เรื่องเผาตามประเพณีจีน (กงเต็ก) มีหมอที่จังหวัดพิจิตร หมอผู้หญิงนะ แกเคยไปเจริญพระกรรมฐานที่วัด พ่อเป็นจีน เวลาพ่อแกตาย แกทำบุญเต็มที่ทั้งประเพณีไทยและประเพณีจีน ปรากฏว่า วันหนึ่งแกนั่งเจริญพระกรรมฐานอยู่ เตี่ยก็มาบอกว่า "อีหนู ตึกขี้เถ้า รถยนต์หรือแบงค์ขี้เถ้าที่มึงเผาไป กูไม่ได้รับเลย ผีเขาไม่ใช้ขี้เถ้า"
แกก็ถามว่า "จะให้ทำยังไงล่ะ?" เตี่ยบอกว่า "ถวายสังฆทานให้กูก็แล้วกันที่เอ็งทำบุญไปครั้งนั้น เตี่ยไม่ได้รับเลย และเอ็งก็ไม่ได้บุญด้วย แต่ที่เตี่ยไม่ตกนรก เพราะเตี่ยนึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่"
ลูกสาวถามว่า "จะเอาอะไรบ้าง?" เตี่ยบอกว่า "ถ้ามีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง ๕ นิ้วขึ้นไป เตี่ยจะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดาหรือพรหมเขาถือความสว่างของร่างกายไม่ได้ดูที่เครื่องแต่งตัว ถ้ามีผ้าจีวรด้วย เครื่องประดับของเตี่ยจะสวยขึ้นกว่าเดิมและถ้ามีอาหารด้วย ความเป็นทิพย์ของร่างกายจะดีกว่าเก่า"
แล้วแกขึ้นรถมาที่นี่มาขอถวายสังฆทานก็บอกแกว่า จะถวายสังฆทานที่ไหนก็ได้ แกก็ไม่ยอมถามว่าทำไมไม่ถวายวัดใกล้ๆ แกตอบว่า ไม่ไว้ใจกลัวเขาจะเอาพระพุทธรูปไปขายก็เลยมาถวายที่นี่ แกถามว่า เตี่ยดีขึ้นหรือไม่ ก็ตอบว่า เป็นเรื่องของคุณ ต้องสัมผัสกันเอง เวลาทำสมาธิให้ทำใจปกติ อย่าไปนึกถึงเตี่ย จิตฟุ้งซ่านมันจะไม่เห็น แกก็พยายามทำใจแบบนั้น
ตอนเช้าแกก็มาบอกว่า แกดีใจนอนไม่หลับ เตี่ยแกมาแพรวพราวสวยระยับกว่าเก่า และเห็นตัวเองว่า ออกไปคุยกับเตี่ยก็สวยคล้ายเตี่ย เพราะว่าการถวายสังฆทานให้คนตายนั้นเราเองก็ต้องได้เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ และผีต้องโมทนาจึงจะได้ บุญก็ยังอยู่ที่เราเต็มที่
ในเมื่อแกทำเองอานิสงส์สูง เพราะกังวลน้อย บุญมาก กังวลมาก บุญน้อย ถ้าจัดงานเป็นพิเศษจะไม่ได้บุญเลย งานยิ่งใหญ่เท่าไร บุญยิ่งหดมากเท่านั้น พอเริ่มงามก็ฆ่าปลา ฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ บาปเข้ามาก่อน บุญมันเข้าไม่ได้ มันไม่ถูกกัน
บุญเหมือนแสงสว่าง บาปเหมือนกับความมืด ที่ไหนมืดที่นั้นต้องไม่มีสว่าง ถ้ามีสว่างมันจะมืดหรือถ้าเขาฆ่าไว้เยอะแยะแล้วเราไม่ได้สั่ง มันไม่มีอะไร
มันจำเป็นนักหรือว่า เวลาทำบุญต้องเลี้ยงเหล้ากันด้วยจะต้องฆ่าสัตว์ พระองค์ไหนเขาสั่ง ลงทุนทำบุญทำศพหมดไป ๕-๖ หมื่น พระได้ไปกี่สตางค์ ค่าอาหารพระกินไปสักกี่ช้อน มันเป็นหมื่นหรือเปล่า ไอ้เงินหมื่นจ่ายอะไรกันแน่ บางทีหมดค่าเหล้าไปกี่พันก็ไม่รู้ หมดค่าเชือดไก่เชือดปลาเท่าไร อันนี้ตัวบาปทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องบุญแล้วอ้างว่าทำบุญ ใช่ไหม
การถวายสังฆทานนี่ดีที่สุด สังฆทานนี่บุญใหญ่ด้วย กังวลน้อยด้วย ไปซื้อพระพุทธรูปมาองค์หนึ่ง ซื้อไม่ต้องโมโห อย่าไปต่อขอลดเขามากนักก็แล้วกันและก็ไม่มีอะไร
เขาไม่จำกัดข้าวถ้วย แกงถ้วย ขนมถ้วย น้ำสักแก้ว เขาก็ไม่ว่าอะไร
เราคนเดียวทำได้เลยเรียบร้อย ไอ้นี่บาปนิดเดียวก็ไม่มี ตัวกังวลก็ไม่มี บุญก็บริสุทธิ์และบุญสังฆทานเป็นบุญใหญ่มาก ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ทำบุญกับท่าน ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง แล้วก็ลงทุนไม่มาก กังวลก็ไม่มี
ส่วนการอุทิศส่วนกุศล เคยถามพระยายม ท่านว่า..แม้แต่พระที่อยู่นิพพานยังทราบการทำบุญของคน คนทำความดีนี่พระนิพพานก็ทราบ แล้วท่านก็โมทนา นิพพานอยู่อันดับสูงสุดมาก ก็ไอ้นรกนี่แค่ตูดหมาจะโมทนาไม่ได้หรือ
พระยายมบอกว่า จะเปรียบเทียบให้ฟัง สมมติว่าตัวท่านนี่นะ ผมเอาไฟด้วย เอาหอกเอาดาบขวานมาฟันมาแทงด้วย กินไม่ได้ ร้อน
ท่านก็บอกว่า ทุกขเวทนามันมาก ไม่มีโอกาสโมทนานรกมี ๒ อันดับ ขุมใหญ่กับบริวาร กับยมโลกียนรก ถ้ายมโลกียนรกต้องแบ่งขั้น ถ้าหนักเกินไปก็ไม่มีสิทธิ์โมทนา ถ้าปานกลางไม่หนักมาก อาจจะโมทนาได้เลย โดยเฉพาะถ้าเป็นบุญสังฆทานเห็นจะสู้ไม่ไหว ถ้าถามว่า สังฆทานดึงคนตกนรกได้ไหม ควรจะตอบว่า ยังดึงไม่ได้ดีกว่า
.................................
คัดลอกเนื้อหาจากหนังสือเรื่อง การอุทิศส่วนกุศล หน้าที่ ๒๑-๒๔ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) (ลานธรรมจักร)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี