเดือนเมษายนเป็นต้นมา ยอดขายแอลกอฮอล์ผ่านช่องทาง off-premiseหรือ การซื้อกลับไปดื่มที่บ้าน เพิ่มขึ้น 30 กว่าเปอร์เซ็น แล้วแต่ชนิดของเครื่องดื่ม ที่น่าสนใจคือ มีพฤติกรรมใหม่ที่เกิดเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลในระยะเวลาสั้น ๆ คือการสั่งซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางการซื้อออนไลน์ มากขึ้นถึง 250-290%  นี่คือข้อเท็จจริงทางสถิติที่คิดว่าคงเกิดขึ้นคล้ายกันทั่วโลก เสียดายที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเก็บข้อมูลลักษณะนี้ในไทย แต่สันนิษฐานของผมคือ คนไทยก็คงไม่แตกต่าง เราต้องปรับมาดื่ม-กินในบ้านแทนแน่นอน

ข้อเท็จจริงข้อที่สอง การอยู่ร่วมกันในบ้าน ไม่ได้มีแต่เรื่องที่ดีเท่านั้นที่เกิดขึ้น ในหลายครอบครัว การถูก lockdownให้ใช้ในบ้านยาวนานขึ้นต่อวันนั้น อาจเป็นเรื่องที่ไม่ดี ในทางสถิติเราพบว่าช่วงที่ lockdown นั้น มีรายงานการใช้ความรุนแรงในบ้าน (Domestic violence) เพิ่มขึ้นในหลายประเทศในโลก ประมาณการจากองค์การสหประชาชาติว่า ในช่วงสามเดือนของการ lockdownจะมีเหตุความรุนแรงภายในบ้านเพิ่มขึ้น 20%  ผมไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าการเชิญชวนให้คนดื่มแอลกอฮอล์ภายในบ้านจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมดังนโยบายของ สสบ. กล่าวถึง การเปลี่ยนพฤติกรรมคนให้ดื่มในบ้านอาจจะช่วยประเทศชาติในเรื่องการลดอุบัติการณ์การเมาแล้วขับ แต่อย่าลืมว่าแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการใช้ความรุนแรงภายในบ้าน ดังนั้น การเชิญชวนคนมาดื่นแอลกอฮอลในบ้านนั้นคงไม่ใช่การลดความเสี่ยงของการใช้ความรุนแรงในบ้านแน่นอน

ข้อเท็จจริงประการที่สาม การบริโภคแอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงหลายอย่างต่อโรคค COVID-19 ทั้ง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการรบกวนระบบภูมิคุ้มกันทำให้ภูมิคุ้มกันเราอ่อนแอลง เพิ่มความเสี่ยงต่อความรุนแรงของการติดเชื้อ และนำมาซึ่งการเพิ่มโอกาสในการเสียชีวิตจากโรค ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ยิ่งทำให้คำเชิญชวนให้ดื่มแอลกอฮอล์ที่บ้าน เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณหมอ กลายเป็นคำเชิญชวนที่อาจไม่ตรงตามหลักการแพทย์

กระบวนการที่กลุ่มธุรกิจพยายามเชิญชวนให้นักดื่ม เปลี่ยนพฤติกรรมมาดื่มที่บ้านนั้น เราเรียกว่า Normalization หรือความพยายามที่จะทำให้การดื่มที่บ้านเป็นเรื่องปกติในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคCOVID-19 เมื่อสร้างพฤติกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างได้แล้ว ยอดขายของอุตสาหกรรมก็จะไม่ลดลงมากนัก แม้จะไม่มีการดื่มนอกบ้านเป็นเวลานานเป็นปีๆ ก็ตาม

ใครที่เป็นนักดื่มอยู่ อาจจะลองใช้สถานการณ์ช่วงระบาดของโรค COVID-19 นี้ ตั้งใจลดละเลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเถอะ New normal ที่ควรเป็นสำหรับแอลกอฮอล์คือ การเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ตัวเราปลอดภัยจากโรค สมาชิกในบ้านปลอดภัย สังคมปลอดภัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • นักวิชาการธรรมศาสตร์เสนอแยก\'ประกันสังคม\'ออกจากระบบราชการเพิ่มประสิทธิภาพ-ความโปร่งใส นักวิชาการธรรมศาสตร์เสนอแยก'ประกันสังคม'ออกจากระบบราชการเพิ่มประสิทธิภาพ-ความโปร่งใส
  • รายงานพิเศษ : ชวนนักดื่มคืนความสุขสู่ครอบครัว  หันมา ‘ตรวจตับ – เลิกจับขวด’ รายงานพิเศษ : ชวนนักดื่มคืนความสุขสู่ครอบครัว หันมา ‘ตรวจตับ – เลิกจับขวด’
  • วัฒนธรรมสำคัญไฉน? นักวิชาการชวนมองผลการศึกษา ‘ไทย’เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับโลก วัฒนธรรมสำคัญไฉน? นักวิชาการชวนมองผลการศึกษา ‘ไทย’เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับโลก
  • นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชวนสำรวจบาดแผล ‘เด็ก’ ในยุคที่ต้องกลายมาเป็น ‘คอนเทนต์’ นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชวนสำรวจบาดแผล ‘เด็ก’ ในยุคที่ต้องกลายมาเป็น ‘คอนเทนต์’
  • เพราะเราอยู่กับ‘ความไม่แน่นอน’ นักวิชาการตอบข้อสงสัย ทำไม‘หมอดู’อาชีพครองใจคนทุกยุค เพราะเราอยู่กับ‘ความไม่แน่นอน’ นักวิชาการตอบข้อสงสัย ทำไม‘หมอดู’อาชีพครองใจคนทุกยุค
  • นักวิชาการเล่าเรื่อง‘ศาสตราจารย์’ไม่ได้งานทั้งที่เก่งจริง เพราะ‘แต่งตัวธรรมดา’วันสัมภาษณ์ นักวิชาการเล่าเรื่อง‘ศาสตราจารย์’ไม่ได้งานทั้งที่เก่งจริง เพราะ‘แต่งตัวธรรมดา’วันสัมภาษณ์
  •  

Breaking News

รวบแล้ว!!! 'นักโทษซอยจุ๊' ปีนกำแพงเรือนจำบุรีรัมย์หนี หลังหลบซ่อนในป่าเขากระโดง

ฝากตัวชาว‘วธ.’ ‘อิ๊งค์’ถือฤกษ์ 09.09 น.เข้า‘ก.วัฒนธรรม’วันแรก

'ก่อแก้ว'ขำกลิ้งข่าวดัน'อนุทิน'นั่งนายกฯ ชั่วคราวแก้รธน. ชี้ย้อนแย้ง เหตุภท.ได้ประโยชน์

4X100 พันธุ์ใหม่! บุกจับ ไซรัปผสมกระท่อม 'ปรุงมือ-ไร้มาตรฐาน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved