หมอแนะตรวจหาโควิด-19 'ครู-คนขับรถ-คนทำอาหาร'ก่อนเปิดเทอม

หมอแนะตรวจหาโควิด-19 'ครู-คนขับรถ-คนทำอาหาร'ก่อนเปิดเทอม

วันพุธ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 16.44 น.

วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก "แพทย์ไทย ไอเดียสุด / Doc Idea D" โพสต์ความเห็นว่าก่อนเปิดโรงเรียน  ควรมีการตรวจเช็คโควิด -19 กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียน ทั้งครู ผู้ดูแลเด็ก คนขับรถ คนทำอาหาร ระบุว่า

รายงานทางการแพย์ระบุ บุคลากรทางการแพทย์นั้น​ ทั้งเสี่ยงติดเชื้อมาก


รายงานทางการแพย์ระบุ บุคลากรทางการแพทย์นั้น​ ทั้งเสี่ยงติดเชื้อมากที่สุด​ ... ย้อนไปดูอาชีพเสี่ยง​ จำได้ว่ามี "ครู​ คนขับรถโดยสาร​ คนขายอาหาร" ซึ่งล้วนทำงานในที่ความเสี่ยงสูง​ คือโรงพยาบาล​ และโรงเรียน​ (อัพเดท​ 13.30)

"โดยเฉพาะ​ ครูสอนเด็กเล็ก​ และคนขับรถโรงเรียน" ในกราฟฟิกรูป​ 3​ (กรอบ​ และลูกศรแดง)​

ปัญหาที่่่จะต้องคิดกันให้สะเด็ด​ ก่อนบางโรงเรียนจะเปิดเทอมอีกไม่กี่วันนี้

1.​ จะตรวจ​ Screen​ บุคลากร​ กับนักเรียนกันอย่างไร​ ก่อนเปิดเรียน​ ก่อนกระจาย​ หรือรอกระจายในแต่ละโรงเรียนก่อนแล้วค่อย​ Screen​ ที่หลัง​ ?!?

2.​ ถ้าตรวจเจอ​ "ครู​ เจ้าหน้าที่​ หรือนักเรียน" ไม่สบาย​ หรือมีไข้ใดๆ​ จะต้องทำอย่างไรบ้าง​ กักตัวทันที​ และอื่นๆ รัฐบาลควรมีแนวทางที่เป็นมาตรฐานให้แต่ละ​โรงเรียนหรือไม่​ อย่างไร​ ​?? ไม่งั้น​ พอเจอเด็กมีไข้​มีอาการ​ ก็อาจจจะเก็บเงียบๆ​ เป็นความลับ​ อ้างกลัว​ Panic​ หรืออื่นๆ​ ซึ่งยิ่งทำให้มีความเสี่ยงกระจายได้ทั้งห้อง​ ทั้งโรงเรียน​ แล้วถ้ากฎหมายให้ต้องรายงานทางหน่วยงานราชการเพื่อมาสืบสวนหาผู้ใกล้ชิดทั้งหมด​ จะรายงานกับใคร​ หน่วยงานไหน​ ต้องส่งตรวจกับแพทย์ไหม​ ?!?
.
นโยบายของทั้งโลกอาจจะออกมาคล้ายๆ​ กัน​ คือเด็กเล็กมักไม่ค่อยให้ใส่มาส์ก​ เพราะใส่ก็มีความเสี่ยงในการใส่ผิดๆ​ ถูกๆ​ ความเสี่ยงอาจจะสูงขึ้นอีก​ ทำให้ครูเด็กเล็ก​มีความเสี่ยงมากกว่าครูเด็กโต

วนกลับมารายงานทางการแพทย์​นั้น​ ระบุว่าบุคลากรทางการแพทย์​มี​ % สูงที่จะแต่งงานกันเอง​ จึงทำให้มีปัญหาในการทำงานช่วงโควิดมาก​ เพราะช่วงล็อกดาวน์​ เด็กๆ​ อยู่บ้าน​ พ่อแม่ไปทำงาน

และก็มีปัญหาอื่นๆ​ ตามมา
- เสี่ยงติดเชื้อได้ทุกวินาที
- เสี่ยงกระจายเชื้อให้ครอบครัวตนเองมากที่สุด
- ไม่ได้รับสิทธิ์การตรวจ​ Screen​ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่สนใจตัวเลข​ Carrier​s​ จริงจัง​ ประเทศที่งบน้อย​ ประเทศที่ไม่อยากรายงานตัวเลขจริง
- บางคนโดนให้ออกจากที่พักอาศัยที่ไปเช่าเขา

- มีปัญหาเครียด​ สุขภาพจิตเสีย​ ดังเห็นข่าวบุคลากรทางการแพทย์ที่เจอเคส​ Covid19​ มามากๆ​ ฆ่าตัวตายเป็นระยะ

- ถ้าทำงานใน​ โรงพยายาลทั้ง​ 2​ คน​ ก็ไม่มีใครดูลูก​ ทำให้ลูกจะมีปัญหาอีก
- สังคมอาจหวาดระแวงผู้ที่ใส่ชุดฟอร์ม รพ​ (ซึ่งจริงๆ​ ก็มีความเสี่ยงติเชื้อมากสุดในโลก​ อาจจะตรวมถึงมีเชื้อติดมาในชุด​ฟอร์ม รองเท้าได้จริง
- ที่น่าสนใจมากๆ​ คือ​ บุคลากรที่เป็นกลุ่มแม่บ้านทำความสะอาด​ ผู้ช่วยดูแลคนไข้​ ผู้ช่วยต่างๆ​ ในโรงพยาบาล ที่มิใช่แพทย์​พยาบาลนั้น​ ความเสี่ยงสูงมาก​แต่ฐานเงินเดินน้อย​ (ลูกศรแดงอันขวาสุด​ ล่างสุด, Oderlies​)​ และแถมคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจ​ด้วย​ ... จากวิจัยนั้น​ พอลงสำรวจ​ Screen​ จริงๆ​ ก็เจอติดเชื้อไปแล้วไม่น้อย​ ไม่แพ้แพทย์​ พยาบาลเลย)​

และอื่นๆ​ ที่จะมาอัพเดทให้

......................................

(2) ... กลุ่มอาชีพด้านการศึกษา​ที่ทำงานในโรงเรียน​ มหาวิทยาลัย​
- มีโอกาสความเสี่ยงสูงอันดับรองจากบุคลากรทางการแพทย์
- มีความเสี่ยงกระจายเชื้อสูงทั้งในบ้าน​ หรือโรงเรียน
- เจอนักเรียน​ที่คุมความเสี่ยงยากมาก​ เพราะความรับผิดชอบยังน้อย
- สอนในห้องขนาดเล็ก​ทุกวัน
- ส่วนใหญ่ฐานเงินเดือนไม่มาก​ ถ้าไม่เปิดเทอมนานๆ​ ก็มีความเสี่ยงเรื่องงานอีก
- ต้องดูแลลูก​ ถ้าปิดเมืองเหมือนกัน
- และอื่นๆ​ ที่จะมาอัพเดท

ทางเพจได้ขอเสนอแนวทาง​ ให้มีการตรวจ​ Screen​ บุคลากรทางการแพทย์​ในประเทศ​ไทย​มาพอควร​ (รวมถึงในกลุ่มแพทย์​ไทย​ Fight​ COVID​ ด้วย)​ โดยใช้การผสมผสาน​ทั้ง​ PCR​ และ​ Antibody​ (ได้ผลดีในกรณีโรคเข้ามากระจายนานพอควร​แล้ว และสามารถปิดจุดอ่อน​ PCR​ ได้ )​

ถึงตอนนี้​ จึงเสนอว่า​ "ถ้าจะเปิดเทอม​ไม่ว่ารัฐ​ เอกชน​ หรือ​ Inter ในทุกระดับ​ เราควรมีการตรวจ​ Screen​ บุคลากรในโรงเรียนเพื่อ
- เป็นสวัสดิการให้บุคลากรทางการศึกษาในองค์กร
- เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นของทั้งนักเรียน​ ผู้ปกครอง​ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มาใช้บริการ
- เพื่อเป็นมาตรฐาน​ในการตรวจกลุ่มเสี่ยงอย่างจริงจัง​ เป็นทางการมากขึ้นกว่าเดิม
- เพื่อแสดงออกว่า​ สามารถ​ แบะจริงใจที่จะตรวจหา​ ผู้ติดเชื้อ​ และไม่มีอาการที่จะแฝงตัวในอาชีพเสี่ยงแบบจริงจัง
- เพื่อแสดงออกว่า​ ต้องการหาอัตราการติดเชื้ิอจริงๆ​ ในกลุ่มเสี่ยง​ (Infection​ Attack​ Rate)​ เพื่อเป็นฐานข้อมูล​ (Big​ Data)​ ในการทำนโยบายที่ถูกต้องจริงๆ
- และปัญหาอื่นๆ​ ที่จะมาอัพเดทเพิ่มเติม

ถ้าไม่ทำการ​ Screen​ แบบวางแผนในการหา​ตัวเลข​"อัตราการติดเชื้อจริง​" ที่ทั่วโลกยอมรับ​วิธีการ และนำมาคำนวนสถิติได้จริงๆ​ ... ก็คล้ายๆ​ คิดกันเอง​ในวงแคบๆ​ ของแต่ละประเทศ

แถมปล่อยให้บุคลากรที่เสี่ยงทั่งชีวิตตนเอง​ และครอบครัว​ และผู้ป่วยที่มาตรวจใน​ รพ​ แขวนอยู่บนเส้นด้ายมาตลอด

ตอนนี้อาจจะเริ่มรวมถึง​ สถานการณ์​ในโรงเรียน​ที่ดูแล้ว​ ไม่รู้จะซ้ำรอยกับบุคลากรทางการแพทย์​หรือไม่​ ที่ก็ยังไม่ได้รับการตรวจแบบจริงจังเท่าที่ควร​ รวมถึง

หรือ​ คนขับรถโดยสารสาธารณะในเมืองใหญ่ๆ​​ บุคลากรในสายการบินทั้งใน​ และนอกประเทศ​ ผู้ขายอาหาร

เราน่าจะตรวจ​ และมีหนังสือรับรองอะไรบ้างไหม​ ?!?

เริ่มทำสักนิด​ ทำ​ รายงานผลเป็นทางการมากขึ้น​ ตัวเลขจริงกระโดดบ้าง​ ประขาชนเข้าใจเป็นส่วนใหญ่​ ถือว่าโอเค​กว่า​ ตัวเลขน้อย​ คนคาใจ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top