วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ม่วนซื่นเยือนถิ่นพญานาค'นครพนม-มุกดาหาร'  สัมผัสวัฒนธรรม-ธรรมชาติริมฝั่งโขง

ม่วนซื่นเยือนถิ่นพญานาค'นครพนม-มุกดาหาร' สัมผัสวัฒนธรรม-ธรรมชาติริมฝั่งโขง

วันอาทิตย์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 15.22 น.
Tag : เที่ยวอีสาน coolอีหลี ททท อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ม่วนชื่นริมแม่น้ำโขง coolisan
  •  

ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูฝนอันแสนชุ่มช่ำ ฝนที่เริ่มโปรยปรายทำให้ได้กลิ่นดินกลิ่นหญ้าแบบนี้ ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้ารู้สึกสดชื่นอีกครั้ง เรียกได้ว่าทำอารมณ์อยากออกไปเที่ยวพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่หยุดเชื้อเพื่อชาติ และในช่วงเข้าพรรษาแบบนี้แล้ว สายบุญอย่างแนวหน้าพาเที่ยว ก็ไม่พลาดที่จะพาทุกคนมาสัมผัสวิถีชุมชน กินของอร่อย ไหว้พระขอพรกันที่จังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครพนม ในทริปม่วนซื่นริมแม่น้ำโขง โครงการท่องเที่ยวดีๆ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจะพาทุกไปสัมผัสมนเสน่ห์ถิ่นอีสานจังหวัดที่แม่โขงไหลผ่านกัน

เราออกเดินทางกันแต่รุ่งเช้าจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่สนามบินนครพนมด้วยสายการบินairasia เนื่องจากเป็นการเที่ยวแบบวิถีใหม่สิ่งที่ขาดไม่ได้ในตลอดการเดินทางนั้นก็คือหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันทั้งตัวเราเองและคนรอบข้าง และทางสนามบินเองก็ได้มีมาตรการคัดกรองโรคตามจุดเข้าออกเพื่อความปลอดภัย ในระหว่างการขึ้นเครื่องจะมีการแบ่งโซนผู้โดยสารขึ้นเครื่องเพื่อลดความแออัด เมื่อทุกอย่างพร้อมเราก็ออกเดินทางกันเลย โดยจุดหมายแรกที่เราจะพาไปอยู่ที่จังหวัดมุดาหารคือชุมชนบ้านภู เป็นหมู่บ้านที่มีภูเขาล้อมรอบ เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์ สิ่งแวดล้อมสวยงามพื้นดินอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งต้นน้ำ เมื่อเข้ามาในหมู่บ้านเราจะพบกับการต้อนรับอบอุ่นจากชาวบ้าน และมีการแสดงรำพื้นเมืองของที่ชุมชน ระหว่างการแสดงก็จะมีขนมต้มและน้ำอัญชันให้ดื่มคลายร้อน


 

สำหรับชุมชนบ้านภูนี้ เป็นชุมชนเผ่าผู้ไทย อพยพจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เมื่อ พ.ศ.2387 ตั้งภูมิลำเนาในพื้นที่บ้านภูรวมอายุได้ 130 ปี ผู้ทำหมู่บ้านคนแรกได้แก่เจ้าสุโพสมบัติ จากอดีตถึงปัจจุบัน มีผู้นำและผู้ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน บ้านรวม 15 คน อาชีพหลักได้แก่การทำนา อาชีพของผู้หญิงทอผ้า ผู้ชายเลี้ยงสัตว์ จักรสาน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในระหว่างหุบเขาจึงให้ชื่อว่า บ้านหลุบภู ปัจจุบันเรียกชื่อว่า “บ้านภู” ชาวบ้านภู ได้สืบทอดวิถีผู้ไทยจากรุ่นสู่รุ่นเรื่อยมา เช่นการแต่งกาย ภาษาพูดและวิถีวัฒนธรรม และชุมชนบ้านภูยังได้รับยกย่องเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงระดับจังหวัด ในปี 2559 แหล่งเป็นแหล่งเรียนรู้เศรษกิจพอเพียงต้นแบบด้วย หลังจากการเรียนรู้ไปแล้วแม่ๆในชุมชนได้เตรียมการแสดงพื้นเมืองและพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อไม้ข้อมือและรับพรจากผู้ใหญ่มาต้อนรับกันแบบอบอุ่น ซึ่งเมื่อเสร็จพิธีก็ถึงเวลาอาหารกลางวันพอดี มื้อนี้จะเป็นอาหารพื้นบ้านง่ายๆ มีทั้งข้าวจ้าวและข้าวเหนียวให้เลือกตามความชอบ และเพิ่มความแซ่บความนั่วของมื้อนี้ด้วย ลาบไก่ ปีกไก่ทอด ส้มตำปูปลาร้า ส้มตำไทยและต้มยำปลานิล ในระหว่างรับประทาน จะมีการแสดงพื้นบ้านประกอบให้ดูเพื่อความเพลินเพลินด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยอีกอย่างกันเลยทีเดียว

หลังจากพักรับประทานอาหารกันไปแล้ว ทางชาวบ้านได้มีการสาธิตและขั้นตอนของการปั่นฝ้ายแบโบราณให้ได้ชม และได้สอนวิธีการทำงานฝีมือที่มีชื่อว่า16ชั้นฟ้า15ชั้นดิน ซึ่งเป็นการนำไหมพรมหลากหลายๆสีมาสานกับไม้ที่ขัดกันเป็นหกแฉกสลับสีตามความชอบ แล้วนำมาต่อกันเป็นโมบายไว้ห้อย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมชื่อฟังดูอลังการขนาดนี้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำไว้ในงานบุญต่างๆ หรือเราจะทำประดับตกแต่งไว้ที่บ้านกันเพื่อความเป็นศิริมงคลก็ได้ นอกจากสอนทำโมบายแล้วยังสอนทำพัดจักรสาน ไว้ให้ได้พัดคล้ายร้อนกันด้วย

จุดหมายต่อไปที่เราจะไปนั่นก็คือวัดภูมโนรมย์ หรือวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ เป็นสถานที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ที่สามารมองเห็นทิวทัศน์ของ แม่น้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ภายในวัด มีรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่สวยงามอลังการ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของมุกดาหาร  นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดมีรอยพระพุทธบาทจำลอง พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ให้ได้สักการะขอพรอีกด้วย

เส้นทางที่ขึ้นไปสักการะค่อนข้างสูงชัน บริเวณด้านล่างจะมีรถสองแถวที่ชำนาญทางให้ได้เช่าบริการกัน เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้ว เราจะเห็นพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ชื่อว่า พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดภู และเดินไปทางด้านข้างเราจะเห็นองค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช  หรือ หรือ ปู่ศรีมุกดา ตั้งสง่าอยู่ให้ได้สักการะ ระหว่างทางก็ต้องเดินผ่านระฆังที่ต้องใช้เหรียญตี แล้วอธิษฐานให้สิ่งที่ดีๆกับการดำเนินชีวิตตามความเชื่อ การสักการะขอพรองค์พญานาค ด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน จากนั้นเดินลอดท้องพญานาคทั้ง 7 ช่อง ที่มีความหมายมงคลต่างๆ จากนั้นนำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา และนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบพญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวในแต่ละจุด เมื่อขึ้นไปบนหอแก้วมุกดาหารจะมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขงที่สวยงาม

เราไปไหว้ขอพรกันมาแล้วเรามาแวะพักจิบน้ำชายามบ่ายให้สบายใจในบรรยากาศคาเฟ่สไตล์โคโลเนียลกันที่ สะหวันสำราญ นอกจากเป็นคาเฟ่บรรยากาศดีริมแม่น้ำโขงแล้ว ยังเป็นที่พักระดับพรีเมียมให้นักท่องเที่ยวได้พักกัน โดยจะมีห้องให้พักเพียงแค่5ห้องเท่านั้น

"สะหวันสำราญ" เกิดจากการนำชื่อของสองสถานที่มารวมกัน คำว่า "สะหวัน" มาจาก "สะหวันเขต " แขวงหนึ่งของประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่อยู่ตรงข้ามกับจังหวัดมุกดาหาร "สำราญ" มาจาก "สำราญชายโขง" ชื่อถนนที่ผ่านด้านหน้าที่พักและร้านอาหาร 

เมื่อตะวันใกล้ลับขอบฟ้าก็ถึงเวลาดินเนอร์วันนี้ เราจะพามานั่งชิลล์กินหมูกระทะและดื่มดำกับบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำโขง และที่พิเศษแบบสุดๆก็คือวิวสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวแห่งที่2 ให้เราได้เพลิดเพลินกับการกิน ได้ทั้งอิ่มท้องและยังอิ่มใจอีกด้วย และเมื่อหนังท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน ก่อนที่เราจะหมดวันนี้เราจะมาพักกันที่เบิร์ดเดย์ บูทีค โฮเทล มุกดาหาร

เข้าสู่วันที่สองของการเดินทาง เช้าวันนี้เราจะทุกคนมาชมกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของโบสถ์คริสติดริมแม่น้ำโขงกันที่วัดสองคอน เป็นโบสถ์คริสต์สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2539

วัดสองคอนสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติบุญราศีมรณสักขีทั้ง 7 ที่อุทิศชีวิตในป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิสูจน์ศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากในระยะนั้นผู้คนแถบชายแดนจะศรัทธาและนับถือศาสนาคริสต์กันเป็นจำนวนมาก และบาทหลวงส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด คิดว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส จึงมีคนกล่าวหากันว่าคนที่นับถือคริสต์ช่วงนั้นจะฝักใฝ่ฝรั่งเศส ทรยศต่อประเทศชาติ รวมทั้งมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหลายอย่าง ทางการจึงมีคำสั่งให้ชาวบ้านเลิกนับถือ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมรับว่าจะเลิกแต่ก็ยังนับถือกันแบบลับๆ

หลังจากที่เราได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมกันแล้ว ไม่รอช้าเราไปผ่อนคลายสบายอารมณ์กันที่แก่งกะเบากันต่อเลย แก่งกะเบาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมีทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวลำน้ำโขงทอดยาวซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างประเทศไทย อากาศปลอดโปร่ง มีลมพัดตลอดเวลา ในพื้นที่ของแก่งกะเบายังมีแลนด์มาร์คที่โดดเด่น  คือ รูปปั้นพญานาคหินอ่อน ลำตัวสีขาวหันหน้าไปทางลำน้ำโขงมีความงดงามและสง่างาม องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช (องค์พญานาคประจำคนเกิดวันจันทร์) ซึ่งเป็นรูปปั้นพญานาคสีขาวขนาดใหญ่ ให้ประชาชนได้มาสักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยการลอดท้องพญานาค โดยเริ่มจากส่วนหางไปจนถึงหัว ระเบียงชมวิวมองวิวแม่น้ำโขง เป็นลานกว้างใหญ่ และด้านล่างยังแก่งโขดหินที่ให้เราสามารถเดินลงไปถ่ายรูปกันแก่งหินและถ่ายภาพริมแม่น้ำโขงกันแบบชิดติดแม่น้ำกันเลยทีเดียว

สถานที่ต่อไปถือว่าเป็นไฮไลท์ของจังหวัดนครพนมเลย ถ้ามาจังหวัดนี้แล้วไม่มาก็คงเรียกได้ว่ามาไม่ถึง นั่นก็คือพระธาตุพนมหรือวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารนั่นเอง พระธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีวอกและผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดี ลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนม เท่านั้นยังเป็นที่ เคารพของ ชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว ใครที่ผ่านมาจังหวัดนี้แล้วล่ะก็ไม่ควรพลาดที่จะมาสักการะสักครั้งหนึ่ง

อิ่มอกอิ่มใจกันไปแล้วท้องก็เริ่มร้อง อย่ารอช้าเราไปจุดหมายต่อไปกันเลย คือชุมชนท่องเที่ยวบ้านนาถ่อน เมื่อเราลงจาดรถเราจะเจอชาวบ้านใส่ชุดพื้นบ้านของชาวไทยกวนออกมารำต้อนรับกันแบบอบอุ่น

ชาวบ้านนา มีเชื้อสายมาจากเผ่าไทยกวน เดิมอยู่ที่เมืองป่ง (ปุงลิง) ทางตอนบนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวปัจจุบัน ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทกวนยังฝังรากลึกไปถึงสามอาชีพหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนในชุมชนจนเกิดเป็นคำขวัญติดปากของคนท้องถิ่นว่า ‘เสร็จนา หญิงทอผ้า ชายตีเหล็ก’ ซึ่งหมายถึงการลงแขกดำนา ทอผ้า และตีเหล็ก

ท้องที่เริ่มร้องดังขึ้นแม่ๆก็ไม่รอช้าได้จัดสำรับอาหารเตรียมไว้ ส่วนเมนูนั้นก็จะเป็นเมนูพื้นบ้านง่ายๆ เช่น ไข่เจียว ปลาทอด ลาบปลาเนื้ออ่อน และต้มไก่แซ่บ หลังจากอิ่มท้องกันแล้วแม่ๆ และชาวบ้านได้เตรียมโชว์ตีเหล็กและได้เตรียมสปาเกลือตำรับพื้นบ้านก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง พอได้ลองนวดดูแล้วสัมผัสได้ถึงความสบายตัวและตัวเบาไปเลย นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้การทำจักสานเครื่องมือประมง ไร่นาสวนผสม และเรียนรู้การถนอมอาหารอย่างหนังเค็ม เป็นอีกหลากหลายกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย

หลังจากเราได้นวดผ่อนคลายกันไปแล้ว ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าเราไปต่อกันที่จุดหมายต่อไป คือหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯนครพนม หรือหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม หอสมุดแห่งนี้แต่เดิมเคยเป็น ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) มาก่อน  มีความโดดเด่นที่น่าสนใจ คือ อาคารเก่าแก่สีเหลืองสวยงามที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป ในรูปแบบเรอเนสซอง หอสมุดแห่งนี้ เป็นแหล่งรวบรวมมรดกทางสติปัญญาของชาติที่อยู่ในรูปของหนังสือ สิ่งพิมพ์ โสตทัศนวัสดุ หนังสือภาษาโบราณ หนังสือตัวเขียน จารึก คัมภีร์ใบลาน หนังสือหา ยากที่ผลิตขึ้นในภูมิภาค ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป ทำให้เป็นหอสมุดแห่งชาติที่สวยงามและพลาดที่จะแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้

ก่อนจะไปตะลุยถนนคนเดินเราจะแวะมาเก็บของกันที่ the river hotel เป็นโรงแรมที่ติดริมแม่โขงทำให้บรรยายกาศดี และหลังจากได้พักผ่อนกันไปแล้วเราก็พร้อมที่จะไปตะลุยกินกันที่ถนนคนเดิน นครพนม เมื่อเราเดินทางมาถึงถนนคนเดินในช่วงนี้จะตรงกับงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชพอดี ข้างในข้างจะมีการรำบวงสรวง และตลอดสองข้างทางจะเป็นถนนคนเดินมีของขายเต็มสองข้างทางให้ได้เลือกซื้อเลือกหากันได้ และถ้าเราเดินมาอีกนิดเราจะเจอกับร้านเตี๋ยวเต็มโต๊ะ ข้างในร้านจะตกแต่งออกแนวย้อนยุค  จะมีเมนูหลากหลายเช่น เกาเหลาชาบูหม้อไฟเนื้อและหมู ปีกไก่ทอดเกลือ กุ้งห่อชีส ผัดผักรวม ผัดฉ่าปลาคัง ตำกากเจียว และตำข้าวโพด ขอบอกเลยว่าแซ่บอีหลี่ไปเลยจ้า

เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ มาถึงวันสุดท้ายของทริปริมโขง  เปิดเช้าวันอันแสนสดใสด้วยการไปเยี่ยมชมบ้านลุงโฮจิมินห์ แหล่งดั้งเดิม หลายคนอาจจะคุ้นกับชื่อนี้มาบ้าง ใช่แล้วค่ะนี่คือบ้านของอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่มีประวัติอันยาวนานมาถึงปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยในไทย เพื่อเตรียมการปฏิวัติสู้กับประเทศฝรั่งเศษ โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2467–2474 ลุงโฮได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครพนม มาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่มาจากเวียดนามที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮ การใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทย

บ้านลุงโฮจะแบ่งบ้านเป็น 2 หลัง บ้านหลังแรกตั้งอยู่ด้านหน้า คือ บ้านของเพื่อนคนสนิทลุงโฮที่เข้ามาเคลื่อนไหวจัดตั้ง ต่อมากลายเป็นที่พักลุงโฮจุดแรกในจังหวัดนครพนม บ้านพักอาศัยของลุงโฮตั้งอยู่ด้านหลังของบ้านคนสนิท แทรกตัวอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้นานาชนิดที่ลุงโฮได้ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย ภายในบ้านถูกแบ่งออกเป็นสามห้อง คือสองห้องนอน หนึ่งห้องโถง มีข้าวของเครื่องใช้ที่จำลองในสมัยก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน ห้องนอน  บ้องสูบยา และรูปเกี่ยวกับชีวประวัติท่านประธานโฮจิมินห์ 

และไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านลุงโฮจิมินห์เรามากันที่อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์  ภายในอาคารมีการจัดแสดงรูปปั้นเคารพของประธานโฮจิมินห์เพื่อให้ผู้คนเข้าไปกราบไหว้ ส่วนอีกอาคารหนึ่งจะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองเมื่อตอนสมัยที่ท่านอพยพมาพำนักอยู่ที่หมู่บ้านนาจอก เป็นหุ่นจำลองการนั่งประชุมกับชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านที่นี่ก็อพยพมาสร้างบ้านตั้งถิ่นฐานเช่นกัน มีบ้านจำลองที่ลุงโฮได้สร้างไว้เพื่ออยู่อาศัย อีกทั้งยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ ให้ชมภายในอาคาร

เรามาพักร้อนให้หายเหนื่อยและทานอาหารกลางวันกันที่กูบาร์เฮาส์ “บ้านกูบา” หรือ GooBa House คือ บ้าน พักของนายช่างใหญ่ชาวเวียดนาม บุคคลสำคัญอีกท่านหนึ่งของจังหวัดนครพนม อาคารมีรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกสไตล์เฟรนช์โคโลเนียล

ปัจจุบันได้จัดตกแต่งให้เป็นร้าน GooBa Tea or Coffee เพื่อเป็นที่นั่งชิล จิบชาเวียดนาม กาแฟสด รับประทานขนมและอาหารว่างประจำถิ่น เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความสวยงาม 

เติมพลังเต็มแล้วไม่รอช้าเราก็มาต่อกันที่โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง  ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ซึ่งเป็นถนนเรียบริมฝั่ง แม่น้ำโขง เป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ อธิการโบสถ์ วัดนักบุญอันนาหนองแสงนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่รวมกัน เช่น คนญวน คนไทย คนจีน คนลาวเป็นต้น วัดนักบุญอันนา สวยงามแปลกตา โบสถ์มีลักษณะเป็นหอคอยคู่ เป็นยอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่า มองเห็นได้ในระยะไกล

ก่อนจะจบทริปนี้เราจะแวะจิบกาแฟที่คาเฟ่ 76 a the space เป็นคาเฟ่ที่นำบ้านโบราณอายุ 100 กว่าปี มารีโนเวทให้เป็นคาเฟ่ชิคๆ ได้บรรยากาศวินเทจหน่อย ข้างในเน้นโทนสีขาวเพื่อความสบายตาและอยู่ติดริมแม่น้ำโขง 

แนวหน้าพาเที่ยวได้พาไปลิ้มลองอาหารพื้นเมือง สักการะสิ่งศักสิทธิ์และสัมผัสวิถีชุมชนกันไปแล้ว ทำให้ได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ได้รอยยิ้มเสียงหัวเราะและความสนุกสนานกลับมาเพิ่มพลัง ความเป็นกันเองและวิถีชีวิตที่เรียบง่ายทำให้จังหวัดมุกดาหารและนครพนมมีมนต์เสนห์ที่น่าหลงใหลตราตรึงใจ เป็นการส่งท้ายทริปม่วนซื่นริมแม่น้ำโขงได้อย่างงดงาม 

แม่ชาวบ้านภูออกมาต้อนรับแบบอบอุ่น
แม่ชาวบ้านภูออกมาต้อนรับแบบอบอุ่น
พิธีบายศรีสู่ขวัญ
พิธีบายศรีสู่ขวัญ
อาหารพื้นบ้าน
อาหารพื้นบ้าน
สาธิตวิธีปั่นฝั้ายแบบโบราณ
สาธิตวิธีปั่นฝั้ายแบบโบราณ
สอนการทำโมบาย 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน
สอนการทำโมบาย 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน
ของขายที่ระลึก
ของขายที่ระลึก
วัดภูมโนรมย์ และพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์
วัดภูมโนรมย์ และพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์
องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช  หรือ หรือ ปู่ศรีมุกดา
องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช หรือ หรือ ปู่ศรีมุกดา
ผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบพญานาค
ผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบพญานาค
คาเฟ่ริมแม่น้ำ สะหวันสำราญ
คาเฟ่ริมแม่น้ำ สะหวันสำราญ
บรรยากาศภายในร้าน
บรรยากาศภายในร้าน
บาร์เทนเดอร์ สาธิตชงเครื่องดื่ม
บาร์เทนเดอร์ สาธิตชงเครื่องดื่ม
วัดสองคอน โบสถ์คริสติดริมแม่น้ำโขงกัน
วัดสองคอน โบสถ์คริสติดริมแม่น้ำโขงกัน
บรรยากาศโดยรอบโบสถ์
บรรยากาศโดยรอบโบสถ์
บนนยากาศภายในโบสถ์
บนนยากาศภายในโบสถ์
บ้านที่บุญราศีเคยอาศัย
บ้านที่บุญราศีเคยอาศัย
ภายในอาคารที่เก็บประวัติของบุญราศีทั้งเจ็ด
ภายในอาคารที่เก็บประวัติของบุญราศีทั้งเจ็ด
บรรยากาศบริเวณหลุมฝังศพของบุญราศีทั้งเจ็ด
บรรยากาศบริเวณหลุมฝังศพของบุญราศีทั้งเจ็ด
แก่งกะเบา
แก่งกะเบา
องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช
องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช
บริเวณด้านล่างแก่งกะเบา
บริเวณด้านล่างแก่งกะเบา
พระธาตุพนมหรือวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
พระธาตุพนมหรือวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
รำต้อนรับจากชาวบ้านนาถ่อน
รำต้อนรับจากชาวบ้านนาถ่อน
อุปกรณ์ทำสครับ
อุปกรณ์ทำสครับ
สาธิตกาตีเหล็กแบบโบราณ
สาธิตกาตีเหล็กแบบโบราณ
ของฝากและของขายที่ระลึก
ของฝากและของขายที่ระลึก
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯนครพนม หรือหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  นครพนม
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯนครพนม หรือหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม
บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช
บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช
บ้านลุงโฮจิมินห์ แหล่งดั้งเดิม
บ้านลุงโฮจิมินห์ แหล่งดั้งเดิม
บรรยากาศโดยรอบบ้าน
บรรยากาศโดยรอบบ้าน
ของใช้ส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามหรือท่านบ้านลุงโฮจิมินห์
ของใช้ส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามหรือท่านบ้านลุงโฮจิมินห์
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
กูบาร์เฮาส์
กูบาร์เฮาส์
เมุนูอาหารต่างในร้าน
เมุนูอาหารต่างในร้าน
โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง
โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง
บรรยากาศภายในโบสถ์
บรรยากาศภายในโบสถ์
คาเฟ่76 a the space
คาเฟ่76 a the space

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ททท. เสิร์ฟสีสันความสนุกสนานผ่าน Grand Festivity กับงานเทศกาลว่าวนานาชาติ@ชะอำ ททท. เสิร์ฟสีสันความสนุกสนานผ่าน Grand Festivity กับงานเทศกาลว่าวนานาชาติ@ชะอำ
  • ททท.เปิดตัว\'ญาญ่า\' นางนพมาศงานลอยกระทง \'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567\' ททท.เปิดตัว'ญาญ่า' นางนพมาศงานลอยกระทง 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'
  • \'ชาวแหลมกลัด\'ดีใจ!! นทท.แห่ชมแมงกระพรุนสี มีรายได้ครัวเรือนนับหมื่น/ครัวเรือน 'ชาวแหลมกลัด'ดีใจ!! นทท.แห่ชมแมงกระพรุนสี มีรายได้ครัวเรือนนับหมื่น/ครัวเรือน
  • อาชีวะอุบลฯชวนเที่ยวเมืองดอกบัวชม\'ศิลปะเรืองแสงบนผนัง\'ในงานสัปดาห์หนังสือ อาชีวะอุบลฯชวนเที่ยวเมืองดอกบัวชม'ศิลปะเรืองแสงบนผนัง'ในงานสัปดาห์หนังสือ
  • เช็คลิสต์ 18 โลเคชั่น แหล่งท่องเที่ยวดูดาวแห่งใหม่ของไทย เช็คลิสต์ 18 โลเคชั่น แหล่งท่องเที่ยวดูดาวแห่งใหม่ของไทย
  • อำนาจเจริญเตรียมจัดงานนมัสการ\'พระมงคลมิ่งเมือง\'พระคู่บ้านคู่เมืองอำนาจฯ อำนาจเจริญเตรียมจัดงานนมัสการ'พระมงคลมิ่งเมือง'พระคู่บ้านคู่เมืองอำนาจฯ
  •  

Breaking News

‘ภูมิธรรม’ดันสร้างเขื่อนกรองสารพิษ ‘แม่น้ำกก-สาย’ ป้องกันปัญหาในระยะยาว

'ไอ้มุ้ย'แฟนหนุ่ม'สาวน้ำ'มือสั่ง 5 สมุนอุ้มสังหาร'ดีเจเตเต้'เขาคือใคร?

‘พันธุ์ใหม่’เสียงอ่อย! ‘นันทนา’รับล่ารายชื่อ‘สภาสูง’ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 10 คน

‘สนธิญา’ยื่น‘กกต.’สอบ‘เพื่อไทย’ เลื่อนแจก‘เงินหมื่น’ส่อขัดรธน.หรือไม่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved