พิจิตรอากาศที่ร้อนแล้งจัด ส่งผลให้ผักชีมีการปรับราคาพุ่งขึ้นสูงถึงราคากิโลกรัมละ 300-400 บาท พ่อค้าบอกทั้งแล้งทั้งฝน ผลผลิตน้อย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่กล้านำขึ้นมาวางขายบนแผงมากเนื่องจากผักชีจะทนอากาศร้อนไม่ได้ใบจะเหี่ยวแห้งและเหลืองทำให้ต้องแช่ถังน้ำแข็งตลอดเวลา
วันที่ 6 มิถุนายน 2563 จากสภาวะอากาศที่ร้อนและแล้งจัดทำให้ต้นผักชีที่วางจำหน่ายในตลาดมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นโดยจากการสำรวจภายในตลลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร พบว่าผักชีในช่วงนี้มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 300-400 บาทจากราคาปกติที่ผ่านมาผักชีราคากิโลกรัมละ 60-80 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปกติหลายเท่าตัว โดยสาเหตุที่ราคาผักชีมีราคาสูงขึ้นนั้นเนื่องมาจากในปีนี้มีสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดส่งผลทำให้ผักชีมีน้อย เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน จึงทำให้ไม่มีแหล่งปลูกผักชีที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมถึงค่าขนส่งที่ซื้อจากตลาดกลางเพิ่มขึ้น ราคาหน้าแผงจึงขยับแพงขึ้นตามไปด้วย จึงเชื่อว่าจะยิ่งทำให้ราคาผักชีราคาจะแพงขึ้นอีก
นายจันทัด อั้นคง พ่อค้าขายผักที่ตลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร กล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาของต้นผักชีราคาค่อนข้างแพงมากจากราคาปกติที่ผ่านมา ซึ่งราคาขายในตอนนี้จะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 300-400 บาท ในส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาผักชีแพงขึ้นเนื่องจากอากาศที่ร้อนแล้งจัด เมื่อเกิดฝนตกทำให้ต้นผักชีเสียหายโดยการจำหน่ายพ่อค้าแม่ค้าไม่กล้านำขึ้นมาวางขายบนแผงมาก เนื่องจากผักชีจะทนอากาศร้อนไม่ได้จะทำให้ใบจะเหี่ยวแห้งและเหลืองทำให้ต้องแช่ถังน้ำแข็งตลอดเวลา เพื่อถนอมต้นผักชีไม่ให้เสียหาย
สำหรับต้นผักชี มีชื่อพื้นบ้านว่า ผักชีไทย ผักชีลี ผักชีลา ผักหอม ผักชีไร่ ผักหอมน้อย และผักชี ผักชีมีชื่อเรียกหลายชนิดแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก เช่น ภาคเหนือเรียกว่า ผักหอมป้อม และผักหอมผอม ภาคอีสานเรียกว่า ผักหอมน้อย และที่นครพนมเรียกว่า ผักหอมนิยมใช้รับประทานเป็นผัก และตกแต่งในอาหารหลายชนิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี